ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2024 เวลา 02:16:25

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  หมวดหมู่ทั่วไป [ General topics ]
| |-+  พูดคุยทั่วไป ได้ทุกเรื่อง
| | |-+  การไล่ลมระบบน้ำหล่อเย็น 306 SR
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: การไล่ลมระบบน้ำหล่อเย็น 306 SR  (อ่าน 13292 ครั้ง)
vee
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 247


« เมื่อ: วันศุกร์ที่ 09 พฤศจิกายน 2007 เวลา 09:28:22 »


    เรียนเพื่อนสมาชิกทุกท่าน คือ  ผมเองไม่มีประสบการณ์การไล่ลมในระบบหล่อเย็น ของเครื่องยนต์ ที่อยู่ใน 306 SR AT ขอเพื่อนสมาชิก ช่วยแนะนำหน่อยครับ คิดว่าเป็นวิทยาทาน นะครับ  ซึ่งการกระทำตรงนี้ ระดับผู้ใช้รถ น่าที่จะกระทำเองได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาอู่  ขอบคุณครับ  Smiley ( ขอโทษด้วยครับ สำหรับผู้ประกอบการอู่ )
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ECU
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 84


« ตอบ #1 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 09 พฤศจิกายน 2007 เวลา 16:40:50 »


เรื่องนี้บางอู่จะหวงๆวิชาเหมือนกัน(มันอยากให้เราพังจะได้แอ้มไงอู่ที่ดีก็เฉยๆไว้) น่าจะถามว่าทำไมต้องไล่ลมหม้อน้ำมากกว่าจะออกนอกเรื่องไปหน่อยนะเคยสังเกตุไหมว่าหม้อน้ำรถยนต์จะมี 2 ชนิดคือหลอดน้ำตั้งกับนอนหลอดน้ำตั้งส่วนใหญ่จะเป็นรถเมืองร้อนคุณสมบัติของมันคือน้ำหมุนเวียนได้เร็วพวกรถยุ่นพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่ต้องไล่ลมและไม่มีที่ไล่ลมหม้อน้ำส่วนหลอดนอนพวกนี้จะเป็นรถยุโรปซะส่วนใหญ่คุณสมบัติคือมันต้องการให้น้ำหมุนเวียนช้าเมืองหนาวต้องการแบบนั้นมันต้องการสะสมอุณหภฺมิให้ร้อนหม้อน้ำชนิดนี้มีที่ไล่ลม    คราวนี้เข้าเรื่องเลยถ้าคุณถอดท่อน้ำออก  1.เติมน้ำแล้วเปิดที่ไล่ลมหม้อน้ำก่อนเติมน้ำจนน้ำล้นที่ไล่ลมแล้วปิดและเมื่อไล่ลมหม้อน้ำเสร็จ 2.ต้องไปไล่ลมที่เครืองทำไมต้องไล่ลมที่เครื่องเพราะเครื่องเย็นวาว์ลน้ำมันไม่เปิดมันก็เติมน้ำไม่เข้าเครื่องมันจึงทำที่ไล่ลมเครื่องขึ้นมาเพื่อให้อากาศออกน้ำจะได้ไหลเข้าเครื่องเติมน้ำจนน้ำพุ่งออกมาแล้วก็ปิดเป็นอันจบขออภัยผู้ที่รู้อยู่แล้วครับที่จริงแล้วมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นแถมให้ไม่ว่ารถที่ชนิดต้องไล่ลมหรือไม่ไล่ลมเมื่อคุณเติมน้ำจนเต็มแล้วก็ติดเครื่องหาขวดน้ำพวกโค๊กลิตรมาเติมน้ำเต็มขวดแล้วคว่ำขวดไปที่เติมน้ำหม้อน้ำจับไว้ส่วนใหญ่ไม่ต้องจับดับแอร์รถไว้จะได้ร้อนเร็วขึ้นเมื่ออุณหภูมิถึงวาว์ลน้ำเปิดมันจะดูดน้ำในขวดหมดก็เติมใหม่จนกว่ามันจะหยุดนิ่งกี่ขวดที่เพิ่มไม่แน่นอนแล้วแต่ความจุของน้ำครับวิธีหลังนี้เหมาะสำหรับท่านที่มีปัญหากลางทางเพราะส่วนใหญ่รถที่เข้าอู่ทำมาใหม่ๆเกิดความร้อนขึ้นไม่หยุดกลางทางเครื่องมือก็ไม่มีเครื่องยนต์ก็ร้อนเพราะน้ำน้อยไปก็ใช้วิธีนี้สะดวกไม่ต้องใช้เครื่องมือหลักการเดีวยกับที่กินน้ำเย็นที่มีขวดใส่น้ำคว่ำอยู่แล้วกดใส่แก้วละครับตอบไม่ถูกใจขออภัยด้วยครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
nunt
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 356



« ตอบ #2 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 09 พฤศจิกายน 2007 เวลา 20:30:28 »


 :)แนะนำครับ เอาแบบง่ายเลยเข้าใจง่ายๆ ผมก็ทำอู่ แต่ก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของ vlove ก็เผื่อว่าเราอยากเปลี่ยนถ่ายน้ำหม้อน้ำเอง หรือบ้างครั้งเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจะใด้ช่วยตัวเองใด้ในเบื้องต้นครับ เข้าเรื่องเลย เมื่อมีน้ำในระบบออกจากเครื่องยนต์ ต้องมีการไล่ลมน้ำ จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่สถานะการครับ  ขั้นตอนที่  1.เติมน้ำให้เต็มในหม้อน้ำโดยไม่ต้องติดเครื่องยนต์  2.เปิดจุกไล่ลมบริเวณเสื้อวาวล์น้ำ ( น๊อต 6 เหลี่ยมเบอร์ 5 ) แล้วเติมน้ำตาม พอมีน้ำออกมา ปิดจุกขันน๊อตให้พอแน่น  3.เปิดจุกไล่ลมน้ำบริเวณฝาครอบวาวล์น้ำให้น้ำออกมาเติมน้ำตาม ปิดจุก  4.เปิดจุกไล่ลมน้ำที่ฝาข้างหม้อน้ำให้น้ำออกมาเติมน้ำตามแล้วปิดจุก 5.ติดเครื่องยนต์แล้วปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบาเพื่อให้ไล่ลมในระบบออกมา( ถ้ารีบให้เร่งเครื่องยนต์ประมาณ 1,500 รอบ ) ให้สังเกตุฟองอากาศที่ขึ้นมา ให้มีฟองอากาศน้อยที่สุด แล้วรอจนกว่าพัดลมจังหวะ 1 ทำงาน เอามือแตะที่หม้อน้ำ ( เพื่อเช็คการวนของระบบน้ำว่าร้อนทั่วแผ่นหรื่อใม่ ) แล้วปิดฝาหม้อน้ำ ก็เรียบร้อยครับ  ถ้าติดขัดตรงใหน ก็โทรปรึกษาใด้ยินดีครับ  081-9872013 Afro Afro
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
vee
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 247


« ตอบ #3 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2007 เวลา 11:33:48 »


     ขอโทษครับมาช้าไปหน่อย ก็เน็ตที่บ้านมีปัญหา ต่อหลุด ต่อหลุด ๆๆๆๆๆ อยู่พันนั้นแหละ (เน๊ตฟรี) ทำอะไรไม่ได้เลย ก้เลยต้องรอมาใช้ที่ สนง. Wink   ขอบคุณมากครับเพื่อนสมาชิก ... ตอนนี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ สำหรับการไล่ลมในระบบ เหตุที่ผมต้องไล่ลม เป็นอย่างนี้ครับ คือว่า มีน้ำรั่วออกจากระบบ แต่ไม่ถึงกับหมด หายไปประมาณ 2 ลิตร  ตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอเลยว่าออกมาจากจุดไหน แต่มาหยดที่บริเวณหลังล้อหน้าขวา ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ใช้รถไกลนัก จอดอยู่ปกติจะไม่ออก แต่ถ้าวิ่งสัก 10 กว่ากิโล กลับมาจอดจะมีน้ำหยดให้เห็น  อ่อ! ขอถามอีกหน่อย คือว่า น้ำที่เข้าไปให้ความอบอุ่นในห้องโดยสาร (เขาเรียกว่าอะไรก็ไม่ทราบ) เราสามารถตัดออกได้หรือไม่ จะมีผลเสียกับการทำงานของเครื่องยนต์หรือเปล่าครับ ดู ๆ  แล้วน้ำน่าจะออกมาจากระบบนี้แหละ  เพราะผมเคยหมุน ปุ่มปรับอุณหภูมิ ไม่ที่ ประแดง ( ผมเดาเอานะครับ )   
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
จ๋อง306
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6


« ตอบ #4 เมื่อ: วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2007 เวลา 02:44:17 »


ขอโทษครับที่ตอบช้า.......... รู้สึกเป็นห่วงพี่จัง ของผมก็ 306 น้ำที่รั่ว อยู่มันอยู่ที่ด้านล่าง หลังเครื่อง พี่เอาแม่แรงยกรถขึ้นดูก็จะเห็นครับ เป็นจุกยางสีดำ มันแตกครับ ของผมช่างบอกว่าปั้มน้ำแตก ตีราคา 2,500 บาท ด้วยความที่อยากรู้กลับมาบ้านก็ทำอย่างว่า จุกยางตัวเดียวครับ ถอดออกไปเทียบร้านอะไหร่ ราคา 55 บาท เหล็กรัด 15 บาท สบายตัวไป ช่างบางคนเวลาถามเราเขาจะมีเทคนิคถามครับ แล้วคุยกับเราสักพัก เขาจะรู้ว่าเรารู้เรื่องรถหรือเปล่า........ เอางี้ครับพี่ ....... รอบรถพี่ไม่นิ่ง ของผมเอาไขควงเคาะเบา ๆ ที่ มอร์เตอร์เดินเบา ก็ยังหาย ใช้มาจนถึงทุกวันนี้...... ถ้าพี่อยากลองตัวใหม่ โทรหาผม เดี๋ยวผมส่งให้ ไม่คิดราคาอะไหร่ และ ค่าส่ง ครับ ให้เลยครับ เพราะผมมีสำรองอีกชุด และลองแล้ว ไม่เสียครับ...... 081 - 564 9593 ครับ.
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
จ๋อง306
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6


« ตอบ #5 เมื่อ: วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2007 เวลา 02:57:33 »


ออ..... อีกอย่างครับ. ให้สังเกตุสีของน้ำ .............. ถ้าสีขาวใส ๆ เป็นน้ำที่ระบายออกจากตู้แอร์ครับ....... ไม่เป็นอะไร....... แต่....... ถ้าเป็นสีเขียว ( ถ้าพี่เติมน้ำยาหล่อเย็นในหม้อน้ำ ) ก็เป็นที่ผมบอก ....... และการปรับอุณหภูมิ ควรตั้งที่ 21 ครับ พัดลมก็เปิดไปที่ AUTO จะดีกว่าครับ  ระวังเรื่องความร้อนนะครับ เช็คพัดลมด้วย จังหวะ 1 - 2 ทำงานหรือเปล่า จังหวะ 2 เสียงพัดลมจะดังมากครับ ถือว่าปรกติ 306 ดังทุกคัน ถ้ายังไงโทรมาแล้วกันครับ บอกที่อยู่ผมด้วย จะได้ส่งของให้ได้ ....... พวกเราต้องช่วยเหลือกันครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
wut405
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,978



« ตอบ #6 เมื่อ: วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2007 เวลา 09:26:50 »


ของผมก็เคยน้ำรั่วแถวๆ ล้อหน้าด้านขวา สรุป ปั้มน้ำกลับบ้านเก่า เปลี่ยนใหม่แล้วหายสนิท ไม่มีปัญหาอีกเลยครับ  Afro
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

กำลังไหนจะ เท่า กำลังใจ
กำลังใจ สำคัญที่สุด
vee
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 247


« ตอบ #7 เมื่อ: วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2007 เวลา 11:55:27 »


 :)ขอบคุณมากครับเพื่อนสมาชิกทุกๆ คน ....ที่ยังคงห่วงใยกันเหมือนเดิมครับ  ตอนนี้เรื่องน้ำที่หยด ก็หายไป....ก็หาเจอแล้วครับจุดที่ออกคือหยดจากข้่อต่อท่อน้ำที่เข้าไปในห้องโดยสาร ตรงห้องเครื่องด้านบน ตอนนี้ปรับอุณหภูมิมาที่สีน้ำเงิน น้ำก็ยังไม่เ็ห็นออกอีก ก็เลยยังไม่ได้ทำอะไรต่อ ได้แต่คอยสังเกตุไว้เท่านั้น ถ้าจะอุดเลยไม่ให้น้ำผ่าน ไม่ทราบว่าจะทำได้หรือเปล่า จะมีผลกับการทำงานของเีครื่องยนต์ไหม? ผมอยู่ ปราณบุรี ประจวบฯ อะไหล่ก็หายาก สั่งร้าน ราคาก็ไม่ธรรมดา ก็เลยประคองขับไปก่อน ขอบคุณมากครับสำหรับคุณ จ๋อง306 ที่จะสนับสนุนอะไหล่ ขอบคุณจริง ๆ ครับ เรื่องรอบตอนนี้ยังพอทนอยู่ เดียวจะลองเคาะดูครับ ยังไงๆก็ยังรักเปอร์โยต์ Afro และอบอุ่นกับเพื่อนสมาชิกทุกๆคนครับ...
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
docdheey
สิงห์มัธยม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 116


« ตอบ #8 เมื่อ: วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2007 เวลา 14:52:33 »


" ตอนนี้ปรับอุณหภูมิมาที่สีน้ำเงิน น้ำก็ยังไม่เ็ห็นออกอีก "

การปรับอุณหภูมิให้มาที่สีน้ำเงินไม่น่าจะมีผลอะไรกับการที่น้ำจะหยดออกนะครับ  เพราะอย่างไรเสียน้ำจากเครื่องก็ต้องวนเข้าไปในฮีตเตอร์อยู่เหมือนเดิม

ปุ่มที่ว่าทำหน้าที่ปรับลิ้นพลาสติกใ้ห้ลมร้อนที่ผ่านมาจากฮีตเตอร์ไปผสมกับลมเย็นเพื่อให่ได้อุณหภูมิที่ต้องการครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
vee
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 247


« ตอบ #9 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2007 เวลา 14:45:08 »


   ขอบคุณครับ docdheey รถผมเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ครับ ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ผมทดลองมาสามครั้งแล้ว สุดท้ายเมื่อวานนี้เอง (29 พ.ย.) คือผมใช้รถมาทำงานประจำ ระยะทางคงที่ ลักษณะการขับปกติ เมื่อปรับมาที่แดง จะมีน้ำหยดออกมาให้เห็น แต่ถ้าหากว่าปรับมาที่ น้ำเงิน น้ำจะไม่ออก ก็ยังงงอยู่นี้แหละครับ ท่อนี้จะอุดเสียได้ไหมครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
405 GR
สิงห์มัธยม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 168


« ตอบ #10 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 01 ธันวาคม 2007 เวลา 14:19:32 »


ไม่เห็นมีคนตอบคำถามที่ถามว่าอุดน้ำไปเข้าฮีทเตอร์ที่ในแอร์ ผมขอตอบแล้วกัน อุดได้ไม่มีปัญหาอะไร และรถส่วนใหญ่ในรุ่นนี้ปัจจุบันก็อุดไปหมดแล้ว    วิธีทำหลังจากถอดท่อน้ำสองเส้นที่เข้าไปฮีทเตอร์ที่ตัวถังออกแล้ว ลองขึ้นแม่แรงมุดเข้าไปใต้ท้องดูตรงปลายท่อที่คุณถอดออกมาจะมีท่อน้ำออกจากเครื่องยนต์ 2 เส้น หาไม้เหลาให้พอดีอุดท่อนี้เสีย แล้วหายางที่ร้านขายอะไหล่เรียกว่า "ยางขาโต๊ะ" มาครอบต้องเทียบขนาดเอา โดยประมาณก็ประมาณเส้นผ่านศูนย์กลาง 25 มิลลิเมตรหรือใกล้เคียงนี้ แล้วใช้เหล็กรัดท่อรัดให้เรียบร้อย ส่วนรูที่เข้าตัวถังก็หาอะไรที่เหมาะสมมาอุดเสีย การทำดูเหมือนง่าย แต่ต้องประณีต มิฉะนั้นอาจจะเกิดปัญหาตามหลังมาได้ครับเช่นน้ำรั่วหรือยางขาโต๊ะบวมแตกทำให้น้ำออกจากเครื่องยนต์หมดจนเครื่องฮีทเป็นต้น
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
vee
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 247


« ตอบ #11 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 03 ธันวาคม 2007 เวลา 10:55:48 »


        ขอบคุณครับ คุณ 405 GR เมื่อเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ขับจากปราณบุรีไป สุพรรณฯ ตรวจน้ำในหม้อน้ำ ไม่มียุบ ไม่หยด... สวิตท์อุณภูมิอยู่หลัง 21 ผมมั่นใจว่าน้ำไม่ผ่านฮีดเตอร์แน่นอน แต่ก็จะขออุดตามที่แนะนำมา ไม่ให้น้ำเข้าฮีดเตอร์  ก็จะขออนุญาตช่าง ขอลงมือเองนะครับ  อ่อ! มีเหตุการณ์อยู่นิดหนึ่ง  คือลองกดดู ร้อยหกกว่า ๆ ประมาณ 20 กม. แล้วยก  ช่วงวังมะนาว-ราชบุรี หลังจากนั้นก็มาปกติ ร้อย ร้อยสิบ มาถึงสุพรรณฯ เปิดห้องเครื่องดู ปรากฏว่ามีน้ำมันเครื่องออกที่ฝาเติมกระเด็นขึ้นไม่ถึงฝากระโปรง ก็ไม่มากนัก แต่ก็น่าตกใจเหมือนกัน ตรวจดูแล้วน่าจะออกมาจาฝาเติม ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร ใครรู้บ้างขอหน่อยครับ?
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
405 GR
สิงห์มัธยม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 168


« ตอบ #12 เมื่อ: วันอังคารที่ 08 มกราคม 2008 เวลา 19:21:59 »


น้ำมันเครื่องกระเด็นออกจากฝาครอบวาล์ว เป็นอาการปกติของเครื่องเก่า ๆ กว่า 10 ปี มีทั้งแรงดันน้ำมันจากฝาสูบ โดยเฉพาะเครื่องหลวม ๆ จะมีแรงดันมากกว่าเครื่องฟิตสมบูรณ์ เมื่อเร่งเครื่องแรง ๆแรงดันมากกว่าปกติ  อยากเนี๊ยบไปซื้อฝาที่เติมน้ำมันมาเปลี่ยน ราคา 200-300 บาท แต่ไม่เอาเนี๊ยบเอาแค่น้ำมันไม่กระเด็น ไปหาซื้อยาง O-Ring มาเปลี่ยนโอริงเก่าที่ฝาเติมน้ำมันที่มันแข็ง ทำให้กักน้ำมันเครื่องไม่อยู่ ต้องหาของเทียบเอาแถวคลองถมตรงใกล้ประตูวัดก็มีอันละ 10 บาท 15 บาทใช้ได้แต่ไม่ทนไม่นานก็ต้องเปลี่ยนอีก แต่ไปซื้อร้านอะไหล่ต้องซื้อทั้งฝาอย่างที่บอกข้างต้น


* oring.jpg (38.9 KB, 500x414 - ดู 619 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
vee
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 247


« ตอบ #13 เมื่อ: วันพุธที่ 09 มกราคม 2008 เวลา 13:14:54 »


      ขอบคุณมากครับเพื่อนสมาชิก .... ครับโอริง ตามรูปที่ส่งมาให้ดู ผมตรวจดู รู้สึกว่าแข็งแล้วครับ  ก็คงจะต้องหาเทียบเอาก่อน แถวนี้ (หัวหิน-ปราณบุรี) หาของ PG ลำบาก ตอนนี้ขับ ร้อยสี่ ยังไม่ออก แต่คงต้องเปลี่ยนโอริงไปก่อน เพื่อความมั่นใจ...  สำหรับการหลวมของเครื่องก็คงจะต้องประคองใช้ไปก่อน... ไม่มีงบครับ !
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
vee
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 247


« ตอบ #14 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2008 เวลา 13:27:15 »


    รายงานให้ทราบครับ ...ท่อน้ำเข้าฮีดเตอร์อุดเรียบร้อยแล้วครับ โดยการซื้อหัวอุดยางมา 2 ตัว 30 บาท สวมบนสวมล้าง เรียบร้อยไป แต่โอริงยัง...แหะๆๆๆๆ...   ใช้ได้อยู่  สรุปก็คือ ข้อต่อที่เข้าฮีดเตอร์ ตัวบนแตกครับ พอถอดสายรักตรงวาวล์น้ำ ร่วงลงมาเลยครับ 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!