ไม่ได้เข้ามาตั้ง 1 ปีแล้ว website เปลี่ยนไปมากครับ สวยขึ้นครับ แต่ username เก่าใช้ไม่ได้แล้วครับ ต้องสมัครใหม่ เป็นน้องใหม่อีกครั้งครับ
_______________________
วันนี้มีเรื่องเล่าขำขันมาฝากเกี่ยวกับศูนย์บริการที่ภูเก็ต (เดิมผมเคย post ปรึกษาตอนตัดสินใจซื้อ 206xs เมื่อประมาณ ปีก่อนใน web ครับ)
ตอนนี้ต้องย้ายมาทำงานที่ภูเก็ตและคาดว่าคงอยู่ประจำละครับ
ผมได้เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการที่ภูเก็ตหลายครั้งแล้วเหมือนกัน
ครั้งที่ 1-4 ครั้งแรกที่เข้าไปใช้บริการตอนนั้นยังไม่ถึง 10,000 km ครับจำได้ว่าเรื่องน้ำหยดลงเท้าฝั่งคนขับ (ปรกติจะถอดรองเท้าขับครับ) เป็นน้ำสะอาดครับหยดตอนขับไปนาน ๆ เป็นหยดเล็ก ๆ เย็น ๆ ไม่มาก แต่กวนใจ
ปรากฎว่าเข้าไปรับบริการประมาณ 3-4 ครั้งในเรื่องเดียวกันนี้ กว่าจะแก้ปัญหาให้ได้ โดยการเอาพลาสติกมาคลุมทับ (ช่างบอกว่าเป็นจากไอเย็นจับเป็นน้ำหยดลงมา ไม่มีอะไรเสียหาย)
ครั้งที่ 2 : ตรวจครบระยะ 10,000 km , 23/1/2006 ตอนซื้อรถใหม่ ๆ เคยสอบถามกับช่างทางศูนย์สุรวงค์มาก่อนแล้วว่าระยะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง แต่จะเปลี่ยนก็ได้ครับ ผมก็เห็นเปลี่ยนก็ดีเหมือนกันไม่เสียหายอะไร
เมื่อมาเข้ารับบริการที่ศูนย์ภูเก็ต ก็ตกลงว่าเปลี่ยนครับ เมื่อถึงตอนจ่ายเงินผมก็งง ๆ นิดหน่อยเพราะใบเสร็จเขียนว่า ค่าน้ำมันเครื่อง Fully 1,640 บาท , ค่าบริการ 360 บาท (รวม 2,000 บาท) แล้วไหนละครับค่ากรองน้ำมันเครื่อง (โอ้พระเจ้าช่วย) นี่ถ้าผมไม่ถามเขาก็คงไม่บอกอะไรนะครับ ได้ความว่าไม่มีของ จึงเปลี่ยนให้แต่น้ำมันเครื่องไป
ปล. ถามหน่อยเถอะครับเดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไม่ต้องเปลี่ยนไส้กรองแล้วเหรอครับ แล้วถามอีกข้อเหอะกรองน้ำมันเครื่องนี้เป็นอะไหล่ที่พื้นฐานมาก ๆ ใช่ไหม ทำไมที่ศูนย์บริการถึงไม่มีสำรองไว้ (แย่มากครับ) และไม่มีของทำไมไม่แจ้งลูกค้าดันทุรังเปลี่ยนแต่น้ำมันเครื่องอย่างเดียวได้อย่างไร (เพราะยังไงผมก็รอของได้ครับ)
ครั้งที่ 3 : ถึงคราซวย 10,100 km : รถสตาร์ทไม่ติดหลังจากจอดกินชายสี่หมี่เกี้ยวได้ 15 นาทีและสัญลักษณ์แบตเตอรี่หมดส่องไฟชัดเจน พอดีเป็นคืนวันเสาร์ครับ (ศูนย์ปิดแล้วและวันอาทิตย์ก็ปิด) แต่ปกติจะเป็นคนรอบคอบ จึงพอเบอร์บริการฉุกเฉินของยนตร์กิจได้ จึงโทรไปสอบถามว่ารุ่นควรเปลี่ยนแบตเตอรี่เลยหรือจั้มแบตได้ ทางสายด่วนก็แจ้งว่าจั้มก่อนได้
ผมได้ลองจั้มดูปรากฏว่าไม่ติดครับ และสัญญาณต่าง ๆ ก็ดับวูบไปหมด ระบบ central lock หยุดทำงาน จึงต้องให้คนแถว ๆ นั้นช่วยกันลากรถเข้าไปเก็บไว้ในบริเวณที่พักครับ
พอถึงวันจันทร์ได้โทรไปติดต่อทางศูนย์ภูเก็ตแจ้งเรื่องรถตอนเช้าประมาณ 8.30 น. เนื่องจากวันนั้นต้องขึ้นเครื่องบินไปกทม.ตอนเที่ยง จะได้วางแผนถูกว่าจะจ้าง taxi หรือเอารถไปได้ ช่างก็มาดูด้วยอาการหงุดหงุดเล็กน้อยและบ่นว่าจั้มแบตทำไม ทำให้ระบบสมองกลมันตัดการทำงาน (ผมก็แจ้งให้ทราบไปว่าทางสายด่วยแนะนำให้ทำ) และผมก็เห็นช่างคนนั้นเอาแบตมาพ่วงจั้มรถผมเหมือนกัน (เหอ ๆ) หลังจากที่บ่น
ทางช่างแจ้งบอกบอตเตอรี่หมด ต้องเปลี่ยน ไม่รู้ว่าทางศูนย์ยังรับประกันหรือไม่ ผมก็แจ้งว่ารีบใช้ไม่ต้องเคลมก็ได้ ขอเปลี่ยนไว ๆ จะรีบใช้รถ ทางช่างก็ไปเอาแบตเตอรี่มาเปลี่ยนให้ หลังจากเปลี่ยนก็ยังคงไม่ติดเหมือนเดิม ช่างแจ้งว่าต้องใช้เครื่องมือ diagnostic มาตั้งระบบใหม่ ต้องยืมมาจากกทม. (เป็นอันว่าโทรตาม Taxi ได้)
หลังจากนั้นเวลาผ่านไป 8 วัน ไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ จากทางศูนย์บริการแม้แต่ครั้งเดียวครับ ผมจึงตัดสินใจโทรไปว่าเครื่องมือมาหรือยัง ทางศูนย์บอกว่ามาแล้วครับส่งคนไปดูแล้วครับ ยังไม่ถึงหรือครับ ..... (แหม... ถ้าไม่โทรตามนี้มันจะมาดูให้ไหมเนี้ย จะดองรถตรูไว้กี่ชาติกันวะ) หลังจากนั้น 15 นาทีผมเดินออกมาดูรถที่จอดรถ ปรากฏว่ารถยนต์หายสาบสูญไป ปล.ผมให้กุญแจไว้กับช่างตั้งแต่ 8 วันก่อนครับ) ผมก็นึกว่าคงเอารถไปลองแล้วเด๋วคงมารับเรา (เพราะที่พักก็ไม่ได้ใกล้กับศูนย์มาก และหารถไปศูนย์ลำบาก)
เวลาผ่านไปครึ่งวันไม่ได้รับการติดต่อกลับแต่อย่างใด ผมจึงติดสินใจโทรไปสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น (เพราะเท่าที่คุยกันว่าเอาเครื่องมือมา reset ระบบแล้วน่าจะเสร็จสิ้น ไม่น่าจะต้องทำอะไรอีก) ทางศูนย์แจ้งว่ารถของคุณซ่อมเสร็จแล้วคะ ให้มารับรถได้เลยคะ ............. (เวรกรรมจริง ๆ นี้ถ้าไม่โทรไปถามมันจะโทรมาแจ้งไหมเนี้ย) ผมก็บ่นว่าทำไมเอารถไปที่ศูนย์ หรือถ้าต้องเอาไปจริงทำไม่แจ้งหรือรับผมไปด้วยเอาเครื่องมือมา reset ก็เสร็จแล้วไม่ใช้เหรอ ผมจึงแจ้งว่าไม่ทราบว่ามีรถมารับหรือไม่เพราะหารถไปศูนย์ลำบากและฝนก็ตก ทางศูนย์แจ้งว่าขณะนี้ช่างของเราไม่ว่างคะ คงต้องหารถมาเองคะ (โห .... กะอีแค่มารับลูกค้าต้องใช้ช่างด้วยเหรอ) สุดท้ายก็โทรจ้าง Taxi มารับไปศูนย์
เมื่อไปถึงก็ไม่ได้รับการแจ้งรายละเอียดใด ๆ ตามเคย (ศูนย์นี้มันไม่คิดจะแจ้งอะไรกับลูกค้าเลยหรือไงกันเนี้ย) ยื่นมาแต่ใบเสร็จค่า แบตเตอรี่ 65A แห้ง 2,617 บาท , เช็คด้วยเครื่องมือพิเศษ 552 บาท ,
ค่าบริการนอกสถานที่ 2 ครั้ง 1,200 บาท .............. รวม 4,600 กว่าบาท
ผมติดใจนิดเดียวว่าไอ้ค่าบริการนอกสถานที่ 2 ครั้ง 1,200 นี่มันทำอะไรบ้างเนี้ย มาดูรถ 2 ครั้งแล้วก็ขับรถไปเก็บไว้ที่ศูนย์ในครั้งที่ 2 โดยไม่รับลูกค้าไปด้วย (ผมเสียค่า Taxi 200 บาทไปศูนย์ยังคุ้มกว่าอีก และยังถึงศูนย์ด้วยครับ) ก็งง ๆ เบลอ ๆ เพราะไม่เคยได้รับการบริการที่ประทับใจเลยครับจากศูนย์ที่นี่ และอุตส่าต์ไม่บ่นอะไรมาตลอด ครั้งนี้จึงพูดออกไปคำเดียวครับกับเจ้าหน้าที่ว่า "ศูนย์บริการที่นี่บริการได้แย่มาก เมื่อเทียบกับกรุงเทพ และศูนย์บริการญี่ห้ออื่น ๆ " และรับรถไปอย่างหงุดหงิดครับ
นี่ละครับเรื่องขำขันเล็ก ๆ น้อย ๆ จากศูนย์บริการที่ภูเก็ต , ส่วนตัวรถที่ใช้ดีครับยังประทับใจอยู่เหมือนเดิมครับ ติดแต่ที่ศูนย์บริการเท่านั้นละครับ และที่แย่กว่านั้นคืออาจจะต้องใช้บริการที่ศูนย์นี้อีกต่อไปเรื่อย ๆ ครับเพราะต้องอาศัยอยู่ที่ภูเก็ต (ผมว่า มีแววเปลี่ยนรถเร็ว ๆ นี้ครับ เหอ ๆ)