ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2025 เวลา 23:36:21

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  มีปัญหา /สอบถาม /ให้คำแนะนำ รถยนต์ peugeot แต่ละรุ่น
| |-+  40X
| | |-+  ตอนนี้ผมใช้ 406 D8 ทำไมซดน้ำมันมากจังครับ
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนนี้ผมใช้ 406 D8 ทำไมซดน้ำมันมากจังครับ  (อ่าน 4503 ครั้ง)
optical_illusion
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5


« ตอบ #24 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 สิงหาคม 2007 เวลา 21:32:04 »


ซื้อ D8 มือสองมาเหมือนกันครับ ขับไปเดือนกว่า เครื่องพังครับ วาล์วพังต้องบดวาล์ว
คว้านกระบอกสูบ เปลี่ยนคันชัก หมดไปหมื่นกว่าบาท สาเหตุแค่เจ้าของเดิมเติม 91
จริงเท็จแค่ไหนไม่รู้นะครับ แต่ช่างที่รัชดา บอกมาแบบนั้น ตอนนี้ก็ทยอยๆซ่อมครับ ขับไปซ่อมไป
เรื่องอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันก็ ในเมืองรถติด ประมาณ 7-8 กิโลลิตรครับ ถ้าขับต่างจังหวัดก็ เซฟกว่านั้นครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
Skarloey 406
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 38



« ตอบ #25 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 สิงหาคม 2007 เวลา 21:45:03 »


D8 ผมในเมืองประมาณ 7 โล/ลิตรเท่านั้นครับ ต่างจังหวัดยังไม่เคยลอง ตั้งแต่ซื้อมาเกือบปี
ที่ทำได้เท่านี้อาจเพราะ วิ่งน้อย-วิ่งใกล้ เป็นหลัก ก็พยายามไม่คิดมากครับ แต่ถ้าประหยัดกว่านี้ได้ก็ดีครับ
D8 ปี 99 เลขไมล์ 95,000 โล
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
songdej
สิงห์ปริญญาเอก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 402



« ตอบ #26 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 สิงหาคม 2007 เวลา 22:18:57 »


ผม D8 ปี 2000 เลขไมล์ 110,000

วิ่งไปต่างจังหวัด ความเร็วสูง 140-150 ตลอด บางครั้งถ้าโล่งก็ลอง 170 up.
ได้ 9.8 กม./ลิตร

พึ่งเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง-กรองอากาศมา (ได้รถมาอาทิตย์เดียว)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
tree406
สิงห์มัธยม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123



« ตอบ #27 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 03 สิงหาคม 2007 เวลา 09:04:26 »


D8 ผมเมื่อก่อนกินน้ำมัน 7-8 โล/ลิตรในเมือง นอกเมือง 12 Up ตอนนี้กินแก๊ส กิโลละ 1.25 - 1.35 บาท ครับ กินแก็สจะวิ่งได้ระยะทางประมาณ 6-7 กม./ลิตร  ลืมน้ำมันไปเลย
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
anus
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235



« ตอบ #28 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 03 สิงหาคม 2007 เวลา 09:37:16 »


D8 ผม ก้อประมาณนี้แหละ แต่ตอนนี้ผมให้กินแก๊สแทนแล้ว ครับ กินมาได้ 13 เดือนกว่า ๆ ยังปกติครับ  กินแก๊สความเร็วสูงสุด ที่ทำได้ลากยาว  20 กม.  195 ครับ  ยังไปต่อ..ครับ วิ่งเส้นจันทบุรี..เมื่อประมาณ 4 อาทิตย์ที่ผ่านมา
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
babyarch
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10


« ตอบ #29 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 03 สิงหาคม 2007 เวลา 19:46:58 »


ของผมขับรถติดๆ ก็ 5-6 โลลิตรครับ(95 ธรรมดา) ผมเคยคิดว่าอาจจะเป็น ที่ o2 sensor เหมือนกันแต่ไม่เคยลองทดสอบ
(ผมว่าคำว่า ขับในเมือง กับรถติด นี่ต้องให้ความหมายกันด้วยหรือเปล่าครับ ถึงจะบอกได้ว่า อย่างไร อย่างของผมระยะทาง ติดนี่ คือ ประมาณ 1 ชม. ในช่วงระยะทางประมาณ 6-7 โล)

เอาไปติดแก๊สมา แบบ fix-mix + lambda ลองดูกราฟกับเพื่อนที่เค้าจูนเป็น เค้าก็ว่า o2 น่าจะทำงานปกติ ช่วงติดแก๊สใหม่ๆ ไปขับทางโล่งๆ ทดลองไปประมาณ 120 โล (วิ่งเล่น 2-3 วัน) พบว่าอัตราการกินแก๊สประมาณ 10 โล/ลิตร พอมาช่วงปกติขับไปในเส้นทางเดิมๆ ก็พบว่า กลับไปกินที่ประมาณ 5-6 โล/ลิตร เหมือนเดิม

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
pla109
Save for money and life
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 43



« ตอบ #30 เมื่อ: วันพุธที่ 08 สิงหาคม 2007 เวลา 22:52:03 »


เจอกระทู้นี้ทีไรผมก็จะตอบทุกทีครับ คือคันของผมมันก็กินแบบนี้ล่ะครับ 5 ก.ม./ลิตร (O2 ผมไม่ได้เสียด้วยครับ) ในเมืองผมสังเกตว่ามีบางท่านทำได้ถึง 7-8 กม./ลิตรในเมือง แต่บางท่านก็ได้แค่ 5.5 กิโลลิตรในเมือง

ผมขอบอกว่ามันเป็นเพราะเกียร์แท้ๆ ครับ ไอ้เกียร์ (บ้าๆ) ที่ชอบลากรอบและไม่รู้ว่ามันจะรักชอบเกียร์ 1-2 อะไรนักหนาก็ไม่รู้ ลากจนรถดื้อไปหมดไม่ได้มีความสัมพันธ์กับความเร็วของรถเลย หลับหูหลับตาลากอย่างเดียว ผมสังเกตุดูพอเอารถเข้า clear ความจำ ECU ที่ศูนย์มันจะหายจากโรคนี้ชั่วคราว รถจะเปลี่ยนเกียร์ขึ้นได้ดีมาก วิ่งตัวเบาเลย พอ 2 วันมันเป็นอีก ไอ้โรคเรื้อรัง อะไรๆ ก็ดีทุกอย่าง มีก็ไอ้ลากรอบเนี่ย ก็ไอ้สมองเกียร์ที่มันรู้ดีอ่านพฤติกรรมเราแล้วมาปรับเปลี่ยนการเปลี่ยนเกียร์นี่ล่ะรู้ดีนักแต่ทะลึ่งไม่รู้จริงว่าเจ้าของรถเขาอยากจะเปลี่ยนเกียร์สูงแล้ว เอ็งจะยันอยู่กับเกียร์ 2 อยู่ได้ มันต้องเลย 65 ทุกทีให้ตายดิ้น จึงจะขึ้นเกียร์ 3 !!!!!

ในรถ D8 นี่ตกลงผมเซ็งเกียร์มากสุด สำหรับท่านที่ทำได้ 7-8 ก.ม./ลิตร แสดงว่าโชคดีที่สมองของรถท่านมันดี ผมคิดว่ารถคันนั้นคงไม่บ้าลากรอบจนยัน 3000 ทุกครั้ง

สำหรับท่านเจ้าของกระทู้ ผมขอแนะนำให้กดปุ่ม snow ครับ แล้วมันจะไม่ลากรอบ และออกด้วยเกียร์ 2 ครับ กดมันทุกครั้งที่สตาร์ทครับ แล้วรถมันจะไม่ทะลึ่งวิ่งความเร็วสูงด้วยเกียร์ต่ำอีก เพราะมันโปรแกรมมาให้ป้องกันล้อมีแรงบิดมากจนหมุนฟรีบนน้ำแข็ง เราอย่างให้มันมีอิสระในการทำงานครับ ต้องบังคับมัน แล้วเราจะได้ไม่ต้องมานั่งเซ็งตอนคำนวนอัตราสิ้นเปลืองครับ ผมทำแบบนี้แล้วได้ 7 ก.ม./ลิตร ครับ !!!!

จริงๆ แล้วจากยานยนต์เดือนสิงหาปี 2541 ว่าด้วยเรื่องเกียร์ D8 ไว้ดังนี้ครับ
การเปลี่ยนจังหวะเกียร์ของ D8 มี 5 แบบ
1.แบบปกติประหยัดเชื้อเพลิง
2.แบบเซ็ทกำลังให้ฉับไวขึ้นหน่อย โดยเหมาะทั้งในเมืองและนอกเมือง โดยกล่องจะเลือกแบบนี้บ่อยสุด
3.การเปลี่ยนสำหรับการใช้งานหนัก เช่น มีน้ำหนักบรรทุก หรือมีลมแรงมาปะทะ
4.เน้นสมรรถนะแบบรถ Sport ทั่วไป
5.เค้นสุดๆ

โดยแบบ normal จะจำกัดอยู่ 1,2,3
แบบ snow จะเหมือนแบบ normal แต่ออกตัวเกียร์ 2
แบบ Sport จะจำกัดแบบ 4,5

แต่มันไม่จริงครับ อ้าว...!!! ลองกด Snow ดู แล้วจะรู้ว่ามันไม่เหมือนกันกับ Normal ครับ

อีกอย่างขับรถเสาร์อาทิตย์ เปิดหน้าต่างไปเลยครับ มันไม่ได้ร้อนอย่างที่คิด ปิด A/C ซะ แล้วขับไปเลยครับ อีกทางก็คือติดแก๊สครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
pinky
สิงห์ปริญญาเอก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 461


« ตอบ #31 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 09 สิงหาคม 2007 เวลา 07:32:55 »


เห็นด้วย ติดแก๊ส เถอะ ค่า ประมาณ 500 บาท 406 D8 เนี่ย
วิ่งรถติดๆทุกวันข้ามสาทร วิ่งได้ตั้ง 350กิโลแล้ว ประหยัดกว่าแยะ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
AK
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 32


« ตอบ #32 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 07 กันยายน 2007 เวลา 22:01:41 »


ของผม EA9 กินน้ำมันเดินทางไกลความเร็ว 110km/h ที่ 17-21 กิโล/ลิตร ในเมือง 7-9 กิโล/ลิตร ครับ เติม 91 หรือแก๊ซโซฮอล 91 (ตามคู่มือให้เติม 91) ในควาคิดผมแล้วมันประหยัดมากเลย
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
old-big
สิงห์มืออาชีพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 580



« ตอบ #33 เมื่อ: วันอังคารที่ 11 กันยายน 2007 เวลา 07:08:27 »


ท่าน จขกท อย่างแรกเปลียนน้ำมันมาใช้ออกเทน 95 ก่อนครับ

แล้วลักษณะการขับของคุณก็ไม่บอกว่าขับหนักไหม เพราะอัตราการกินน้ำมันของคุณก็ไม่ได้ผิดปกติ ถ้าคุณเป้นคนขับเร็วและคิกดาวน์บ่อย


วิ่งต่างจังหวัดถ้าเกิน 170 กม./ชม.ขึ้นไป โดยเฉลี่ย 9-10 กม./ลิตรครับ 406 D9  ถ้าแบบชาวบ้านไม่เกิน 130 กม./ชม. ก็ประมาณ 13-14 กม. ต่อ ลิตร ในเมืองถ้าขับแบบชาวบ้านๆก็ 7-8 กว่าๆ กม./ลิตร ถ้ารถติดหนักมากๆแบบจอดมากกว่าวิ่ง 5-6 กม.ต่อลิตรไม่แปลกครับ







แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
dddongdd
สิงห์มัธยม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 148



« ตอบ #34 เมื่อ: วันอังคารที่ 11 กันยายน 2007 เวลา 08:44:57 »


สำหรับท่านเจ้าของกระทู้ ผมขอแนะนำให้กดปุ่ม snow ครับ แล้วมันจะไม่ลากรอบ และออกด้วยเกียร์ 2 ครับ กดมันทุกครั้งที่สตาร์ทครับ
แต่มันไม่จริงครับ อ้าว...!!! ลองกด Snow ดู แล้วจะรู้ว่ามันไม่เหมือนกันกับ Normal ครับ

ลองดูตามที่ พี่pla109 บอกครับใช้ได้ผลครับ ผมกำลังหงุดหงิดอยู่เลยในปัญหา ลากรอบ 3000 รอบในเกียร์ต่ำ ส่วนการกินน้ำมันผมใช้แก๊ส เติมประมาณ 450 บาท วิ่งได้ประมาณ 350 - 400 km ผมอยู่ต่างจังหวัดครับรถไม่ค่อยติดครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
sale
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« ตอบ #35 เมื่อ: วันอังคารที่ 11 กันยายน 2007 เวลา 15:58:10 »


ขั้นตอนเเรก       เช็คที่กรองดูว่าตันไหม   ถ้าไม่ตันถอดปีกผีเสื้อมาล้างใช้น้ำมันล้างเองเลยคับ ลองทำดูไม่ยากคับไม่ทำก็ไม่เป็น       
               อ็อกซิเจนเซ็นเซอร์อยู่ไต้ท่อไอเสีย หลังเเคต  ขันออกมาเเล้วขัดให้สะอาดเเล้วไส่กับ    จับการกินดู
               ถ้ารดติดมากๆ      เเละขับเเบบเหยียบคันเร่งมากๆ     ผมว่าการกินน้ำมันไม่ผิดปกตินะ
              ข้อนี้น่าสนที่สุด  สุดท้าย เข้าศูนย์ ให้ศูนเช็คด้วยเครื่องชัวที่สุด     เเล้วให้เขาบอกว่าต้องทำไรบ้าง เเล้วไปทำข้างนอกตามที่เขาบอก
                 สมมติเช่น  อ็อกซิเจนเซ็นเซอร์เสีย หาของญี่ปุ่นใส่เเทนได้           ผมเคยหา 600 บาทเอง
                 ใช้เปอร์โยก็ควรระวังอู่ที่หากินด้วยนะคับ   ถ้าสะดวกไปศูนย์คับเช็คเเค่ 500 เองคับไม่ทำก็ไม่เป็นไรคับเพราะเราไม่มีตังจ่ายเรยไม่ทำ           
               เเละลองเปลี่ยนพฤติกรรมการขับด้วยนะคับค่อยๆกดคันเร่งคับ       406 จำเป็นต้องซ่อมด้วยการวิเคราะจากเครื่องมือทางอิเล็คทรอนิกควบคู่ด้วยคับ  หากลองเปลี่ยนมั่วก็อยู่ที่ดวงคับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!