vlovepeugeots.com - Please Ctrl+DBookmark Now!

vlovepeugeots Webboardl


ข้อมูล 405 ที่น่าจะมีประโยชน์!! บ้าง
Copy From Siamcar.com
PEUGEOT 405
รถจากแดนฝรั่งเศส รูปหล่อราคาประหยัด สมรรถนะแจ๋ว รถคันนี้มีชื่อเสียง เรียงนามตามสูติบัตรว่า Peugeot 405 ส่วนจะมีรหัสอะไร ต่อท้ายบ้างนั้น เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน สาเหตุที่หยิบรถคันนี้มาแนะนำ เป็นเพราะว่ามันมีความ น่าสนใจในหลายๆด้านอยู่ไม่น้อย อย่างที่ได้เกริ่นไปในช่วงต้น นั่นแหละส่วนไอ้ที่ว่าจะดีจะเลว อย่างไรนั้นเรามาช่วยกันชำแหละกันเลยดีกว่า
หุ่นดีจากปลายดินสอของ Pininfarina
405 นับว่าเป็น Peugeot ในยุคเจเนอเรชั่นใหม่ หลังจากที่เลิกคบหากับการใช้ ระบบขับเคลื่อนล้อหลังมาเป็น ล้อหน้า มันจึงได้รับการพัฒนาในหลายๆด้าน ใหม่ความทันสมัยปราดเปรียว มากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา โดยเฉพาะด้านรูปทรง ที่ทาง Peugeot ได้ลงทุนว่าจ้างให้ Pininfarina จากประเทศอิตาลี รับงานนี้ไปรับผิดชอบ

ผลงานที่ออกมาก็ไม่ได้ ทำให้ผิดหวัง 405 กลายเป็นขวัญใจ และกระชากสายตาผู้พบเห็น ให้หันกลับมามองได้ไม่ยาก ยิ่งในช่วงเปิดตัวครั้งแรก ในบ้านเราเมื่อปี 1989 มันมีรูปร่างหน้าตาที่ฉีกแนว ไปจากเพื่อนฝูงร่วมถนน อย่างเด่นชัด ด้านหน้าโฉบเฉี่ยวเรียวแหลม เหมือนรถสปอร์ต ส่วนด้านท้ายเก๋ไก๋ สะดุดตาด้วยไฟท้ายทรงแปลก เหมือนตัว L วางนอน เพียงแค่นี้มันก็ครองใจ วัยแรงได้แบบไม่ยากเย็นแล้ว แต่ที่วัยรุ่นไม่ค่อยนิยมเห็นจะ เป็นเพราะหาของแต่งได้ยากนั่นเอง 405 ยุคแรกที่ออกขายในบ้านเรา ทางยนตรกิจจัดการ ยัดชุดแต่งตัวถังใส่ มาให้เบ็ดเสร็จทุกคัน อันได้แก่ สปอยเลอร์หน้า , ชายสเกิร์ตข้าง , ชายสเกิร์ตหลัง และสปอยเลอร์หลัง ไม่ว่าจะเป็น GR หรือ Mi16 ทำให้รถคันนี้ดูออกจะดุเกินเหตุ ไปหน่อยจนผู้ใหญ่บางคนไม่ชอบใจนัก ( ชุดแต่งนี้ความจริงเป็นของรุ่น Mi16 ) แต่สำหรับในเรื่องคุณภาพวัสดุนั้น ออกจะด้อยไปสักนิด ไม่ทราบว่าเป็นของที่ผลิต ในบ้านเราเองหรือว่า สั่งเข้ามาจากต่างประเทศ ( น่าจะทำเองมากกว่า ) ถัดมาในรุ่นหลังๆ ( Minor change ) ที่ใช้รหัสต่อท้ายว่า GRi และ SRi กลับไม่มีชุดแต่งใส่มาให้ กลายเป็นรูปร่างมาตรฐานธรรมดา ดูแล้วเกลี้ยงเกลางามไปอีกแบบ พร้อม กันนั้นก็เปลี่ยนไฟท้ายใหม่ และฝากระโปรงสามารถ เปิดได้ถึงแนวกันชนหลัง เหมือนรถรุ่นใหม่ทั้งหลายด้วย แต่หากสามารถหาชุดไฟหน้าแบบกลม 4 ดวง มาเสริมเข้าไปรับรองได้ว่า หล่อขึ้นอีกไม่น้อยเชียวแหละ
ตามโหงวเฮ้งของ 405 มองดูแล้วแต่ง ขึ้นอยู่ไม่น้อย ตัวถังแทบไม่ต้องไปแตะต้อง อะไรให้วุ่นวายเปลืองสตางค์เล่น เพียงแค่เลือกหาอัลลอยสวยๆขอบ 16” หรือ 17” สักชุดมาแปะปั้กเข้าให้ ก็เป็นอันจบล่ะขอรับท่านผู้ชม ทีนี้มันมีปัญหาอยู่ที่ว่า ไอ้เจ้าขนาดระยะห่างรูนอต ( PCD ) ของ Peugeot เนี่ยเขาไม่ค่อยเหมือน ชาวบ้านชาวช่องเขาหรอก พวกเล่นใช้ค่า PCD เป็นขนาด 108 มม. เลยหาล้อประกบเข้ายากสักหน่อย แต่สมัยนี้กลายเป็นเรื่องหมูๆไปแล้ว จะเจาะรูใหม่บนลายล้อ ที่เราชอบแต่รูไม่ตรง หรือจะเลือกหาซื้อล้อแบบยังไม่เจาะรู ก็มีให้ถมถืด เพียงแต่ว่าส่วนมากจะเป็นล้อ ที่ทำในบ้านเราเท่านั้นเอง เคยได้ยินข่าวว่าแถวเซียงกง กับแถวรามอินทรา เขาก็มีสั่งพวกล้อ BBS ที่ยังไม่เจาะรูเข้ามา ขายอยู่เหมือนกัน ถ้าว่างๆก็ลองไปเดินหาดู น่าจะมีให้ซื้อหากันได้

ภายในคุณภาพวัสดุต่ำไปนิด
สำหรับเรื่องของการตกแต่ง ภายในของ 405 นั้นทางด้านความสวยงาม ลงตัวถือว่าใช้ได้ไม่เป็นรองใคร จะมีแตกต่างกันนิดหน่อยในเรื่อง ของแผงหน้าปัดระหว่าง รุ่นแรกกับรุ่น Minor change จะว่าไปแล้วก็สวยไปคนละแบบ แต่คุณภาพนั้นคนละเรื่องกันเลย ในตัวแรกที่ชุดมาตรวัด ทำเป็นเหมือนกล่องแปะ อยู่บนหน้าปัดจะมีปัญหา เรื่องคุณภาพวัสดุที่ไม่ค่อยเวิร์ค เมื่อใช้งานไปนานๆมันจะเริ่ม เหนียวเหมือนกาว แล้วก็มีสีร่อนกระดำกระด่าง น่าเกลียดชอบกล แต่ในรุ่นหลังที่เปลี่ยนหน้าปัดใหม่ จะไม่พบปัญหานี้ ความรำคาญประการต่อมา ก็เป็นเรื่องของเบาะนั่งคู่หน้า ที่เขาใช้วิธีปรับตั้งพนักพิง ด้วยวิธีการหมุนตัวตั้งที่อยู่ด้านข้าง แทนการดึงแบบรถทั่วๆไป ไอ้ตอนที่ออกมาป้ายแดงแรกๆ มันลื่นเวิร์คดีอยู่หรอก แต่พออายุอานามมากเข้า ก็เริ่มฝืดหมุนยาก ทำให้เวลาจะปรับพนักพิงที เล่นเอาเหงื่อออกอยู่เหมือนกัน ถ้าจะให้ดีลองหยอดน้ำมันจักร หรือไม่ก็ฉีดพวกน้ำยา ครอบจักรวาลสารพัดประโยชน์ ( Sonax , WD – 40 ฯลฯ ) เข้าไปหล่อลื่นเสียหน่อย น่าจะดีขึ้น ไอ้เจ้าวิธีการปรับพนักพิง แบบนี้ก็มีข้อดีอยู่ตรงที่ว่า ปรับมุมเอนได้ละเอียดกว่าแบบก้านดึง นั่นเองชอบเอนมากเอนน้อย ว่ากันได้เต็มที่
ความกว้างขวางภายในค่อนข้างใช้ได้ ถึงแม้รูปร่างของรถจะดู ค่อนข้างแบนก็ตาม เพราะว่าทาง Peugeot วางตำแหน่งเบาะนั่งไว้ ค่อนข้างต่ำนั่นเอง เท่าที่ดูความสามารถ ในการบรรทุกผู้โดยสาร ถ้าจะเอากันแบบสบายๆก็ขนชายไทย ร่างสันทัดได้สัก 4 คน ส่วนถ้าจะเอากันแบบเต็มพิกัด 5 คน น่าจะลำบากอันเนื่องจาก โหนกกลางเบาะหลัง ค่อนข้างสูงไปสักหน่อย ซึ่งทำให้คนนั่งกลางโผล่หัวโด่เด่ ขึ้นมาแล้วยังไม่ค่อยสบาย ตัวอีกต่างหากเพราะฉะนั้น เพื่อความลงตัวเอากันแค่ 4 ท่านจะเหมาะกว่า

ช่วงล่างประทับใจสุดๆ
หากเจ้า 405 คันที่ท่านไปพบเข้า ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ละก็ ลองเอาไปขับเล่นบนไฮเวย์ดูสิ รับรองได้ว่าต้องติดใจในประสิทธิภาพ การยึดเกาะถนนที่ไม่เป็นรองใคร แม้ในยุคนี้ พ.ศ.นี้ก็ตาม ทั้งนิ่งทั้งนิ่มพวงมาลัยแม้ จะเป็นพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง แต่ก็ไม่ได้เหลวเละจนไร้ความรู้สึก มีอาการหน่วงๆให้น้ำหนักนิดๆ
ซึ่งการทำน้ำหนักพวงมาลัย แบบนี้ทำยากกว่าแบบเบาหวิว เป็นขนนกเยอะ เคยมีคนลองขับ Peugeot แล้วบอกว่าพวงมาลัย ไม่ค่อยเบาเท่าที่ควร ซึ่งต้องอธิบายทำความเข้าใจ กันอยู่นานกว่าจะเข้าใจ ในย่านความเร็วสูงน้ำหนัก พวงมาลัยของ 405 ให้ความรู้สึกในการ บังคับควบคุมที่ดีมาก ยิ่งถ้าช็อคแอบซอร์บเบอร์ , คอยล์สปริง และทอร์ชั่นบาร์ อยู่ในสภาพสมบูรณ์ละก็ ต้องยกนิ้วหัวแม่โป้งให้เลย ถัดมาว่ากันที่เรื่องของระบบเบรก ก็อย่างที่เกริ่นไปบ้างแล้วในขั้นต้น เพราะฉะนั้นคงไม่ต้องมานั่งเล่า กันอีกให้เสียเวลา มีแต่ข้อติเรื่องช่วงล่าง ของรถคันนี้นิดหนึ่งว่า เวลาวิ่งบนทางขรุขระ จะมีเสียงดังกุกกักให้รำคาญใจ อันเป็นนิสัยประจำตัวของ 405 ทุกคัน ไม่ว่าจะทำการเปลี่ยนอะไหล่ ช่วงล่างมาใหม่ก็ได้แค่พอทุเลา แป๊ปเดียวเอาอีกแล้ว ตรงนี้ต้องทำใจกันนิดหนึ่ง

มีแรงม้าให้เลือก 4 ขุมพลัง
เครื่องยนต์สำหรับ 405 ที่วางขายในบ้านเรานั้น มีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 4 ขนาดความแรงคือ
2.0 ลิตร SOHC คาร์บูเรเตอร์ 120 แรงม้า ( 405 GR )
2.0 ลิตร DOHC 16V หัวฉีด 160 แรงม้า ( 405 Mi16 )
1.6 ลิตร SOHC หัวฉีด 90 แรงม้า ( 405 GRi )
2.0 ลิตร SOHC หัวฉีด 120 แรงม้า ( 405 SRi )

ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องยนต์ แบบแถวเรียง 4 สูบ วางขวางทางด้านหน้า แล้วขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า ถ้าเป็นพวกเท้าหนัก นิยมความรุนแรงก็ต้องคบตัว Mi16 ที่รุนแรงกว่าเพื่อน แถมยังมีอะไรๆเพียบเหนือกว่า รุ่นอื่นด้วยไม่ว่าจะเป็น ช่วงล่างที่ค่อนข้างหนึบ หนืดกว่าเพื่อนร่วมรุ่น รวมไปถึงระบบเบรกที่เอาไว้ หยุดม้าทั้ง 160 ตัว เป็นแบบจานดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ ( รวมถึง SRi ด้วย ) ส่วนรุ่นอื่นเป็นหน้าดิสก์หลังดรัมหมด แต่ถึงแม้จะเป็นหลังดรัมเบรก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เอาอ่าว ใครที่เคยลองขับหรือใช้รถรุ่นนี้อยู่ เขารู้กันดีว่าระบบเบรกของ 405 นั้นไม่ใช่ธรรมดา น่าประทับใจมาก ยิ่งในช่วงความเร็วสูงรถคันนี้ จะค่อยๆดึงให้รถหยุดแทบ ไม่มีอาการหน้าทิ่ม ให้เสียการทรงตัวเลย

หันกันมาว่าเรื่องความแรง แม้ในรุ่นเครื่องคาร์บูเรเตอร์ 2.0 ลิตร ก็ใช่ว่าจะประมาทได้นะจะบอกให้ เห็นพวกแรงโม้เดิมๆในพิกัดเดียวกัน โดนสวนหน้าแหกมานักต่อนักแล้ว ( บนไฮเวย์ไม่ใช่แบบแรงจึ๊ก เดียวไฟแดงต่อไฟแดง ) ตามธรรมชาติของรถฝรั่ง เขามักจะเน้นไปแรดกันบนไฮเวย์ มากกว่าในเมือง ซึ่งจะสังเกตได้จากตัวเลขอัตรา ทดเฟืองท้ายที่ค่อนข้างต่ำ มีเยอะไอ้ประเภทแรงด้วย เฟืองท้ายแตะคันเร่งเป็น พุ่ง..ต้นกระฉูด แต่..ปลายหด เหมือนพวกจีบผู้หญิงแรง..ต้นนั่นแหละ สุดท้ายก็พวกคาบไปรับประทาน

สำหรับเจ้า 405 นี้ ( รวมถึงรถอื่นๆด้วย ) ไม่ค่อยแนะนำนักในเรื่อง ที่จะจับเอาไปทำปู้ยี่ปู้ยำ เปลี่ยนเครื่องผสมพันธุ์ ซึ่งมีแต่จะทำให้เสียรถไปเปล่าๆ เครื่องเดิมทำให้สมบูรณ์ Tune up ให้อยู่ตามสเปกแค่นี้ ก็มันยกร่องแล้ว ยิ่งถ้าเป็นตัว Mi16 160 แรงม้า ด้วยแล้วละก็ยากนัก ที่จะหาคู่เปรียบได้ มันสามารถทะยานขึ้นไปแตะ เลขหลัก 200 กม./ชม. ได้สบายๆด้วยความเร็ว ค่อนข้างจะใกล้เคียง ความเป็นจริง ( ไล่สวนแรงโม้มานักต่อนัก แล้วด้วยเจ้า Mi16 คันนี้ ) แต่หากมีความรูสึกว่าแค่ 160 แรงม้า มันเชื่องเกินไป ก็มีเครื่องอีกตัวที่เป็นแบบ DOHC 16V Turbo 2.0 ลิตร ก็เช่นเดียวกันกับ Mi16 นี่แหละเพียงแต่ลดแรง อัดกระบอกสูบลงแล้ว ยัดหอยพิษเข้าไปรีดแรงม้า ออกมาเพ่นพ่านได้ทั้งสิ้น ใกล้เคียง 200 แรงม้า ในเมืองนอกรุ่นนี้มีรหัสว่า 405 T16 ถ้าไปเดินแถวเซียงกงรถยุโรป แล้วประสบพบเนตร เข้าจับมาวางลงใน 405 ของคุณละก็ขอโทษ 200 แรงม้า ดิบๆแท้แบบฝรั่งเศส ทำให้คุณเครียดได้ไม่น้อยเช่นกัน ก็แหม! …ปลายในระดับเลข 200 กม./ชม. ขึ้นไปเนี่ย ถนนมันฉีกออกจนแทบ จับภาพไม่ทันเหมือนกัน

ค่าตัวไม่แพงแต่อะไหล่ต้องทำใจ
ระดับราคาค่าตัวของ 405 ดูจะไม่ค่อยแรงนัก ถ้าเป็นรุ่น 405 GR ก็อยู่ในระดับไม่เกิน 2 แสนบาทต้นๆ 405 GRi ก็คงจะ 2 แสนบาทนิดๆ ถัดมาเป็น 405 SRi ก็คงอยู่ราวๆไม่เกิน 3 แสนบาท แต่สำหรับตัว Mi16 ที่อยู่ในใจของนักเลง Peugeot คงจะหาสภาพสวยยากนิดหนึ่ง ไอ้ตัวสวยๆเขาก็ไม่ค่อย ยอมขายกันเสียด้วย และราคาก็แทบจะไม่มีมาตรฐานแน่นอน เพราะเขาซื้อขายกันด้วยความพอใจ ประเภทพูดถูกใจ แทบจะให้ฟรีหรือ ท่าทางขัดลูกหูลูกตาก็โขกราคา แบบป้ายแดงอะไรไปเลย ทำนองนั้น แต่ก็ไม่น่าจะเกินระดับ 3 แสนบาทไปได้ อาจมีบวกลบนิดหน่อย ( แต่ต้องสภาพสวยด้วย )
ถึงแม้ค่าตัวในตลาดรถมือสองของ 405 จะไม่ค่อยสูงนัก แต่ปรากฏว่าราคาค่าอะไหล่ จะไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน จึงจำเป็นต้องออกไปพึ่งพา ร้านอะไหล่แถววรจักร หรือตามร้านย่านอื่นที่มีตรา Peugeot อยู่ ราคาจะย่อมลงมากว่าศูนย์บริการหน่อย ทำให้พอที่จะคบหากันได้ ไม่ถึงกับหลังพิงฝา หาทางออกไม่ได้ ส่วนอะไหล่เก่าตอนนี้ก็เริ่มมี ทยอยเข้ามาประปราย เห็นตามร้านขายอะไหล่เก่ารถยุโรป ตัดเขามาเยอะเหมือนกัน แต่ต้องขยันเดินหากันหน่อยเท่านั้นเอง

โดยคุณ : 4ธ-xxxx - [ 16 ก.พ. 2544 , 22:35:23 น. ]

ตอบ
GR กับ Mi16 เครื่อง 1900นิดๆ ถือว่าเป็นพิกัดขนาด 1900 cc นะครับ
โดยคุณ : 8ฬ-xxxx - [ 23 ก.พ. 2544 , 13:54:58 น.]

รายละเอียด
จาก :
email :
icq :
รายละเอียด



กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียวครับ....