การOverhaul เคยอ่านเจอว่า เครื่องเบ็นซินใช้งานมาซัก แสนกว่าโล ก็ทำแค่เปิดฝาบดวาล์ว แค่ไม่กี่พันบาท แล้วซักสองแสนกลางๆ-สามแสนโลค่อยทำชุดใหญ่รีเซ็ต0โลไปเลย ก็คงสอง-สามหมื่นขึ้น แต่ผมว่าบางทีเจ้าของรถไม่ได้ใช้ตัวเลขนี้ในการตัดสินใจหรอกครับ เพราะสุขภาพของเครื่องยนต์แต่ละคน การดูแล นิสัย อื่นๆ ไม่ค่อยเหมือนกัน
บางคนซ่อมตามอาการไปเรื่อยๆ แบบอันไหนเสียก็ทำตรงนั้น เท่านี้ก็ขับกันจนเบื่อแล้ว และอาจมีบ่นว่าหาเหตุผลทิ้งมันไม่ลง เพื่อนผมยกเครื่องมา ผมถามเป็นไงมั่ง เขาก็บอก เร่งดีกว่าเดิมบ้างมั้ง(ของเดิมอาจต้องกดลึกกว่าหน่อย ถึงที่สุดของตีนปลายก็ใจไม่ถึงอีก) กินน้ำมันเครื่องน้อยลง ประหยัดเบ็นซินนิด เครื่องเย็นหน่อย เสียงเงียบลงจิดๆ แต่ดูภายนอกเครื่องสะอาดมาก 555 ซึ่งสรุปไปเลยว่าสำหรับรถคันนั้นว่า ไม่ค่อยคุ้ม ถ้าแบบว่าไม่สบายใจ ผมว่าเอาเข้าอู่เช็คกำลังอัดแต่ละสูบ ตั้งวาล์ว ดูการกินน้ำมันเครื่องอะไรทำนองนี้ดูก่อนดีไหม และลองให้ช่างแนะนำดูว่ารถท่านบกพร่องอะไรเพิ่มเติมอีกทีครับ
สมัยก่อนซัก20-30ปีที่แล้ว รถมีราคาแพงมาก นำเข้าทั้งนั้น ก็ต้องซ่อมกันไป ซ่อม ซ่อม เมืองไทยประเทศเดียวรึเปล่าไม่รู้ที่ซ่อมกันดุเดือดมาก ถึงมากที่สุด การคว้านกระบอกสูบถือเป็นเรื่องปกติ และเท่าที่อ่านผ่านๆมาอีกแหละ มันมีหลายเลเวลล์ คือ อาจต้องเปลี่ยนขนาดแหวนด้วย หรือไม่ก็เปลี่ยนไปใช้ลูกสูบโอเวอร์กว่าเดิม ก็คว้านไปเรื่อยๆจนกว่าระยะห่างแต่ละสูบมันบางจนอันตราย และรถพวกเราเทคโนโลยีเก่า เครื่องมือที่มีอยู่ตามโรงกลึงแบบปกติก็น่าจะไหวนะครับ คงไม่ต้อง cnc dnc อะไรนัก ผมว่าปัจจุบันรถบ้านคงทำน้อยแล้วเพราะเจ้าของเบื่อ แต่รถซิ่งอย่างแมงกะไซชอบนัก เพิ่มซีซี นิดเดียวพุ่งเห็นๆ
แต่ปัจจุบันมันมีอินเตอร์เนตเลย ทำให้เหตุผลอื่นอีกมาเข้าหูพวกเรา เช่น บางคนก็ใช้วิธีเปลี่ยนเครื่องที่ใช้งานมาแค่2-3หมื่นโลจากฝรั่ง เพราะราคาสูงกว่าบ้างแต่อาจจะชอบอย่างอื่นที่ทันสมัยพีคดีกว่า แต่บางคนก็เปลี่ยนรถไปเลย โดยเอาราคาขายรถ+ราคาซ่อมเครื่อง+เงินที่ต้องจ่ายเพิ่ม= ราคารถใหม่ -ค่าใช้จ่ายที่น่าจะลดลง เช่น ค่าประหยัดน้ำมัน ฯลฯ นี่ถ้าเมืองไทยมีกฎหมายแบบบางประเทศ เราคงต้องเปลี่ยนรถอย่างเดียวไม่ต้องซ่อม