วันที่ Meetting พี่วันชัยได้ทำการติดท่ออากาศเข้ากับกรองอากาสให้ (ที่ศูนย์เค้าแกะออก) กันการดูดน้ำเข้าของท่ออากาศ คงจะกลัวมากไป เพราะรถนั้นไม่ใช่เรือ)
หลังทำการวิ่งกลับบ้านรู้สึกได้เลยครับว่าวิ่งดีขึ้นเลย อัตราเร่งดีกว่าเดิมพอสมควรครับ
เลยคิดว่าสำหรับท่านที่ใช่ 406 และแกะออกลองใส่เข้าทีดูสิครับ เผื่อจะเห็นความแตกต่าง
ขอบคุณพี่วันชัยและเพื่อน ๆ สมาชิกที่ช่วยใส่ให้ครับ

น่าสนใจมากค่ะ รบกวนคุณวันชัยหรือผู้เชี่ยวชาญช่วยอธิบายวิธีการและรายละเอียดอีกสักนิดด้วยค่ะ จะไปจัดการกับเจ้า 406 EA9 ที่ใช้อยู่ดูบ้าง ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ของผมก็โดนแกะครับ ตอนแรกไม่รู้ว่าศูนย์ปลดท่อ ออก แต่ขับแล้วเสียงเครื่องมันฟอดๆๆ ดังหยาบๆ และรู้สึกว่า อืด ผมก็นึกโทษปั๊มน้ำมันที่เติมมาล่าสุดว่าอาจเจอน้ำมันปลอมปน วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุด พอมี่เวลาตรวจเช็ครถตามปกติ เลยเจอตัวการ ตอนแรกผมโกรธ และ ดูถูกช่างมาก ( ตอนนั้นเพิ่งเข้าเช็ค 10 ,000 ก.ม. มา ) นึกว่าช่างถอดแล้วลืมใส่ให้ เลยโทรไปที่สุรวงศ์ ช่างบอกว่า หลายคันมีปัญหาตอนลุยน้ำท่วม เครื่องจะดูดน้ำเข้าไป บางคัน ไส้กรองอากาศโดนแรงดูดน้ำแรงๆ กรองฟีบไปเลย แถมเครื่องพังอีก ก็เลยปลดออกให้ทุกคันที่มา service ครับ
แต่ผมบอกช่างว่าอย่างนี้รถก็ดูดอากาศร้อนภายในห้องเครื่องเข้าไป ( ปกติ อากาศเย็น จะมีความหนาแน่นมากกว่า ร้อน ) จะทำให้กำลังเครื่องลดลง แต่ช่างบอกว่าได้ทำการทดสอบเปรียบเทียบกันแล้ว ไม่แตกต่างกัน ???
ตอนนี้ผมได้สวมปากท่อเข้าไปตามเดิม ตอนผ่านน้ำขัง ก็ใช้ชลอเอาครับ

ผมเป็นคันหนึ่งครับ ที่ลุยน้ำแล้ว
เครื่องดูดน้ำเข้าไป เครื่องดับทันทีครับ ตามศูนย์มาลากไป ทำการแก้ไขให้ ประมาณ 1 อาทิตย์
ทราบว่า ต้องเปิดฝาสูบด้วย
เพื่อตรวจสอบว่ามีการเสียหาย
ภายในด้วยหรือไม่ ผลไม่มีอะไรเสียหาย
ก็นำเป็นความที่ยังไม่โชคร้ายมาก
หรือไม่ ในช่วงที่ผมลุยนั้น ผมใช้รอบ
ต่ำมาก แรงกระทำเลยยังไม่รุนแรงเท่าไร
ใช้มาตั้งแต่นั้น 2 ปีแล้วไม่มีอาการใดผิดปกติกับเครื่องยนต์ มีแต่เสียง
ดูดอากาศที่ดังขึ้น เนื่องจากถอดท่อออก
ตามคำแนะนำ
ผมเห็นตามทีเพื่อนแนะนำมา ก็คิดว่าถูกเช่นกัน
อยากใส่กลับอยู่เหมือนกัน
แต่ถ้าเจอน้ำท่วม ต้องลงไปถอดก่อนแน่
กลัวมากครับ

เมื่อวานเย็น ลองไปใส่กลับครับ
เร่งลื่นขึ้น เห็นได้ชัดครับ
แต่เหมือนเดิมครับ ถ้ามีแววว่า
จะต้องลุยนำ้ท่วม ต้องรีบถอดแน่

แบบนี้แสดงว่าการที่เครื่องดูดอากาศร้อนในห้องเครื่องเข้าไป ทำให้แรงม้าลดลงไป สิครับ

ผมไม่ค่อยรู้เรื่องเทคนิคเท่าไร แต่ใน
ความรู้สึกผม รู้สึกได้เลยครับว่ามีผล
มาก หรือ ว่าเครื่องมันเงียบกว่าเดิม
เลยทำใหคิดว่าไม่อืด ก็ไม่รู้

เรื่องอากาศเข้าเครื่องนี่มันคงเกี่ยวแน่นอนครับ
อากาศร้อนความหนาแน่นต่ำ ก็เหมือนมีมวลอากาศเข้าไปน้อย
อากาศเย็นความหนาแน่นสูง เหมือนมีอากาศเข้าไปเยอะกว่า (ที่ปริมาตรเท่ากัน) มันก็แรงกว่าแน่นอนครับ พวกเทอร์โบแรงๆถึงต้องติดอินเตอร์คูลเลอร์ลดอุณหภูมิอากาศไงครับ
อีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือเวลาขับรถบนเขาสูงๆความหนาแน่นอากาศต่ำก็จะมีผลคล้ายๆกันครับ

นอกจากความร้อน/เย็นของอากาศแล้ว
มวลของอากาศที่ถูกดูดมาตามท่อก็มีผลครับ เหมือนดูดกาแฟไม่ใช่หลอดดูดยังไงก็ไม่ขึ้นใช้ไหมครับ(เกี่ยวกันหรือเปล่าเนี่ย)

ใช่แน่เลยครับครับ ขนาดและความยาวก็มีผลสำคัญด้วย พวกรถรุ่นใหม่ๆยุคที่ผ่านมาถึงมีท่อไอดีที่มีลูกเล่นประหลาดๆ บางยี่ห้อมีลิ้นข้างในไว้แบ่งอากาศเป็นช่วงรอบต่ำ-ท่อยาว ช่วงรอบสูง-ท่อสั้น (ท่ออย่างที่ว่าใน peugeot ก็มีครับ รุ่น 306 S16 ไง) เนื่องจากต้องการปรับความเร็วและความยาวคลื่นอากาศให้เหมาะกับรอบเครื่องยนต์ช่วงที่ต้องการแรงสูงที่สุด
นอกจากนี้ยังมี resonance chamber คอยให้อากาศพักตัวรอเวลาถอนคันเร่ง เมื่อเร่งใหม่จะได้มีอากาศเข้ามาเร็วๆ

ไม่ใช่แต่ท่อไอดีนะครับที่ขนาดและความยาวสำคัญ ท่อไอเสียก็สำคัญ(มากๆ)ด้วย คิดง่ายๆ เราจะเป่าลูกดอกให้ได้เร็วๆก็ต้องใช้ท่อขนาดเล็กพอเหมาะกับแรงเป่าของเราไงครับ ใหญ่ไปก็เป่าไม่มีแรง เล็กไปก็เป่าไม่ออก แก้มปวดเหมือนกันครับ

สำหรับการถอดและการใส่ก้อง่ายครับ แต่ควรทำตอนเครื่องเย็น คุณผู้หญิงก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองครับ ผมคุยกับคุณปอนด์(Web Master) แกจะลองสเกตภาพไว้ใ้ห้ผู้ที่สนใจลองทำดู และสามารถถอดได้ช่วงหน้าฝนนี้ แต่รออีกซักพักนะครับ

ตัวท่อที่ว่าจะสังเกตเห็นได้นะครับในรูป คือให้สังเกตหม้อกรองอากาศก่อนครับ แล้วค่อยมองต่ำลงไป จะเห็นท่อที่ห้อย ไม่มีจุดยืดครับ
วิธีคือจะต้องถอดกล่องหม้อกรองอากาศให้หลุดออกมาครับ โดยดึงออกง่ายๆ ครับ
จากนั้นจะสังเกตเห็นครับว่าจะมีเขี้ยวอยู่ด้านหน้า ซึ่งเป็นเขึ้ยวที่เอาไว้ใส่ท่อที่บอกตะกี้นะครับ
จากนั้นเอาท่อใน่เข้าไปครับ จะมีร่องอยู่ครับ ใส่ตามร่องได้เลยครับ
จากนั้นก็เอาหม้อกรองอากาศปิดใส่กลับเข้าไปครับ

ข้อสำคัญ ระวังท่อนี้หากท่านนำรถลุยน้ำ น้ำจะเข้าไปในเครื่อง ทำให้เสียหายได้ครับ

ICQ : 42110047