www.VlovePeugeot.com - Please Ctrl+D Bookmark Now!

VlovePeugeot.com Webboard


ไปเหนือ 4 วัน 2,240 กม กับ 406
ไปภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่ 4 วันจาก กทม. ก่อนไปตรวจดูสิ่งที่ควรตรวจเช่นเบรค น้ำหม้อน้ำ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์น้ำมันเบรค เช็คยางล้อ ยางหุ้มเพลาเรียบร้อยแล้ว แต่รถอายุ 4 ปีก็สำแดงอาการล้อสั่นที่นครสวรรค์ เขาบอกยางมันไม่เข้าที่ทั้ง ๆ ที่เปลี่ยนยางมาสองปีแล้ว ร้านยางเขาถอดใส่ยางใหม่(ยางเส้นเดิม) ถ่วงล้อใหม่ ล้อละ 100 บาท ทำให้ขับ 160-170 ได้อย่างนิ่ง ๆ ถนนไปเหนือดีตลอดทางวิ่งได้ 140-150 นิ่ง ๆ (เดิมตอนเปลี่ยนก็ว่าดีแล้ว แต่เนื่องจากใช้มาหลายปีและวิ่งใน กทม.มาตลอดไม่เคยวิ่งยาว ๆและเร็วขนาดนี้)ได้ยาวมากเพราะรถน้อยจริง ๆ คงเป็นผลจากน้ำมันแพง
ออกเดินทางประมาณ 5 น.เพราะหยุดแวะชมสิ่งที่สนใจไปตลอดทางถึงแพร่ประมาณ บ่ายสามโมง จากการจอดที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งพบว่ายางหุ้มเพลาตัวในด้านซ้ายฉีกขาดจารบีกระเด็นกระจายในห้องเครื่อง เปิดคู่มือได้เบอร์โทร(ศูนย์เปอร์โยต์แพร่) เขาบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่ได้ขายเปอร์โยต์แล้ว แต่เอาเข้ามาดูได้ ปรากฏว่าไม่มีอะไหล่เปลี่ยนไม่ได้เอาเทปพันรอยแตกไว้ แต่ไปได้ไม่ถึง 100 กม จากรอยขาดรั่วกลายเป็นขาดกระจุยไปเลย
ตอนนั้นเข้าเขตพเยาแล้ว โทรหาศูนย์(เชียงราย) เขาตอบเหมือนแพร่เด๊ะเลยว่าไม่ได้ขายอะไหล่ของเปอร์โยต์แล้ว ตอนนี้ซ่อมเปอร์โยต์ยังสั่งอะไหล่จากร้านอะไหล่ในเชียงรายด้วยซ้ำไป แต่ก็เอื้อเฟื้อบอกชื่อร้านอะไหล่และบอกชื่อช่างซ่อมและเบอร์โทรอู่นอกศูนย์ให้ ตอนนั้น 6 โมงกว่าแล้ว โทรหาช่างคุยกันเขาบอกว่าเป็นอู่ซ่อมรถยุโรปให้เอาเข้ามาดูจะลองหายางเทียบดู กว่าจะไปถึงอู่ก็เกือบ 2 ท่มแล้ว ช่างใจดีให้ลูกน้องตระเวณหาอะไหล่ให้ ได้อะไหล่มาราว 2 ทุ่มครึ่ง ใช้เวลาถอดใส่ประมาณ 1 ชม เขาขอ 1000 บาท(เป็นค่ายาง 800 ค่าแรง 200 ) เรารู้สึกว่าค่ายางเทียบตัวนี้ไม่น่าเกิน 300 บาท แต่ตอนนั้นอย่าลืมว่าเกือบ 4 ทุ่มแล้ว ให้เขาไปเถอะพร้อมขอบคุณที่ช่วยเหลือแพงหน่อยยังไปเที่ยวต่อได้
คุยกับศูนย์เปอร์โยต์ที่แพร่และเชียงรายเขาบอกว่าก่อนเลิกเป็นตัวแทนจำหน่ายเปอร์โยต์ขายได้ปีละไม่กี่คัน ในที่สุดต้องขายรถอื่น ไม่รู้ว่าจังหวัดอื่น ๆ ก็คงเป็นเช่นนี้ รถเปอร์โยต์รถดีที่ไม่มีศูนย์บริการและคงเป็นรถดีที่ไม่มีอนาคต
406 วิ่งเทียวต่างจังหวัดดีมาก เกาะถนน นั่งนิ่ม นั่งไป 4 คน 2240 กม ใช้น้ำมัน 212 ลิตร ลิตรละ 25 เกือบ 26 บาท เฉลี่ย 10 กม ต่อลิตร เพราะวิ่งเกิน 100 ถึง 120 ส่วนใหญ่ ถ้ามีช่วงว่างจะ 130-140 ตลอดจึงซดดุขนาดนี้
ความรู้สึกของคนรถเสียต่างจังหวัดแล้วหาที่ซ่อมไม่ได้เป็นอย่างไรเคยรู้สึกมาครั้งหนึ่งแล้วตอนเอา 405 ไปเพลาขับเสียที่ตรังเมื่อ 4-5 ปีก่อนหาร้านซ่อมไม่ได้ในที่สุดเจอช่างนักดัดแปลงกลึงหัวเพลาใส่เอารถกลับกรุงเทพได้คราวนี้รู้สึกคล้ายกัน ไปถามอู่ไหนก็ส่ายหัวเปอร์โยต์ บอกไม่เคยซ่อม แต่ผมใช้มันอยู่ทุกวันไม่เห็นมันจะน่ากลัวตรงไหนเลย แต่ยังไม่เคยเสียในชิ้นส่วนที่ต้องรอสั่งอะไหล่จาก กทม.จริง ๆสักที ทั้ง ๆ ที่เกือบทุกแห่งบอกว่าจะสั่งจาก กทม.ได้แต่ต้องรอ 1 วัน นี่คือความรู้สึกของคนใช้เปอร์โยต์จาก กทม.แล้วไปรถเสีย ตจว.ครับ แต่อย่างไรก็จะทนใช้เปอร์โยต์ต่อไป แม้ว่าภาษีรถเกิน 1800 ซีซีจะขึ้นก็ตาม เพราะมันเป็นรถดีที่ไม่มีอนาคตเรื่องศูนย์ซ่อม แต่คิดว่าหากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจริง ๆ เพียงค้มครองเราได้ครั้งเดียวก็คุ้มแล้วครับ เดินทางไกลเห็นซากรถญี่ปุ่นที่เกิดอุบัติเหตุแล้วสยองครับ
โดยคุณ : 406 Blue - ICQ : - [ 29 มิ.ย. 2005 , 22:45:46 น. ]

ตอบ คนที่ 1
ผมก็เพิ่งควบ D8 เดินทางจาก กทม. มาถึงเชียงใหม่เมื่อวานนี้เอง แต่วิ่งเร็วได้บางช่วงเท่านั้น เพราะฝนตกหนักมากช่วงกำแพง-ตาก กินน้ำมัน 10.5 กม/ลิตร วิ่ง 150-160 (บางช่วง) รถไม่มีปัญหาอะไร วิ่งนิ่งดีมาก ขับสบายกว่าเมื่อตอนขับโคโรล่ามา ภูมิใจที่ใช้ PG ครับ
โดยคุณ : ... - D8-2000 [ 30 มิ.ย. 2005 , 00:03:26 น.]

ตอบ คนที่ 2
ชอบที่คุณ 406 Blue พูดตอนท้าย ผู้ใช้รถส่วนใหญ่ไม่ค่อยคำนึงถึงเรื่องเซฟชีวิต รถเสียซ่อมได้อะไหล่ก็หาได้ถึงจะยากไปนิดแต่ชีวิตนี่สิ คนไม่ใช้รถยุโรปมักจะไม่เห็นความแตกต่าง คนที่ใช้รถญี่ปุ่นแล้วมาใช้รถยุโรปมักจะติดใจ ส่วนคนที่ใช้รถยุโรปกลับไปใช้รถญี่ปุ่นต้องมีเงินเพื่อที่จะใช้รถญี่ปุ่นอีกระดับนึงเพื่อให้ได้สมรรถนะที่ใกล้เคียงกัน แต่ถ้าไปใช้พวกรถญี่ปุ่นระดับ 1300 - 1600 CC มันคนละเรื่องครับ ความรู้สึกมันแตกต่างกันอย่างมาก เวลาเกิดอุบัติเหตุดูรถเจ้าอาร์ตเป็นไร หน้าบี้ขนาดนั้นประตูหน้าสองข้างยังเปิดได้ปกติและสภาพก็ยังเหมียนเดิมเลย ส่วนโคโรล่าที่แค่กระเด้งไปชนประตูเปิดแทบไม่ออก
โดยคุณ : บอย13 - บอย13 [ 30 มิ.ย. 2005 , 09:28:32 น.]

ตอบ คนที่ 3
รถเคยประสบอุบัติเหตุแหกโค้งที่ตรังเหมือนกันครับ ปรากฏว่า หาอู่ซ่อมแทบไม่ได้เลย แล้วก็ลองเข้าไปที่อู่นึง ซึ่งต้องรอสั่งอะไหล่จาก กทมไป นานมากๆ อีกทั้งซ่อมไปก็ไม่จบอีก โดนไป 70K ต้องกลับมาซ่อมที่ กทม อีก 40 K แต่คุ้มครับ สำหรับความปลอดภัยที่ได้คืนมา
โดยคุณ : oou [ 30 มิ.ย. 2005 , 09:34:24 น.]

ตอบ คนที่ 4
เห็นด้วยกับเรื่องความปลอดภัยครับ สมัยเมื่อจบมาใหม่ๆ ซื้อ Peugeot คัน 405GR มาใช้ สมัยก่อนชอบเที่ยวก็มีชนบ่อยมาก มีอยู่ครั้งครับขับมุดเข้าไปใต้ท้องรถสิบล้อไปชนล้อหลัง ฝากระโปรงบุบ กระจกแตกแต่ตัวเองปลอดภัยครับ ก่อนขายทิ้งพ่อยืมไปต่างจังหวัดโดนสิบล้อพ่วงผ่าไฟแดงมาชนด้านข้างเต็มๆ รถยุบไปครึ่งคันเบาะที่แม่ผมนั่งเหลืออยู่ครึ่งเดียว พ่อผมไม่เป็นอะไรเลย แม่ผมเจ็บแค่ถลอก ถ้าไม่ใช่Peugeot พ่อแม่ผมอาจเป็นอะไรมากกว่านี้แล้วครับ
โดยคุณ : ต้อม 405 SRI [ 30 มิ.ย. 2005 , 11:51:08 น.]

ตอบ คนที่ 5
ยางหุ้มเพลาของ 406 ทนทานมากนะครับ ช่างบอก ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ของผมตั้งแต่ใช้ 406 มาไม่เคยเปลี่ยนยางหุ้มเพลาเลย มีแค่ถอดออกมาดูสภาพเพลาขับและใส่จารบีเข้าไปใหม่เท่านั้น ด้วยเหตุนี้มั้งจึงหาอะหลั่ยตามต่างจังหวัดไม่ค่อยจะได้เพราะไม่เสียบ่อยนั่นเอง ตรงกันข้ามกับ 405 ที่ก็ยังมีใช้อยู่ ยางหุ้มเพลาขาดบ่อยมากแต่ราคายางหุ้มเพลาก็ถูกกว่าเป็นการชดเชยกันไป สำหรับ 406 วิ่งทางยาวๆ นิ่มและสบายมากครับ ถึงที่หมายสบายๆ ไม่เครียดกับการขับรถมากนัก
โดยคุณ : wut - wut [ 30 มิ.ย. 2005 , 23:37:27 น.]

ตอบ คนที่ 6
ใช่ครับ ขอยืนยันด้วยคน ขับทางไกลใช้ 406 สุดยอดครับ ให้ความรู้สึกมั่นคง นิ่มนวล สบายๆมาก ยิ่งถ้าเจอทางดียาวๆด้วย จะนิ่งมาก แถมยังกินน้ำมันน้อยด้วย เทียบกับคันที่เคยใช้อยู่ คนละเรื่อง
โดยคุณ : โอ๋ [ 1 ก.ค. 2005 , 07:35:21 น.]

ตอบ คนที่ 7
ผมใช้วิ่งทางไกลประจำ...สบายเท้าดีไม่ต้องเหยียบคันเร่งเลย...ใช้ระบบล็อคความเร็วงัยครับ
โดยคุณ : hhh [ 1 ก.ค. 2005 , 21:44:03 น.]



Ending By Admin!!!