ก่อนอื่นต้องออกตัวขอบคุณ อาดำริห์ก่อนที่ให้คำเสนอแนะมา คือเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาอยู่รถก็วิ่งกินน้ำมัน พร้อมกับมีกลิ่นน้ำมันออกมาจากท่อไอเสีย ผมพยายามปรับแต่ง ล้างเซ็นเซอร์ ปลั๊กไฟ กล่องควบคุม เรียกได้ว่าเกือบทั้งหมด มันวิ่งดีนะครับและกินน้ำมันเพิ่มจากเมื่อก่อน มาวันเสาร์ที่ผ่านมาได้เข้าไปเยี่ยมอาดำริห์ และนั่งคุยกันพร้อมกับยิงคำถามว่า อาครับรถมีกลิ่นน้ำมันพร้อมกับกินน้ำมันเพิ่มขึ้น เท่านั้นเองอาบอกว่าลองดูที่เซ็นเซอร์ตัวหนึ่งที่อยู่ตรงคาน เหนือหม้อน้ำ ซึ่งผมคิดว่าตัวนั้นเป็น เวคคัมแอร์ ผมก็ว่ามันปกตินะเพราะมันก็ชดเชยรอบเครื่องทุกครั้งที่แอร์ทำงาน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ครับ ตัวนั้นมีหน้าที่บังคับลิ้นปีกผีเสื้อด้วย ในกรณีแอร์ทำงานโดยอาศัยท่อลมดูด และตัวเซ็นเซอร์บังคับจังหวะพร้อมสั่งงานไปกล่องควบคุม อาทดสอบบอกว่ารู้สึกมันจะเสื่อมๆ ผมก็ไม่รอช้าครับวันรุ่งขึ้นโทรสั่งน้องวรรณที่เอกชัยทันที เอามา 1 ตัวเปลี่ยนซะแต่อธิบายอย่างไงเอกชัยก็ไม่รู้ว่าคือตัวไหน หน้าตาอย่างไง น้องวรรณบอกว่าตัวเร่งปั้มแอร์หรือเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจบอกว่าเอามาส่งที่ทำงานก่อนแล้วกันถ้าผิดตอนเย็นจะเข้าไปเปลี่ยน ปรากฎว่าเอามาไม่เหมือนกันเลยตอนเย็นก็เลยเข้าไปที่เอกชัยเมื่อวาน พร้อมกับเอาของที่มาส่งคืนแล้วก็ให้ออกมาดูของจริงที่ตัวรถ งงเลยครับไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร ต้องเข้าไปหยิบสมุดเปิดกันใหญ่ทั้งเล่มไม่มีตัวนี้ ต้องถึงพี่หน่อยโทรไปถามคุณอาวุธเจ้าของร้านถึงได้เรื่อง เจ้าตัวนี้มีอยู่ในซีตรองครับ ในคู่มือ 405 ไม่ปรากฏแต่ไม่เท่านั้นราคาครับ 3700 บาทลดราคาแล้วด้วย ตัวนิดเดียวเองทำไมแพงขนาดนี้ ไม่เอาหล่ะซื้ออยากอื่นติดมือกลับบ้านด้วย ไส้กรองอากาศ กรองน้ำมันเครื่อง น้ำยาหล่อเย็น ถึงบ้านก็ถอดตัวนี้ออกมาแล้วล้างด้วยน้ำยา เอาลวดเส้นเล็กมาแหย่เข้าไปตรงในรูซึ่งคาดว่ามันจะตัน รูเล็กมากนะครับเล็กกว่าปลายไม้จิ๋มฟันอีก แล้วเอาปากดูดๆ เป่าๆ จากนั้นก็ฉีดน้ำยาล้างอีก ล้างปลั๊กเสียบด้วย ใส่เข้าที่ใช้ได้เลยครับไม่เสียมันทำงานปกติ ก็ใส่มาถึงเมื่อวานมันยังกินน้ำมันอยู่นะมีกลิ่นน้ำมันยังอยู่ ก็มาดูที่สายปิ้งเลย หัวสายที่เสียบมันบานออกทำให้อากาศดูดไม่เต็มที จัดการตัวหัวที่ยานทิ้ง เสียบใหม่คราวนี้เครื่องเดินเรียบ กลิ่นน้ำมันไม่มีอีกเลย มาทดสอบวันนี้ที่ไปต่างจังหวัดมา จากเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนก็วิ่งเส้นทางเดียวกัน เติมน้ำมันเต็มถังเหมือนกันของเดิมวิ่งไปได้แค่ 520 โลไฟน้ำมันโชว์ต้องเติมขากลับที่อ่างทอง พอวันนี้เติมเต็มถังวิ่งเส้นทางเดียวกันมาจอดหน้าปากซอยบ้านวัดได้ระยะทาง 732 โลพร้อมไฟน้ำมันโชว์เหมือนกัน โห้ ดีขึ้นตั้ง 200 โลนี่แหล่ะครับผลของเจ้าตัวนี้ สมาชิกที่ใช้ SRI GRI มีเจ้าตัวนี่อยู่ก็ดูๆ กันด้วยนะครับบางทีมันตัน หรือไม่สายท่อลมเสียบหลวม มาบอกๆ กัน

ICQ :

เดาไม่ออกเลยครับ ขอรูปตำแน่งของมันหน่อยได้ไหมครับ

พี่เฮงครับ ไอ้ตัวที่อยู่ตรงแผ่นปิดหน้าหม้อน้ำใช่หรือเปล่าคับ ของอาร์ตเต็มถังวิ่งใน กทม. ได้แค่ 450 กว่าโลเองครับ ขนาดเครื่อง 1.6 นะ สงสัยต้องให้พี่เฮง สอนเคล็ดวิชาบ้างแล้ว ไม่รู้ว่ามันเสียหรือเปล่า ส่วนกลิ่นน้ำมันก็มีบ้าง แต่ไม่ได้ติดใจ เพราะคิดว่าท่อไอเสียใหญ่อ่ะครับ เลยเหม็นมากหน่อย

ขอดูรูปหน่อยครับนึกไม่ออกว่าตัวไหน
ขอบคุณครับ

ไม่ได้เอากล้องมา เดียวผมให้คุณทอมเอามือถือลงไปถ่ายภาพมาให้ดูครับ อธิบายก่อนนะครับว่ามันไม่ได้ทำให้ประหยัดมากขึ้น แต่มันทำให้ของคนที่กินน้ำมันจากสเปกเดิมๆ กลับมาได้เท่ากับสเปก ผมวิ่งโดยใช้ความเร็ว 130-140 ตลอดทางเลยเสียวเหมือนกันกลัวด่านจับความเร็วว่าเกิน 90 กม/ชม อ้อ ถ้าได้รูปและลองตรวจสอบดูแต่อย่าเอาอะไรแหย่งลงไปลึกมานะครับ ข้างในเป็นผ้าปั้ม เอาแค่เท่าความยาวของเดือยก็พอ และถ้าให้ดีท่อลมที่ว่าถ้าดูแล้วมันแข็ง และบานตรงรูเสียบก็หาเปลี่ยนเลยครับเมตรเดียวไม่ถึง 50 บาทมันจะได้เสียบได้แน่นๆ เพื่อไม่ให้แรงดูดจากท่อไอดีลดทอนลงจากการรั่วซึมของความหลวมท่อลม รอดูรูปนะครับ

ถ่ายรูปมาให้ดูหน่อยสิ พี่เฮง ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ตัวอะไรน่ะ....แล้ว Mi มีด้วยเปล่า.....คุณเฮง

ขอรูปดีกว่าครับ นึกภาพตามไม่ออกจริงๆ

อย่าเพิ่งว่ากัน ใช้ถ่ายจากโทรศัพท์ เลยเล็กไปหน่อย

ใต้แผ่นเหล๊กสี่เหลี่ยมนั้นมี เซ็นเซอร์ตัวดูดอยู่ข้างล่าง มีท่อลมเส้นเล็กๆ ต่อไปที่กล่องลิ้นลิ้นปีกผีเสื้อ ทำอย่างที่ว่าที่ตัวเซ็นเซอร์ (ข้อระวังอย่าแทงมันลงไปนะครับ) ใช้แหย่งระหว่างท่อลมเล็กๆ ให้เขม่าที่อาจติดหลุดออกมาแล้ว จากนั้นก็ดูท่อลมว่าตัวเสียบหัวมันบานและแข็งหรือเปล่า ถ้าเป็นก็ตัดปลายออกได้สายมันยาวพอ เอาไม้หรือลวดแหย่งๆ ได้ดูว่ามีอะไรตันหรือเปล่า จากนั้นเสียบกลับได้เลยแล้วลองดู ติดเครื่องสังเกตุเครื่องยนต์นิ่งขึ้นไหม หรือไม่ก็วิ่งทดสอบได้ ไปหล่ะครับจะไปถ่ายน้ำมันเครื่อง

ตัวนี้เป็นตัวหน่วงคอมเพรสเซอร์ใช่ใหมครับ และถ้าสายvacumn รั่วอาการคือ รอบจะสวิงขึ้นสูงบ่อยๆ