www.VlovePeugeot.com - Please Ctrl+D Bookmark Now!

VlovePeugeot.com Webboard


สอบถามความเห็นรถรุ่น 306 1.8 SR
ขอรบกวนเพื่อน ๆ ใน web ทุกท่านครับ ว่ามีใครใช้รถรุ่น 306 1.8 SR มาแล้วบ้าง น่าใช้เพียงไร พอดีสนใจรถปี 96 อยู่ ขอบคุณครับ
โดยคุณ : pisek - ICQ : - [ 12 ส.ค. 2004 , 11:20:12 น. ]

ตอบ คนที่ 1
รวมๆแล้วนุ่นว่าก็ีดีนะคะ
เช่น ตัวรถมันขนาดเล็ก แต่เครื่องมัน 1.8 เงี้ย ก็แรงอ่ะ นุ่นชอบ....

แล้วก็ปี 96 นี่มัน เบรก ABS ก็ดีอ่ะ

ไม่ดีก็อีตรงเวลาซ่อมเนี่ยอาหลั่งจะแพงก่า 405 นิดหน่อย หายากก่านิดนึง แต่ก็หาได้อ่ะนะ

แล้วก็มันกินน้ำมันอ่ะ ไม่รู้คันอื่นเค้าไงนะแต่นุ่นนี่วิ่งต่างจังหวัด 8 กม.ลิตรอ่ะ

มีไรอีกหว่า คิดได้แค่เนี้ยอ่ะ ซื้อซิ จะได้มารวมแก๊งค์กันนะคะ
โดยคุณ : 306_SR - 306_SR [ 13 ส.ค. 2004 , 08:31:37 น.]

ตอบ คนที่ 2
ของผมปี 1999
ข้อดีครับ
ช่วงล่างยอดเยี่ยม
คล่องตัวมากๆสำหรับการใช้งานในเมืองโดยเฉพาะ กทม. แต่ไม่ประหยัดน้ำมันเพราะเครื่อง 1.7 เกือบ 1.8 (เป็นรุ่น 1800 CC)
เปรียบเทียบกับรถญี่ปุ่นระดับเดียวกัน สมรรถนะของ 306 ดีกว่าเยอะมาก (จากที่เคยลองใช้งาน) แต่ไม่มี Airbag ราคามือสองจะซื้อได้ถูก ค่าบำรุงรักษาผมเข้าแต่ศูนย์ (ไม่ค่อยมีเวลาว่างเลยเข้าศูนย์เพราะสะดวก) อะไหล่ศูนย์แพงมากๆ ช่างจะหาเรื่องให้เปลี่ยนตลอด แต่ถ้าเข้าอู่ที่สมาชิกใช้บริการกันน่าจะดีกว่า ภายในค่อนข้างแคบ เหมาะสำหรับคนยังไม่มีครอบครัว เพราะเบาะหลังนั่งไม่สบายเท่าไหร่ (แคบไปนิด) แต่โดยรวมแล้วผมพอใจค่อนข้างมากครับ รอนุ่นจังและพี่ๆท่านอื่นมาตอบนะครับ
โดยคุณ : 306 - 306 [ 13 ส.ค. 2004 , 08:41:06 น.]

ตอบ คนที่ 3
นุ่นรถนุ่นวิ่งทางไกลภาษาอะไรทำไมกินตั้ง 8 กม./ล นี่มันอัตราในเมืองนะ ทางไกล 405 sri ยังได้ 12-13 กม./ล.เลย ลองเช็คใหม่สิ.
โดยคุณ : บอย13 - บอย13 [ 13 ส.ค. 2004 , 09:25:34 น.]

ตอบ คนที่ 4
นุ่นบรรทุกข้าวสารกลับบ้านป่าวเนี่ย
เราได้ 12-13 กม/ลิตร ที่ความเร็วเฉลี่ย 120 กม/ชม. นั่ง 4 คน
โดยคุณ : 306 - 306 [ 13 ส.ค. 2004 , 09:48:25 น.]

ตอบ คนที่ 5
หลายประเทศในยุโรปเป็นเมืองเก่าถนนหนทางไม่กว้างอย่างในอเมริการ จึงจำเป็ฯต้องใช้รถขนาดเล็กเน้นความกะทัดรัดและความคล่องตัวๆไว้ก่อน กระทั่งญี่ปุ่นหัดทำรถออกขายและส่งไปบุกตลาดยุโรป จนได้รับการต้อนรับจากลูกค้าอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ชื่อเสียงในด้านความแข็งแรงทนทานจะเป็นรอง แต่รู้จักเอาใจด้วยลูกเล่นต่าง ๆ ให้ไว้หลายอย่างจนทำให้ตลาดสนใจคอมแพ็คคาร์กันเป็นพิเศษด้วยสนนราคาค่าตัวไม่แพงจนเกินไป

คอมแพ็คคาร์รุ่นใหม่ไม่ได้ยึดติดกับคอนเซ็ปต์มาตรฐาน หน้าสั้นท้ายกุดในสไตล์แฮทช์แบ็ก 3/5 ประตู เพียงอย่างเดียว ทางโรงงานออกแบบส่วนท้ายยาวขึ้นฟุตเศษ กลายเป็ฯรถซีดาน 4 ประตู และยังทำเป็นแบบสปอร์ตเปิดประทุนออกมาครบเวอร์ชั่น
ซึ่งหน้าตาของ PEUGEOT 306 ยังเป็ฯการออกแบบโดย PININFARINA ส่วนหน้าเป็นฟอร์มเดียวกับรุ่น 405 แต่ทำตัวทันสมัย
กว่าเดิมเล็กน้อย เพราะรสนิยมของลูกค้าต่างกันออกไป และเป็นรถ CBU นำเข้าจากฝรั่งเศส

ในบ้านเราเห็ฯรุ่น SR ซีดาน 4 ประตู เข้ามาก่อน ตามมาด้วนรุ่น CXR แฮทช์แบ็ก 5 ประตู 1.8 ลิตร ขนาดเดียว ลูกค้าเท้าหนักคงอยากได้ความแรงไว้ซ่าส์บนถนน รุ่น XSi 3 ประตู แฮทช์แบ็กจึงสั่งมาจำนวนไม่มากนัก เน้นความแรงเอาไว้ด้วย
ทวินแคมฯ 16 วาล์ว 2.0 ลิตร และปิดท้ายด้วยร่น CABRIOLET เปิดประทุนรับลมรับแดด เป็นการสร้างค่านิยมให้กับคนชอบ
ของนอกแท้ ๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์จึงเน้นการถ่ายละครหลายเรื่องจนคุ้นตากันเป็นอย่างดี
ขนาดท้วม ๆ PEUGEOT306 SR วางตัวเป็ฯคอมแพ็คคาร์ขนาดกลาง ทางโรงงานมีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายขนาด
ไม่ว่าเบนซินหรือดีเซล เร่มจากรุ่นประหยัด 1.4 ลิตร 75 แรงม้า ขึ้นไป แรงสุด ๆ กับทวินแคมฯ 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 163 แรงม้าแต่สั่งเข้ามา
ขายในบ้านเราไม่จำเป็ฯต้องเลือกกันให้เสียเวลา จึงเป็นขนาดกลางค่อนข้างใหญ่หากเทียบกับขนาดตัว และดูแลง่าย ๆ บนตัวถังแบบซีดาน
4 ประตู และแฮทช์แบ็ก 5 ประตู น่าจะพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไป


บล็อก XU7JP ขนาดกะทัดรัดไม่แน่นห้องเครื่อง สามารถตรวจเช็กส่วนต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นได้ไม่ลำบาก เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง วางขวางและขับล้อหน้า โอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ขนาด 1,761 ซี.ซี (83.0x81.4 มม.) อัตราส่วนกำลังอัด 9.25:1 ติดแคตาไลติกคอนเวอร์เตอร์มาจากโรงงาน หัวฉีด อิเล็กทรอนิกส์ MAGNETI-MARELLI แบบ MULTIPOINT
ได้แรงม้า 103 DIN/6,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 15.6 กก.-ม./3,000 รอบต่อนาที

อัตโนมัติขับง่าย
ความสะดวกสบายไม่ว่าใครก็อยากได้ถึงจะเป็นรถขนาดเล็ก PEUGEOT 306 ซึ่งสั่งเข้ามาขายในบ้านเรายังเลือกได้ว่าต้องการ
รุ่นประหยัดขับสนุกด้วยเกียร์ซิงโครเมซ หรือต้องการความสะดวกสบาย ต้องหันไปใช้เกียร์อัตโนมัติแทน หากคุ้นเคยกับเกียร์ธรรมดา
มานานจะเป็นเกียร์ซิงโครเมซ 5 จังหวะ รุ่น BE3 ใช้คลัตช์แบบแห้งแผ่นเดียวบังคับการทำงานด้วยไฮดรอลิก มีอัตราทดเกียร์ 3.46,
1.87, 1.28, 0.95 และ 0.74 ถอยหลัง 3.33 เฟืองท้าย 3.79:1
ส่วนรุ่นอัตโนมัติเอาใจลูกค้าซึ่งต้องการความสะดวกสบาย และใช้รถในเมืองกันเป็นหลัก เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ZF รุ่น HP 14 ควบคุมการทำงานด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ล็อกอัพทอร์คอนเวอร์เตอร์ช่วยทำให้จังหวะการเปลี่ยนเกียร์เงียบและนิ่มนวล อัตราทดเกียร์ 2.51, 1.42,
1.04 และ 0.77 ถอยหลัง 2.94 เฟืองท้าย 3.82:1 หากต้องการเล่นเกียร์เองก็พอทำได้ แต่อย่าลืมปลดล็อกเวลาเปลี่ยนจากเกียร์ 3 ลงมาเกียร์ 2 ส่วนจากเกียร์ 4 ไปเข้าเกียร์ว่า (N) ก็ต้องปลดล็อก ไม่เหมือนรถญี่ปุ่นที่เลื่อนคันเกียร์ไปเข้าเกียร์ว่างได้ทันที
ระบบพวงมาลัยคงไม่มีระบบไหนดีกว่า RACK AND PINION เพราะขนาดเล็กกะทัดรัดโดยมีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวน้อยไม่เกะกะห้องเครื่อง และน้ำหนักเบาไม่ทำให้ช่วงล่างหน้ารับภาระของชิ้นส่วนต่าง ๆ มากนัก สามารถปรับระดับได้ตามความถนัดพร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรง เพื่อให้ขับได้เบาแรงถึงยางติดรถจะไม่กว้างนักก็ตาม สามารถทำวงเลี้ยว 10.9 เมตร ถือว่าดีพอเหมาะกับคอมแพ็คคาร์ แม้จะกว้างกว่ารถญี่ปุ่นขนาดเดียวกันบ้างก็ไม่มากจนน่ารังเกียจ


เกาะถนนพอตัว
แม้ PEUGEOT 306 SR เป็นเพียงรุ่นประหยัดและเครื่องยนต์ไม่แรงนัก แต่ระบบกันสะเทือนสามารถการันตีได้ เพราะพัฒนาให้เกาะถนนดีไม่ให้เสียชื่อ PEUGEOT ล้อหน้าจึงเป็นแบบอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัท คอนโทรลอาร์ม ช็อคแอบซอร์บเบอร์ คอยล์สปิรงและเหล็กกันโคลง ส่วนล้อหลังสไตล์ถนัดด้วยแบบอิสระ เทรลลิ่งอาร์ม ช็อคแอบซอร์บเบอร์ ทอร์ชั่นบาร์และเหล็กกันโคลง ไม่แตกต่างไปจจากร่นใหญ่ซึ่งขึ้นชื่อมาก่อนเพียงแค่ย่อส่วนให้เล็กลง

กระทะล้อเป็นเหล็กอัดฝาครอบล้อแบบเต็มตามสไตล์ของรถรุ่นประหยัด สามารถทำความสะอาดได้ง่ายขนาด 5.5Jx14 และยาง
GOODYEAR GR65 ขนาด 175/65 TR 14 กำลังเหมาะ สูบลมยางล้อหน้า 30 ปอนด์/ตารางนิ้ว และล้อหลัง 28 ปอนด์/ตารางนิ้ว หากต้องการให้เกาะถนนและทำตัวเป็นสปอร์ต ควรเปลี่ยนเป็นขนาด 195/55R15 และล้ออัลลอยขนาด 6.5Jx15 ความสูงพอกับยางติดรถและไม่ล้นออกมานอกบังโคลน แต่รูนอต 108 มม. อาจจะหายากเอาการ
แรงม้าไม่มากเพียงแค่ร้อยตัวและเป็นเกียร์อัตโนมัติ ระบบเบรกจึงต้องไว้ใจได้โดยเป็นแบบ 2 วงจรอิสระ หม้อลมเบรกพร้อมวาล์วปรับ
แรงดันเบรกล้อหลังและระบบเบรก ABS ติดมาเป็นมาตรฐาน เพิ่มความมั่นใจว่าล้อไม่ล็อกตายหรือท้ายปัดแม้แต่น้อยเวลาเบรกกะทันหัน โดยล้อหน้าเป็นดิสก์เบรกชนิดมีรูระบายความร้อนและดรัมเบรกบนล้อหลังสามารถจัดการม้าตัวใหญ่ให้เชื่องได้ เพราะท้ายรถก็ไม่ยาวและน้ำหนักกดล้อหลังไม่มากไปกว่ารุ่นแฮทช์แบ็กเท่าไรนัก
คล่องตัวถูกใจ
การออกแบบรูปร่างหน้าของ PEUGEOT 306 SR เป็นแบบซีดาน 4 ประตูท้ายสั้น แต่เปิดได้กว้างเกินตัวขนสัมภาระขึ้น-ลงสะดวก จนเป็นเหตุทำให้มีความคล่องตัวเหมาะกับการใช้งานในเมือง แรงม้า 103 ตัว ไม่จำเป็นต้องมีแอโร่พาร์ให้เกะกะสายตา ส่วนความแข็งแรงของโครงสร้างและโครงหลังคาเป็นเหล็กกล้า ป้องกันสนิมด้วยระบบ ELECTROPLATING ไม่ต้องห่วงเรื่องการผุกร่อน กันชนทำจากวัสดุสังเคราะห์พ่นสีเดียวกับตัวรถ มีแถบยางกันกระแทกด้านข้างตลอดแนวในระดับเดียวกับกันชน

ฝากระโปรงหน้าเทลาดรับไฟหน้าและไฟเลี้ยวทรงเรียวเข้าชุดกัน กระจกหน้าขนาดใหญ่ และกระจกประตูแบบชิ้นเดียวทำให้ทัศนวิสัยดี เสาหลังค่อนข้างหนาเน้นความแข็งแรง กระจกมองข้างเป็ฯสีดำด้านปรับด้วยมือจากภายใน ลดทอนส่วนซึ่งเป็นโครเมียมออกไปเพื่อให้มีความเป็นสปอร์ตตามสมัยนิยม เสาอากาศยังคงเป็นแบบติดบนหลังคาเหมือนร่นอื่น ๆ ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของรถฝรั่งเศส ไฟท้ายดีไซน์เดียวกับรุ่นแฮทช์แบ็กแทบไม่เห็นความแตกต่าง

ภายในทันสมัย แผงหน้าปัดโค้งมนเป็นยูรีเธนโฟมอัดขึ้นรูปชิ้นเดียวกลมกลืนกับแผงประตูและเบาะนั่ง กล้องเก็บของส่วนบนและได้แผงหน้าปัดขนาดเล็ก เกจวัดต่าง ๆ พอเหมาะกับการใช้งาน เกจวัดความเร็วและเกจวัดรอบขนาด เกจวัดต่าง ๆ พอเหมาะกับการใช้งาน เกจวัดความเร็วและเกจวัดรอบขนาดใหญ่ แยกส่วนเกจวัดความร้อนและเกจวัดน้ำมันเอาไปไว้คนละด้าน
พร้อมสัญญาณไฟเตือนมองเห็นชัด พวงมาลัยสปอร์ต 3 ก้าน ปรับระดับตามความถนัด สวิตช์ต่าง ๆ ย้ายจากตำแหน่งคุ้นเคยในรถญี่ปุ่นไปอย
ู่คนละด้าน แต่ไม่ถนัดมือกับแตรซึ่งเป็นก้านบนคอพวงมาลัย


ช่องแอร์ขนาดใหญ่ให้ความเย็นเหลือพอสำหรับเมืองร้อนอย่างบ้านเรา สิวตช์แอร์ทำเป็นแบบปุ่มหมุนขนาดใหญ่ใช้งานสะดวกมือ
และสวิตช์ ซึ่งไม่ค่อยได้ใช้บ่อยนักอยู่ถัดลงมา วิทยุ-เทป สเตอริโอพร้อมลำโพง 4 ตัว สุ้มเสียงพอฟังได้ ช่องเก็บเอกสารในแผงประตูและในคอนโซลกลางสำหรับวางของกระจุกกระจิก บัคเกตซีตห้นผ้าปรับเอนนอนได้ด้วยปุ่มหมุนแบบรถยุโรปและเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ 3 จุด หน้า-หลัง เพื่อความปลอดภัย เซ็นเตอร์ล็อกและรีโมตควบคุมให้เป็นมาตรฐาน แต่น่าเสียดายว่ากระจกไฟฟ้ามีให้เฉพาะประตูหน้าเท่านั้น

วิ่งสนุกขับสบาย
แม้ว่า PEUGEOT 306 SR จะเป็นคอมแพ็คคาร์รุ่นประหยัด สั่งเข้ามาเอาใจลูกค้าที่อยากได้ความแรงระดับชาวบ้านสำหรับ
ใช้งานทั่วไปจึงเน้นความคล่องตัวและความประหยัดเป็นหลัก แต่ความแรงจากบล็อก XU7JP ขนาด 1.8 ลิตร 103 แรงม้า ก็มากพอทำให้สมรรถนะออกมาไม่เลว และขับสบายด้วยเกียร์อัตดนมัติเหมาะกับการใช้งานในเมือง สามารถทำความเร็ว 174 กม./ช.ม
อัตราเร่ง 0-100 กม./ช.ม. ใน 14.5 วินาที คงไม่อืดจนเกินไป
โดยคุณ : Auto Weekly [ 13 ส.ค. 2004 , 10:42:28 น.]

ตอบ คนที่ 6
ได้ขอมูลที่ละเอียดมาก ๆ เลยครับ ต้องขอขอบคุณทุกท่านอย่างมากเลยครับแล้วจะแวะเวียนเข้ามาใน Web บ่อย ๆ
โดยคุณ : pisek [ 13 ส.ค. 2004 , 12:31:54 น.]

ตอบ คนที่ 7
รถนุ่นได้ 8 จิงๆ กุ้มใจจะตาย ล่าสุดให้อาไปล้างปีกผีเสื้อกะพวกเซ็นเซอร์ ยังไม่หายเลยคล้ายๆจะกินหนักกะ่เดิมด้วย ...เป็นมานานแล้วนะ ตั้งแต่ซื้อมาใหม่ๆก้ได้ประมาณ 10 กม.ต่อลิตรอ่ะ เพิ่งรู้ตัวว่ารถตัวเองกินก็ตอนมาเจอพวกพี่ๆอ่ะ

อารายทำไม 405 ตัวใหญ่ก่ากินน้อยก่าอ่ะ

เนี่ย.....ไม่เชื่อถามพี่อ๊อด (mo306XR) ได้เลย รถเค้าก็เป็นเหมือนกัน
โดยคุณ : 306_SR - 306_SR [ 13 ส.ค. 2004 , 14:16:18 น.]

ตอบ คนที่ 8
รถผมล้างชุดปีกผีเสื้อแล้ว เช็คเซนเซอร์แล้ว เปลี่ยนกรองเบนซิน แล้วได้ 6.5 - 8 กม/ลิตร ใน กทม กลุ้มจริงๆ ครับกับราคาน้ำมันปัจจุบัน
โดยคุณ : Geo - Geo [ 13 ส.ค. 2004 , 22:34:50 น.]

ตอบ คนที่ 9
เป็นจริงๆครับเรื่องกินน้ำมันมาก (ไม่ได้กินเฉยๆ...กินมากกกกกก..เลยครับ) ล้างทุกอย่างแล้ว วาว์ลก็ตั้งแล้วยังไม่ดีขึ้นเลย ขับก็เบาที่สุดแล้ว ใจเย็นสุดๆ แถมด้วยปล่อยไหลเลยเอ้า.....ทำไมมันยังกินน้ำมันนะ กลุ้มใจจริงๆ
***ในเมือง 6-7 ก.ม./ลิตรเลยหละครับ
โดยคุณ : MO306 - MO306 [ 14 ส.ค. 2004 , 08:32:01 น.]

ตอบ คนที่ 10
ใช้ดีครับ.........ผมว่าคุ้มค่ารถมือสอง
ดูดีกว่า.......ใหม่กว่าในราคาเดียวกัน
โดยคุณ : NUM_HAPPY_306SR [ 15 ส.ค. 2004 , 13:50:14 น.]

ตอบ คนที่ 11
ใช้ดีครับ ผมใช้ปี 97 วิ่งได้ 103200 กม.ซื้อต่อจากมือ 1 สามปีแล้ว หมดค่าซ่อมไปใน 3 ปี ไม่เกิน 30000 บาท อาทิตย์นี้ไปปัตตานี ไป -กลับ ประมาณ 530กม.แวะในเมืองหาดใหญ่ด้วย ทั้งขาไปและกลับ เติมน้ำมันไป 800 บาท แต่ขับไม่เร็วส่วนใหญ่ไม่เกิน 100 กม./ชั่วโมง ผมว่าคุณภาพและรูปร่างยังไปได้ดีสวยไม่ล้าสมัยนัก คิดว่าจะใช้และไม่ขาย ยกเว้นถ้ามันเก่าและเกเรมากครับ
โดยคุณ : 306lสีน้ำเงิน [ 15 ส.ค. 2004 , 21:13:09 น.]

ตอบ คนที่ 12
ถ้าต้องการความประหยัดน้ำมัน ไม่ควรเลือกครับ เพราะไม่ประหยัด ของผม 306 SR ปี 2000 ซื้อมือสองมาแบบคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง ราคาค่อนข้างสูง แล้วยังยกเครื่อง ทำเกียร์(อัตโนมัติ)ไปอีกเกือบห้าหมื่น ขับในเมือง ถ้ารถติดมากๆ ก็ราว 6-7 ก.ม. / ลิตร ถ้าไม่ติดนัก ก็คงจะได้ราวๆ 7-8 ยังไม่เคยเอาไปวิ่งทางไกลยาวๆสักครั้ง จึงไม่มีข้อมูลกรณีวิ่งทางไกล แต่ถ้าว่ากันในเรื่องสมรรถนะ ความเกาะถนน ความนิ่มนวลของการเปลี่ยนเกียร์ ผมว่า O.K. เลยครับ ดีกว่ารถญี่ปุ่นขนาดเดียวกันทุกยี่ห้อที่เคยขับมา คงต้องชั่งใจว่า อยากได้คุณสมบัติด้านใด
โดยคุณ : P [ 24 ส.ค. 2004 , 16:02:17 น.]

ตอบ คนที่ 13
ใช้มา 5 ปี กว่า ตอนนี้ 127,000 โลแล้ว ในเมืองยัง 9- 10 กิโลลิตร อยู่เลยตรับ เทียบกับรถยุ่นแล้ว คนละ Feeling เลยครับ
โดยคุณ : jam [ 10 ก.ย. 2004 , 19:32:00 น.]

ร่วมเสนอแนะความคิดเห็น....
กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว
อย่ากดยกเลิกกลางคัน อันจะเป็นเหตุให้ตัวเลขกระทู้ไม่ตรงได้ครับ 
จาก : *
email :
icq :
Username :
Password : สมัครสมาชิก
รูปภาพ :
ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้นครับ(ไม่เกิน 50K)

รายละเอียด
Icon new Icon old
*
*

กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว
อย่ากดยกเลิกกลางคัน อันจะเป็นเหตุให้ตัวเลขกระทู้ไม่ตรงได้ครับ