ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2024 เวลา 14:32:57

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  หมวดหมู่ทั่วไป [ General topics ]
| |-+  พูดคุยทั่วไป ได้ทุกเรื่อง
| | |-+  405 คาร์บิว อีกแล้ว ครับ รบกวนด้วยครับ ว่า ตัวนี้ปรับอะไร ครับ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: 405 คาร์บิว อีกแล้ว ครับ รบกวนด้วยครับ ว่า ตัวนี้ปรับอะไร ครับ  (อ่าน 3438 ครั้ง)
dr_com
ไม่ชัวร์ แต่ไม่มั่ว ไม่ปึก แต่รู้
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 373


« เมื่อ: วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม 2006 เวลา 13:31:45 »


นะ เอ้า แบบว่า ความคิดผมเองนะ เท่าที่ดู แล้ว ประมาณว่า น่าจะปรับตั้ง อากาศ สำหรับ ลิ้นน้ำมัน ตัวที่หนึ่ง
เพราะว่า
1 เดินเบา ปรับตั้งที่นมหนู ตรงฐานคาร์บิว
2 ตั้งรอบเครื่อง ตรงน้อต หลัง คาร์บิว ใกล้กับ สายคันเร่ง
3 นมหนู น้ำมัน เปลี่ยนได้น้อย 117-140 สำหรับ ลิ้นที่หนึ่ง
   ผมว่าคิดว่า ถ้า ทางเข้าอากาศน้อย ก็จะดูดน้ำมันเยอะ นั้นหมายถึงกรอง อากาศตัน
   ผมมาคิดอีกว่า แล้ว ทำไมตอนเปิด ฝาครอบ คาร์บิว แล้ว เอามืออุดที่ลิ้นสอง เครื่องดับ ล่ะ นั้นคือ มันมีอากาศ เข้าที่ลิ้น
   สองด้วยนี่  เพราะฉนั้น น่าจะ มิก น้ำมัน กับ อากาศ ได้ใช่ไหม ครับ โดย ปรับตั้ง ที่ตัวนี้
    Wink   เรื่องที่จะขอรบกวนว่า ท่านใด ใช้เครื่อง 1900 คาร์บิว แล้ว ใช้น้ำมันอยู่ อยากรบกวน ถ่ายรูปลงมาดูกันหน่อย นะครับ
    ว่า ของแต่ล่ะท่าน ตั้ง ไว้ เท่าไร ( กี่เกลียว ) แล้ว กิน น้ำมัน กม/ลิตร ด้วย จักขอยพระคุณเป็นอย่างสูง ครับ  Afro
 ** ถูกผิด อย่างไร แนะนำด้วยครับ **


* MVC-004S.JPG (39.79 KB, 640x480 - ดู 800 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
supreme
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 839



« ตอบ #1 เมื่อ: วันอังคารที่ 17 ตุลาคม 2006 เวลา 19:04:01 »


ตัวนี้คือตัวตั้งว่าจะให้ลิ้นที่สองทำงานที่กี่พันรอบมิใช่หรือครับ  เอามือหมุนหรือดึงสายคันเร่งดูว่าลิ้นที่สองเปิดที่เท่าไหร่  แล้วที่นี้ลองหาอะไรมาหนุนแล้วลองดึงดูอีกที  บลา...บลา... เก็ตไหม
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

รู้จักหา รู้จักเก็บ รู้จักใช้ รู้จักพอ รู้จักให้ รู้จักวาง
dr_com
ไม่ชัวร์ แต่ไม่มั่ว ไม่ปึก แต่รู้
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 373


« ตอบ #2 เมื่อ: วันอังคารที่ 17 ตุลาคม 2006 เวลา 19:49:54 »


งง ง่ะ ขอแบบละเอียดๆ ได๋ ป่ะ  Sad
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
supreme
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 839



« ตอบ #3 เมื่อ: วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2006 เวลา 11:40:49 »


ก็คืออยากจะให้ลิ้นที่สองเริ่มเปิดเมื่อเราเร่งเครื่องที่กี่พันรอบ  ก็ตั้งที่ตัวนี้ ส่วนจะตั้งที่เท่าไหร่  ผมไม่ทราบตัวเลขแน่นอนว่าเท่าไหร่  แต่เท่าที่เคยอ่านผ่านตา  เขาบอกว่า เมื่อเร่งเครื่องถึง 4000รอบ ลิ้นที่สองจะเริ่มเปิด  มันก็จะดูดน้ำมันในถังเรายังกับดูดโอเลี้ยง  หรือ ถ้าลิ้นที่สองไม่ยอมเปิด  รถเราเมื่อวิ่งที่เกียร์ห้า  ก็จะได้ความเร็วปลายอยู่แถวๆ 120-130 เท่านั้น ทำให้มีเสียวตอนเร่งแซงเมื่อไปวิ่ง ต.จ.ว.

จากที่เล่ามานี้  ก็สรุปแบบคราวๆได้ว่า  ตั้งให้เปิดเร็วเกินไปน้ำมันก็เข้าเร็วเกินอาจจะเร่งดีหลังติดเบาะหรือเผาไหม้ไม่หมดเปลืองน้ำมัน  เปิดช้าก็เร่งไม่ต่อเนื่องเสียจังหวะ

ในส่วนที่ผมบอกให้ทดลองดึงสายคันเร่งนั้น  ผมเข้าใจเอาเองว่าท่าน dr_com คงเคยชำเรากับคาร์บิวมาแล้วและมีพื้นฐานทางด้านกลไกอยู่แล้ว  จึงบอกว่าให้ลองดึงสายคันเร่งแล้วดูว่าครั้งแรกลิ้นที่สองเริ่มเปิดที่เท่าไหร่  และเมื่อลองปรับความสูงของขาที่ท่านวงไว้ในรูป(ก็หาอะไรมายัดให้ขามันสูงขึ้น)  แล้วลองดึงสายคันเร่งอีกครั้ง  ท่านน่าจะจับทางได้เองว่ามีหลักการทำงานยังไง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

รู้จักหา รู้จักเก็บ รู้จักใช้ รู้จักพอ รู้จักให้ รู้จักวาง
40 ha
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 958


« ตอบ #4 เมื่อ: วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2006 เวลา 12:23:12 »


สงสัยเจ้าตัวนี้เหมือนกันครับ ทำไมผมเคยลองปรับขึ้นแล้วรอบมันสูงขึ้น ลองยกก้านที่ติดกับสกรูนี้ดูลิ้นผีเสื้อข้างในมันเปิดตามด้วย ผมคิดเหมือนคุณ จขกทครับ แต่ผมว่ามันน่าจะเรียกกลับกัน ลิ้นนี้น่าจะเป็นลิ้นที่สองมากกว่า ไม่ใช่ลิ้นที่ 1 ตอนแรกวิ่งลิ้นเดียว ปีกผีเสือปิดอยู่ ถ้าเร่งมากตัวนี้จะเปิดช่วย  แต่งงเหมือนกันว่าสกรูตัวนี้ไว้ตั้งอะไร
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
dr_com
ไม่ชัวร์ แต่ไม่มั่ว ไม่ปึก แต่รู้
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 373


« ตอบ #5 เมื่อ: วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2006 เวลา 12:43:44 »


รายงาน ผล ครับ
1 ก่อนปรับ เดิน เบา ประมาณ 800 รอบ
2 ปรับ น้อตตัวนี้ หมุนเข้า 1 เกลียว ( สมุติว่า เพิ่ม อากาศ ให้ ลิ้น ที่หนึ่ง )
3 ปรับ เดินเบาใหม่  เพราะ การที่ไปปรับ น้อตตัวนั้น ทำให้มีอากาศ เข้า ไปมากขึ้น เดิมผมตั้ง  สกรูเดินเบาไว้ที่ ประมาณ 4-5 รอบ
4 ตั้งเดินเบา ไว้ที่ ประมาณ 750 แล้ว เหยีบเบร เข้า เกียร์ (auto) รอบลงมาที่ 700 ตกมานิดเดียว จากเดิม 800 ตกมาที่ 5-600 รอบ

 ** อ้อ ลิ้นสองผมจะเปิด เมื่อกดคันเร่งไปประมาณ 3/4 ถ้า ถึง 4 คือ คิกดาว์ ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
dr_com
ไม่ชัวร์ แต่ไม่มั่ว ไม่ปึก แต่รู้
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 373


« ตอบ #6 เมื่อ: วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2006 เวลา 12:57:43 »


ขอขอบคุณ คุณ supreme
ขอบคุณครับ  งั้น ผมจะลอง ทำความเข้าใจ กับ น้อตตัวนี้ใหม่ ครับ แล้ว ทดลองดูอีกครั้ง
ขอบคุณ ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
rd
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 310



« ตอบ #7 เมื่อ: วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2006 เวลา 14:04:34 »


พยายามค้นหาในคู่มือซ่อมไม่ได้บอกวิธีการตั้งตำแหน่งลิ้นเร่งที่สอง ผมขอแชร์ประสบการณ์ดังนี้ ตามที่ผมได้ปฏิบัติมาผมจะปรับลิ้นสองให้อยู่ตำแหน่งปิดสุด แต่ไม่ให้ติดขัด สามารถจะดึงเปิดได้คล่อง การที่ลิ้นสองปิดสุดมันไม่ได้หมายความว่ามันจะปิดกั้นอากาศได้อย่างสนิทร้อยเปอร์เซ็นต์ มันย่อมจะมี clearance ด้านข้างอยู่บ้าง อากาศที่ผ่านจะมีปริมาณน้อย ไม่มีผลที่จะทำให้เกิดแรงดูดสูญญากาศขึ้นที่ ventury ได้พอ จึงไม่มีการจ่ายน้ำมันจากนมหนูเซคคั่นดารี่แบบตามปกติได้   แต่ถ้าเราเอามือไปปิดปากคาร์บิวตรงช่องลิ้นเร่งที่สอง ย่อมจะทำให้เกิดสูญญากาศขึ้นภายในช่องคาร์บิวลิ้นที่สองอย่างมากเพราะใต้ลิ้นเร่งมันเป็นสูญญากาศ และผ่านแรงดูดมาตาม clearance จะทำให้น้ำมันถูกจ่ายออกมาตามแรงดูด เกิดส่วนผสมที่หนา จนไม่สามารถจะเกิดการสันดาปได้ ทำให้เครื่องยนต์ดับ   ลองทดลองปิดดูอีกก็ได้ครับ แล้วก้มมองดูในช่องจะเห็นเบนซินออกมาเปียกโชกเลย
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

dr_com
ไม่ชัวร์ แต่ไม่มั่ว ไม่ปึก แต่รู้
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 373


« ตอบ #8 เมื่อ: วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2006 เวลา 15:25:46 »


  ถูกต้องแล้ว คร้า บ บบ บ   ท่าน Rd

  ท่าน supreme  ผมเข้าใจแล้วครับ ทีนี้  ทีผมอยากรู้ว่า จะต้องตั้ง น้อตตัวนี้  เท่าไร ล่ะครับ

  สงสัยอีกนิด  ว่า ทำไม พอผม ตั้งตัวนี้ แล้วให้ลิ้นสองเปิดอีกนิด การจูนเครื่องจะดีขึ้น แล้ว เวลา เข้าเกียร์ กด เบรก แล้ว รอบตกลงน้อยมากๆ  นั้นแสดงว่า การจูนค่อยข้าง ดี/กำลังงานไม่ตก ใช่ไหม ครับ
 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
dr_com
ไม่ชัวร์ แต่ไม่มั่ว ไม่ปึก แต่รู้
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 373


« ตอบ #9 เมื่อ: วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2006 เวลา 15:56:57 »


รายงานครับ
ท่าน rd ผมตั้งปิดหมด ผลคือ ลิ้นสองเปิดไว้
ท่าน supreme ผมตั้ง ประมาณ 1/3 ลิ้นสองเปิด ช้าขึ้น ครับ
** ประเด็ด อยาก รู้ว่า ควรตั้งที่เท่าไร ดี ครับ
  Afro เอ้า พี่น้อง ท่านใดใช้ 405 auto ช่วยดูกัย หน่อย ครับ ขอขอบพระคุณ ไว้ ณ ที่ นี้ เลย


* MVC-001S.JPG (36.86 KB, 640x480 - ดู 788 ครั้ง.)

* MVC-002S.JPG (36.82 KB, 640x480 - ดู 732 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
rd
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 310



« ตอบ #10 เมื่อ: วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2006 เวลา 16:27:00 »


ลิ้นสองจะเริ่มเปิดเมื่อไหร่นั้น มันน่าจะเป็น กลไกที่ล็อคไว้แล้ว ปรับแต่งไม่ได้ แต่มันจะมีกลไกตัวหนึ่งที่จะป้องกันไม่ให้ลิ้นสองเปิดถ้าอุณหภุมิน้ำหม้อน้ำยังไม่ถึงค่าที่กำหนด
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

dr_com
ไม่ชัวร์ แต่ไม่มั่ว ไม่ปึก แต่รู้
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 373


« ตอบ #11 เมื่อ: วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2006 เวลา 17:19:24 »


ลิ้นสองจะเริ่มเปิดเมื่อไหร่นั้น มันน่าจะเป็น กลไกที่ล็อคไว้แล้ว ปรับแต่งไม่ได้ แต่มันจะมีกลไกตัวหนึ่งที่จะป้องกันไม่ให้ลิ้นสองเปิดถ้าอุณหภุมิน้ำหม้อน้ำยังไม่ถึงค่าที่กำหนด

ใช่ครับ ลิ้นสอง จะโดนล้อก ไว้ด้วยกระเดื่อง ตัวหนึ่งที่จะเกี่ยว กับชุด ปีกผีเสื้อของ ชุดส่วนบน
เพราะ ฉนั้น ถ้า ตอนเครื่องเย็น กดคั้นเร่งสุด ลิ้นสองก็ ไม่เปิด ครับ
 แต่ ถ้า อุหภูมิ เกิน 70 ไปแล้ว ตัวที่ล้อกลิ้นสองไว้ จะหลุดครับ ทำให้ กดคันเร่ง ให้ลิ้นสองเปิดได้ครับ
แล้ว ลิ้นสองสามารถ ตั้งให้ เปิด ได้ ช้า/เร็ว ก็ ด้วย เจ้าน้อต ตัวนี้แหละ ครับ เพาะ ผม ลอง ตั้ง ตามที่ ท่าน supreme ท่านกล่าว ไว้ ครับ  สามารถ ตั้งได้ประมาณ 15องศา ครับ (ตามสูงสุด/ต่ำสุด ของความยาวน้อตครับ )
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
supreme
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 839



« ตอบ #12 เมื่อ: วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2006 เวลา 18:35:25 »


กลับมาอ่านอีกที  ฮืม...นึกถึงตอนที่เคยแกะคาร์บิวมาทำ2-3ปีก่อน ไม่ยักกะรู้แฮะว่ามีการป้องกันไม่ให้ลิ้นที่สองเปิดตอนอณุหภูมิน้ำไม่ถึงด้วยนิ  แบบว่าถอดๆๆๆๆ ล้างๆๆๆ ประกอบกลับ  เปลี่ยนชุดปะเก็น โมน๊อตยึด ดูกลไก หล่อลื่นบ้าง จูนแบบตามใจเจ้าของรถ จบ

พอดีไม่มีปัญหาก็เลยไม่ได้พิจารณาลึกซึ้ง  ขอบคุณทุกท่านคร้าบ  Afro Afro Afro
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

รู้จักหา รู้จักเก็บ รู้จักใช้ รู้จักพอ รู้จักให้ รู้จักวาง
dr_com
ไม่ชัวร์ แต่ไม่มั่ว ไม่ปึก แต่รู้
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 373


« ตอบ #13 เมื่อ: วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2006 เวลา 18:49:14 »


อ่ะ อ้าววววววว   ท่าน   Evil

 ขำ ขำ   Grin  Grin  Grin

 ก็ได้มาอีกนิด เกือบ ครับ ร้อยแย้ว ว ว ว ว  ( เรื่อง คาร์บิว/คาบูร์ ) 5.5.5.5.5.....
 ไว้พบกัน วันรวมพล
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
supreme
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 839



« ตอบ #14 เมื่อ: วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2006 เวลา 22:45:07 »


อ่ะ อ้าววววววว   ท่าน   Evil

 ขำ ขำ   Grin  Grin  Grin

 ก็ได้มาอีกนิด เกือบ ครับ ร้อยแย้ว ว ว ว ว  ( เรื่อง คาร์บิว/คาบูร์ ) 5.5.5.5.5.....
 ไว้พบกัน วันรวมพล

ไม่ต้องตกใจหรอกครับ  เดี๋ยววันหลังผมตอบคำถามอื่น  แล้วจะดูไม่น่าเชื่อถือ

ขอเล่าที่มาที่ไปก่อน  คือ ตอนนั้นเพื่อนเขาไปจูนคาร์บิวกับเกษมจูนนิ่ง  แล้วมีปัญหาก็เลยได้วิชาติดตัวมาแบบไม่เต็มใจนิดหน่อย  เพื่อนอีกคนคาร์บูมีปัญหาก็เลยซ้อมมือกันหนึ่งลูก  Evil ทำแล้วเขาก็บอกไม่เห็นมีอะไรทำเองก็ได้มันส์มือร้อนวิชาก็เลยมัดมือผมให้ทำบ้าง  Sad  ตอนนั้นก็เพื่อนชี้เราก้มหน้าออกแรงทำ ก็รีบๆๆๆๆ ตามประสามือใหม่หัดถอดย่อมไม่สบายใจที่รถมาเปิดฝากระโปรง อ้าซ่า วิ่งไปไหนไม่ได้  กลัวรถสตาทไม่ติด กลัววันเดียวไม่เสร็จ ลากอย่างเดียว

ตอนทำกับหนูตัวแรก  จุดสำคัญตอนประกอบคือลูกลอย คือ ถ้าตั้งหน้าประกอบกลับอย่างเดียว  ทำจนจบแล้ว ต้องรื้อมาแก้ใหม่ เพราะวาวล์ไม่ปิด น้ำมันล้น แล้วก็กลไกมันคดๆเลยฝืดๆ จูนแล้วไม่มีผลอะไรก็เอามาดัดๆ ฉีดโซเน็กหมุนไปหมุนมา o.k.  ส่วนของผมแค่พวกซีลยางขาด ฝาโกร่ง น๊อตหวาน

จากประสบการณ์ถ้ามาวิเคราะห์ว่าอาการ...เกิดจาก...    Cheesy อันนี้ยากคงต้องร่ำเรียนช่างยนต์มา ที่ว่าแบบนี้เพราะเคยขับๆแล้วสกรูทองเหลืองที่ปรับส่วนผสมอากาศที่ฐานคาร์บูคลายจนกระเด็นออกไปอยู่แถวๆไดชาจ ทำให้เบาดับต้องเหยีบเร่งช่วย ก็มึนตึบว่าคาร์บิวเป็นอะไร พอดีเพื่อนเขาเห็นและจำได้ว่าเป็นชิ้นส่วนของคาร์บิวก็เลยโชคดีไป

แต่ถ้ารื้อมาล้างแล้วดูๆ เปลี่ยนชุดซ่อม เปลี่ยนแคปซูล จูนๆกับตำราในนี้ กับความรู้สึกคนขับอันนี้พอไหว  ทำบ่อยๆก็จูนเก่งแบบอู่แหละ  บางคนมีสูตรสำเร็จด้วยซ้ำ แบบหมุนเข้าสุดแล้วคลายมา 2รอบครึ่งพอแล้ว ไล่กลับบ้านเลย ว่าไปนั้น Evil

เหมือน windows แหละ เกิดจากอะไรไม่รู้แฮ้งมาก ลงใหม่ง่ายดี Smiley
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

รู้จักหา รู้จักเก็บ รู้จักใช้ รู้จักพอ รู้จักให้ รู้จักวาง
dr_com
ไม่ชัวร์ แต่ไม่มั่ว ไม่ปึก แต่รู้
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 373


« ตอบ #15 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม 2006 เวลา 09:53:17 »


ล้อเล่น ล้อเล่น น่า  Grin

คือว่ามีครั้ง หนึ่ง ผมไปให้ที่อู่ ที่หนึ่งดู ปลายท่อมันดำ/ซดน้ำมัน  เข้าก็ กระซิบ กับลูกน้องเขา ว่า หมุนไอ้นั้น เกลียวหนึ่ง แต่พอดี ผมไม่ทันได้ไปดู แล้ว เขาก็ บอกว่า เอาไปลองขับดู 

** เนี่ยแหละ เรื่องหนึ่งที่ผมไม่อยากเข้าอู่ แบบนี้ จูนเอง ก็ได้ง่ะ ค่อยๆทำ เดียวก็ได้ดี เอง จิง ป่ะ แต่อาจจะ ใช่เวลานานหน่อย 5.5.5.5.5
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!