ความเดิมจากภาคแรก
เนื่องจากฟิล์มที่ติดมาจากทางศูนย์เป็นยี่ห้อ hi-cool ทั้งคันสีชา ซึ่งค่อนข้างร้อนไม่ค่อยโดนใจ จึงอยากลอกใหม่ติด v-cool เนื่องจากได้ยินคำโฆษณาว่ากันร้อนได้ดีสุดในเมืองไทยขณะนี้

ภาค 2 :
วันนี้ได้ไปติดฟิล์มกรองแสงยี่ห้อ v-cool ที่ดรีมคาร์สุราษฏร์ธานี เนื่องจากเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงแห่งเดียวในจังหวัด
ได้นำรถเข้าร้านเวลา 12.00 น. ครั้งแรกต้องการเปลี่ยนฟิล์มใหม่ทั้งคัน และสนใจรุ่น Elite ซึ่งเป็นรุ่นท๊อปของยี่ห้อนี้ ราคาตกประมาณ 24,000 บาท แต่ปรากฏว่าที่ร้านมีเพียงรุ่น sport ซึ่งเป็นรุ่นต่ำสุดทำให้เริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงตัดสินใจเปลี่ยนเพียงบานหน้าแบบเต็ม ราคา 7,000 บาทเพียงอย่างเดียว
เวลาประมาณ 17.30 น. ได้รับคำแจ้งจากทางร้านว่ารถรุ่นนี้ติดฟิล์มยากมากต้องตัดแบ่งเป็นสองส่วนจึงจะติดได้ .... และท่าทางวันนี้คงติดไม่ทัน , กระผมจึงขอโทรไปสอบถามกับทางบริษัทใหญ่ ทางบริษัทบอกว่าติดได้แบบเต็มทั้งกระจกหน้าสำหรับรถรุ่นนี้ ...
จึงแจ้งกับทางร้านว่าถ้าวันนี้ติดไม่ทันก็ไม่เป็นไรขอยกเลิกไป แล้วจะขอไปรับรถ
เมื่อมาถึงทางร้านก็ยังคงติดต่อไปและเสียไปแล้ว 1 แผ่น กระผมทนอดสงสารไม่ได้จึงยอมให้ติดแบบแยกแผ่นไป...
เวลา 19.00 น. ผลงานเรียบร้อย ... ปรากฏว่า
จากเดิมฟิล์มเก่า : film hi-cool สีชาแบบเต็มที่หน้ารถเรียบสนิท
ของใหม่ที่ได้ : film v-cool สีเขียวใสอย่างดี แบบสองแผ่นปะติดกัน มีลายน้ำแถมแบบเต็มแผ่น และรอยจีบรอยยับแบบเต็มขอบ

สอบถามช่างที่ติดฟิล์มได้ความว่าสามารถเคลมได้ แต่ทางร้านไม่สามารถติดแบบเต็มกระจกหน้าได้คงต้องไปติดที่สาขาใหญ่ที่กทม. (และแนะนำอีกว่าที่หาดใหญ่ก็คงติดไม่ได้เหมือนกัน) เนื่องจากทางบริษัท v-cool ค่อนข้างกั๊กวิชาไม่ได้สอนเทคนิคพิเศษให้ ฟิล์มยี่ห้อนี่ค่อนข้างติดยากกว่ายี่ห้ออื่น ประกอบกับรถยนต์ของกระผมเป็นรถยุโรปที่กระจกหน้าโค้งบวกบานใหญ่ทำให้ติดได้ยากมาก

สรุป : เสียเงิน 7,000 บาท ได้ฟิล์มสีเขียวใสแบบสองตอน ร่วมกับมีลายน้ำ รอยจีบ รอยพับแบบเต็มบานมาด้วย , และคงต้องเสียเวลาขับขึ้นกรุงเทพประมาณ 1,600km ไปกลับ และลางานอีกอย่างน้อย 2 วันเพื่อไปติดฟิล์มยี่ห้อเลิศหรูที่เป็นที่กล่าวขานกัน

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : อยู่ดี ไม่ว่าดี , อย่าได้ยึดคติสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นมาใช้เด็ดขาด

ปล. ขอคำแนะนำหน่อยครับ เสียดายเงินจังเลย 7,000 บาทได้ฟิล์มแบบเละ ๆ ยิ่งกว่าพวก 300 บาทอีก ควรทำไงดี

ICQ :

คัดลอกมาจาก website ของ V-Kool

ทำไม จึงต้องติดตั้งในห้องแอร์
ประการแรก ฟิล์ม V-Kool เป็นฟิล์มที่มีความใส ดังนั้นความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ การติดตั้งในห้องแอร์
จึงช่วยลดปัญหาฝุ่น ควัน และสิ่งสกปรก ซึ่งเราจะต้องเจออย่างแน่นอนเมื่อเราติดตั้งฟิล์มริมถนน
ประการที่สอง สมาธิของช่างเป็นสิ่งสำคัญ อากาศที่เย็นสบาย สามารถช่วยให้ช่างมีอารมณ์และสมาธิที่ดีใน
การติดตั้ง งานที่ออกมาจึงมีความสมบูรณ์ ได้มาตรฐาน

ปล. ก็เห็นที่ร้านติดกันที่โล่ง ๆ นี่ละไม่เห็นจะมีแอร์เอออะไร แถมอากาศก็ร้อนติดกันเหงื่อไหลไคลย้อยทั้งคนติดและคนรอ

ติดV-Koolใช้เวลานานเท่าไหร่
โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากฟิล์ม นั้นมีความหนา จึงติดตั้งยากกว่าฟิล์มทั่วไป
ช่างจะต้องมีความพิถีพิถัน เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์มากที่สุด

ปล. อ้าวเหรอ 2 ชม.นี่ทั้งคันเหรอ แต่เฉพาะบานหน้านี้ใช้เวลานานจังเลยนะ ของกระผมล่อไป 7 ชม. แถมออกมาแบบงอม ๆ เลย

สรุป : เฮ้อ ไม่น่ายึดคติ 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็นเลยครับ หลังจากติดฟิล์มเสร็จก็มีอาการมึน ๆ งง ๆ แล้วตัดสินใจไปดูคนเห็นผี 10 ที่โรงหนังเพื่อสงบสติอารมณ์

ปล. สินค้าราคาแพงบางครั้งอาจไม่ได้มีคุณภาพสูงอย่างที่ราคากำหนด แต่บางครั้งคนซื้อก็เตรียมใจไว้สำหรับเรื่องเหล่านี้เหมือนกัน แต่ยังไงก็คงไม่เตรียมใจไว้รับกับคุณภาพของสินค้าและบริการที่ต่ำกว่าสินค้าราคาถูกที่สุดของท้องตลาด

ผมว่าช่างไม่ค่อยเก่งนะ คันอื่นเขาก็ซับซ้อนไม่แพ้กัน ก็เห็นติดกันได้

เอ่อแล้วที่หาดใหญ่นี้ไม่รู้เป็นไงบ้างใครพอรู้บ้างไหมครับ แต่ที่สุราษฏร์นี่ทางนั้นเค้าออกตัวมาแล้วว่าทำไม่ได้ก็ไม่รู้จะบากหน้าติดอีกทำไม

ฟิล์มv kool ไม่ได้ดีที่สุดหรอกเพียงแต่ทำการตลาดได้ดี เป็นฟิล์มใสที่กันความร้อนที่ไม่มีปรอท ในไทยมีรหัส40(เขียว) กับ70(ดำอ่อนๆๆ)เป็นรุ่นดีที่สุด ในเนื้อฟิล์มv kool ทำมาจากเงินใช้ซัก2ปีจะเกิดคราบเหลืองตามขอบกระจก(ตรงขอบฟิล์มอากาศจะเข้าไปทำปฎิกิริยากับโลหะเงินจนเกิดคราบคล้ายสนิม อาจไม่พบในบางคันแต่ส่วนใหญ่จะเป็น) ในวงการฟิล์มจะเรียกว่าสนิม ส่วนพวก ไฮคูล ลามิน่า และอีกหลายยี่ห้อ เป็นฟิล์มระดับกลางที่มีปรอทผสม รขอพูดถึงลามิน่าเค้าทำการตลาดได้ดี โฆษณาเยอะมากกกฟิล์มเลยแพงกว่าความเป็นจริงมากกก(4-5พันหน้าเต็ม) โดยเจาะตลาดระดับกลาง และแถมตามโชว์รูมรถทั่วไป คุณภาพปานกลาง แต่รุ่น L60 max (ถ้าจำไม่ผิด แต่ประมาณนีแหละ)เป็นรุ่นดีที่สุดของลามิน่าคุณภาพเคียงบ่าวีคูล เฉกแตเช่นเดียวกับราคา แต่ก็มีปัญหาสนิมเหมือนวีคูล ส่วนฟิล์มที่อยากแนะนำที่ดีพอกับวีคูลหรือน่าจะดีกว่าคือ huper optik ของเยอรมัน ทำมาจากเซรามิก ใช้นาโนเทคโนโลยี เป็นฟิล์มใส กันความร้อนได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง และไม่เกิดสนิม ส่วนเรื่องราคาก็ไม่หนีวีคูล เคยเค้ามาในไทยแล้วครั้งหนึ่ง(น่าจะเป็น พวกนำเข้าอิสระ)แต่ตอนนี้เพิ่งมีตัวแทนจำหน่าย และกำลังทำตลาด เพิ่งเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ ที่บู้ธขายรถซูบารุ,ปอร์เช่ใส่ชุดแต่งเทคอาร์ท ฟิล์มตัวนี้จะมาแทนวีคูลในไม่ช้านี้ ถ้ามีการตลาดที่ดี

สรุปว่าช่างไร้ฝีมือครับ หน้าด้านเปิดร้านอยู่ได้ไง....เท่าที่รู้ V-Cool ติดไม่ยากไปกว่าฟิล์มลามิน่า ไฮคูล หรือโนเนม ออกจะยืดหยุ่นดีกว่าด้วยซ้ำ ตามที่เคยไปนั่งเฝ้าร้านเห็นเค้าวัดเพื่อตัดจากกระจกด้านนอกแล้วใช้เครื่องเป่าลมร้อน เป่าฟิล์มให้เข้ารูปกระจก "ทั้งบาน" ฟิล์มจะหดจนเข้ารูปกับกระจก ห้ามใช้ไดร์เป่าผมมาเป่าเพราะความร้อนไม่ได้ตามสเปค การตัดก็ต้องเผื่อการหดตัวของฟิล์มด้วยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการ์ณของช่างเป็นสำคัญ...นับว่าคุณ206xs ใจดีมากครับที่ยอมให้ติดแบบต่อ 2 แผ่นพร้อมแถมเงินอีก 7,000 บวกกับค่าน้ำมันเพื่อขึ้นมา กทม. อีกไป-กลับไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท เสียพักร้อนอีก 2 วัน ฯลฯ ....สรุปว่าใจเย็น ๆ แล้วกันครับ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว.....

น่าจะเคลมนะครับ ราคาขนาดนี้ ผมติด Hi-Cool ติดถึงที่บ้านด้วย กระจกหน้าเต็มแผ่น เลือกแบบใส กระจกรถยุโรปจะออกเขียวๆอยู่แล้ว เรียบร้อยดีมากครับ คุณภาพก็ดีทีเดียว ควรจะเคลมเป็นอย่างยิ่งครับ เวลาขับไปแล้วเห็นไปจะยิ่งปวดใจ ต้องรักษาสิทธิ์ครับ รถใหม่ด้วย

นั่นสินะ ไอ้เรามันก็ใจดีไปหน่อย แต่ช่างเถอะผิดเป็นครู คงต้องเคลมละครับว่าจะไปรับสปอยเลอร์ท้ายกะของแต่งทีกทม.ช่วงก่อนสงกรานต์เห็นทางศูนย์บอกว่ามาแล้วแล้วจะไปเคลมที่กทมละครับไม่กล้าติดแถวตจว.แล้วครับ .... เด๋วจะไปหาเพลงตั๊กลีลา หรือเต็มโชว์ไม่รู้มาเปิดฟังขณะขับไปกทม.ครับ
... ไม่มีฝีมือ ฝีมือ รั้งเธอไม่ให้เขาแย่งไป ...

เคลมเถอะครับ ถ้าร้านเล่นตัวมากก็ไปหาบริษัทแม่เลยครับ

การเคลมเกิดจากการติดตั้งที่ไม่ถูกต้องของช่างทางบริษัทจะรับผิดชอบหรือเปล่าครับคือดูไปดูมาหากคิดได้ 2 แง่
1. สินค้าดีแต่ช่างนำไปติดตั้งไม่ดี บริษัทแม่จะรับผิดชอบไหม
2. ถ้าตัวแทนไม่มีความสามารถแล้วสินค้าเสียหาย บริษัทแม่รับผิดชอบหมดทุกอย่างหรือ
... ความเห็นของผมน่ะ เมื่อเราจ้างเขาทำอะไรแล้วไม่ได้ตามเป้าหมายที่เราจ้าง เรามีสิทธิ์ที่จะไม่จ่ายค่าจ้างนั้น ๆๆ ผมเอาคืนทุกบาททุกสตางค์ ......... แล้วไม่ต้องแก้ตัวครั้งที่ 2 เพราะคิดไว้เลยว่าเขาไม่มีความสมารถ .

ติดต่อบริษัทแม่แล้วครับทางนั้นบอกต้องใช้ใบรับประกันครับ แต่ตอนรับรถผมก็ถามแล้วทางร้านบอกว่าไม่ต้องใช้ ใช้แค่ใบเสร็จแล้วไปเคลมกทม.ได้
ผลปรากฏทางกทม.บอกว่าต้องใช้ใบรับประกันเท่านั้น ก็เลยติดต่อกลับไปที่ร้านเจ้ากรรมเดิม พนักงานมันบอกว่าติดแค่บานหน้าที่ร้านไม่ออกใบรับประกันให้ ถ้าหนูออกใบรับประกันให้ทุกคนที่ติดบานหน้าก็ตายกันพอดี (วอนมะ) , ดังนั้นจึงโทรไปบอกกับทางบริษัทใหญ่ว่าทางนั้นบอกไม่ออกให้ ทางบริษัทจึงโทรไปเคลียร์ให้แล้วบอกว่าได้รับใบรับประกันแล้วจากทางร้าน (เห๋อ ๆ มันเล่นอะไรของมันกันเนี่ย)

แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ... ผมต้องขับรถไปกทม. แล้วไปทำเรื่องเคลมที่บริษัทแม่ แล้วไปติดที่ร้านข้างนอกอีกครั้งเนื่องจากบริษัทแม่บอกว่ารถแปลก ๆ ไม่แน่ใจว่าติดได้ป่าวต้องไปติดร้าน 27 speed ชัวว์กว่า (ทั้งที่ทางแถวนั้นไม่เคยไปและไม่รู้จักทางในกทม.ดีพอด้วยซ้ำ) .... แถมยังบอกอีกว่าต้องเสียค่าบริการติดตั้งอีก 500 บาท (แสบมะ) ผมก็เลยแจ้งไปเลยว่าถ้าผมไปเคลมกระจกหน้า และไปติดตั้งฟิล์มกระจกข้างและกระจกหลัง (ต้องเสียอีกราว ๆ 17,000 บาท) แล้วยังต้องเสียค่าบริการอีก 500 บาทค่าติดตั้งกระจกอีกหรือนี่ ถ้าต้องเสียจริงก็ไม่ติดมันแล้วด้านข้างกะด้านหลัง .... อุบาทว์จริง

สรุป : หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว ก็วางแผนว่างานนี้ผมจะไปเคลมที่กทม.แน่ ๆ แต่... งานนี้ถ้ามีอะไรแปลก ๆ เจอวีนแตกทั้งบริษัทแน่

ปล. การที่บางครั้งเราเป็นคนใจดี ปล่อยให้คนเห็นแก่ตัวบางคนหาผลประโยชน์จากเราไปได้นั้น ก็ทำให้ตะบะแตกเหมือนกัน ในเมื่อถ้าต้องขับรถไปถึงกทม. (ไปกลับราว 1,500 km) แล้วยังต้องไปเจออะไรที่หงุดหงิดอีก ... ละก็ หึหึ ... น่าดู (ยิ่งผมไม่ค่อยชอบวีนคนด้วย แต่ถ้าวีนต้องวีนมันที่ Boss) ให้มันรู้เรื่องรู้ราวเลย แล้วถ้ามันเฮงซวยมากนักละก็ ไอ้ฟิล์มเรื่องมากนั้นก็ไม่ติดก็ได้ แล้วค่อยไปหาร้านในกทม. ติดยี่ห้อเกรดเออื่นก็ได้ เซ็งงงงง แล้วจะเอาฟิล์มเฮงซวยของมันไปเผาหน้าบริษัทเลย คอยดูละกัน

27 Speed เจ๋งจริงตามเค้าว่าแหละครับ...งานเนี้ยบ..ฝีมือดี...ขึ้นชื่อในวงการ...รถยุโรบใช้บริการกันเยอะลอง Searce เข้าไปที่ Home Page เค้าก็ได้ที่ 27speed.com ...ร้านตั้งอยู่แถว ๆ สุขุมวิท 62 ...ลองดูครับ