มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ของทุกอย่างมีดี มีเสียครับ เลือกให้ถูกต้องตามความต้องการของเรานะครับ
http://www.doi.go.th/script/asp/faq/faq_detail.asp?no=11573 หัวข้อคำถาม การโฆษณาเกินจริงและไม่บอกถึงใจความสำคัญในสาระสำคัญของใบชี้ชวน
ชื่อผู้ถาม เพิ่มศักดิ์ จันทรวงศากุล
คำถาม เนื่องจากว่า การแข่งขันมีความรุนแรงและสูงขึ้นเพื่อที่ บริษัทประกันต่างๆๆ จะได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น กระผมจะขอร้องเรียนสอบถามว่า ทางบริษัทประกันนี้ผิดหรือไม่ เรื่องมีอยู่ว่า ในใบชี้ชวนของบริษัทประกันภัย เอเชีย3+ นั้นไม่ได้บอกถึงสาระสำคัญในเรื่องของการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล(P.A) เพียงแต่เขียนใว้ว่า "ให้ความคุ้มครองวงเงินอุบัติเหตุส่วนบุคคลสูงสุด 400,000บาทต่อครั้ง โดยไม่มีใจความสาระสำคัญแสดงให้เห็นถึงว่า ไม่ได้มีค่ารักษาพยาบาล ไม่จ่ายในกรณีที่บุคคลในรถทุพลภาพถาวร จึงทำให้ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อประกันไม่ได้ระวังในการตัดสินใจในการซื้อ ซึ่งเรื่องได้เกิดขึ้นกับเพื่อนของผม เองเรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนผมได้ขับรถคว่ำเองไม่มีคู่กรณีแต่อย่างใด ทางประกันก็ปฎิเสธความรับผิดเรื่องรถได้ แต่ผมสงสัยว่า ทำไมไม่จ่ายประกันอุบัติเหตุ จึงโทรไปถาม และได้กระจ่างว่า บริษัทนี้นั้นเอาเปรียบผู้บริโภคโดยการไม่แจงว่าเป็นการประกันอุบัติเหตุ แบบ ไม่มีค่ารักษาพยาบาล จะจ่ายในต่อเมื่อ ทุพลภาพ สูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิต จึงอยากจะขอความกระจ่าง และร้องทุกข์ในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยครับและไม่อยากให้ใครตัดสินใจซื้อประกันนี้โดยที่ไม่ทราบถึงใจความสำคัญที่สุดที่ลูกค้าคาดหวังไว้ เสียใจจริงๆๆ (ดีนะครับที่เพื่อนผมไม่ตาย แต่ว่าถ้าตายจะดีกว่ามั้งครับ เพราะว่าจะได้ PA จริงๆๆ)
คำตอบ ประกันภัยประเภท ดังกล่าวเป็นประกันประเภท 3 และมีเงื่อนไขเพิ่มเติม ความรับผิดชอบความเสียหายต่อทรัพย์สิน(รถยนต์คันทำประกันภัย)เมื่อ 1. เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถผู้เอาประกันชนกับยานพาหนะทางบก 2. ในกรณีผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิดต้องรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท/ครั้ง (บางบริษัทไม่มี) เงื่อนไขดังกล่าว ดูเหมือนว่าประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 พิเศษ นั้น จะมีความคุ้มครองเหมือนกับการประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 แต่หากวิเคราะห์จริงๆ แล้ว มีความเหมือนที่แตกต่างในสาระสำคัญดังนี้ 1. ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท 3 พิเศษ ให้ความคุ้มครองทรัพย์สิน ชีวิต ร่างกายและอนามัยของบุคคลภายนอกเหมือนกับประเภท 3 ธรรมดา แต่คุ้มครองรถยนต์คันเอาประกันภัยในวงเงินจำกัดแต่มีวงเงินน้อยกว่าประเภท 1 คืออยู่ระหว่าง 100,000 - 150,000 บาท แต่มีเงื่อนไข(ตัวอักษรเล็กๆ)ว่า "รับผิดชอบต่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถผู้เอาประกันชนกับยานพาหนะทางบก" เท่านั้น ดังนั้นหากรถยนต์คันเอาประกันภัยประเภท 3 พิเศษไปชนกำแพง ชนรั้ว ชนสุนัข ชนเสา ชนประตู ชนคน ฯลฯ ที่มิใช่ยานพาหนะทางบก รวมถึงกระจกหน้าถูกก้อนหินแตกร้าว จะไม่ได้รับความคุ้มครองตัวรถทั้งสิ้น ทั้งนี้การคว่ำ การสูญหาย การถูกไฟไหม้ ล้วนเป็นข้อยกเว้นที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง 2. นอกจากนี้ ในการชนยานพาหนะทางบกนั้น ผู้เอาประกัน(หมายความรวมถึงผู้ขับขี่ที่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยให้ใช้รถด้วยด้วย)เป็นฝ่ายผิดแล้ว ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท/ครั้ง ด้วย ซึ่งหมายความว่าเบี้ยประกันภัยที่แท้จริงมิใช่ราคาที่เรียกเก็บ แต่เป็นราคาที่เรียกเก็บหักเงื่อนไขค่าเสียหายส่วนแรกจำนวน 2000 บาทไว้แล้ว ดังนั้นเบี้ยประกันที่แท้จริงจึงอยู่ที่ประมาณ 6,800 + 2,000 บาท รวมเป็น 8,800 บาท ใกล้เคียงกับเบี้ยประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ที่บางคันมีเบี้ยประกันภัย 12,000 - 15,000 บาท แล้วมี ค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท ก็จะคงเหลือ 10,000 - 13,000 บาท แต่ได้รับความคุ้มครองสูงกว่า สรุป....การประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 พิเศษ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความสามารถในการจ่ายเงินจำนวนน้อยเพื่อการประกันภัยรถยนต์ แต่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมจากเดิม ใช้รถน้อย และมีความเสี่ยงในการเกิดการชนกับยานพาหนะทางบกเช่นรถยนต์หรือจักรยานยนต์ และไม่น่าจะสูญหายหรือไฟไหม้
หน่วยงานที่ตอบ ... กองนิติการ 26/2/2550 11:56:41