IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« เมื่อ: วันจันทร์ที่ 05 พฤษภาคม 2014 เวลา 20:20:50 » |
|
อาทิตย์ที่แล้วผมนัดช่างเปลี่ยนสายพานไทมิ่งกลางเดือนนี้เพราะถึงระยะแล้ว ก็คุยกันว่าจะให้ช่างเปลี่ยนตาน้ำทุกตัวและเช็คท่อน้ำหลังเครื่องด้วยเลย เพราะเคยได้ยินกิตติศัพของเจ้าตาน้ำตัวนี้มาพอสมควร และได้อ่านหัวข้อเก่าๆคือ http://www.vlovepeugeot.com/forum/index.php?topic=30569.0 มาด้วยครับเป็นข้อมุลอย่างดี วันนี้ผมเอารถออกจากบ้านตั้งแต่เช้ารู้ สึกแปลกๆรถเร่งไม่ขึ้น มีอาการเครื่องสั่นบ้าง หยุดรถ Start ทำท่าจะติดแต่ดับลง start ใหม่ก็ติดครับวิ่งได้ปกติ ขับไปอีกพัก เร่งไม่ขึ้น ไฟเตือนและเข็มต่างๆในรถไม่มีอะไรผิดปกติ เปิดดูกระโปรงหน้า ได้ยินแต่เสียง ซ่าๆๆๆ มาจากในเครื่อง ก็เลยลองขับต่อเพื่อไปหาช่างที่อู่ ขับได้ไม่นานความร้อนขึ้นครับ ต้องรีบหยุดรถข้างทางทันที หลังจากช่างมาที่รถเช็คดูปรากฎว่าน้ำในหม้อพักหายหมด มีน้ำไหลมาจากใต้ฝาครอบเครื่องเป็นทาง ช่างบอกตาน้ำชัวร์เลย เป็นตาน้ำด้านบนเครื่อง ก็เติมน้ำแล้วก็ขับไปที่อู่ หลังเติมน้ำรถก็วิ่งอาการเป็นปกติครับ เร่งได้ปกติ และไม่มีอาการอื่นๆผิดปกติแบบเริ่มแรก ... ก็ระวังๆกันด้วยนะครับ ผมระวังมาตลอดเรื่องตาน้ำเพราะหลายปีก่อนทำรถเพื่อนผมเครื่องพังมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรกะมัน พอจะทำก็มาเจอก่อนเเค่ไม่กี่วันครับ แต่ก็ยังโชคดีที่มีปัญหาแถวบ้าน ใกล้ช่าง ไม่งั้นแย่แน่ๆครับ แล้วจะเอาผลการซ่อมมารายงานอีกครั้งครับ ...
|
|
|
|
TiTLe
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 05 พฤษภาคม 2014 เวลา 21:21:02 » |
|
หวั่นๆเหมือนกันครับเด่วเปลี่ยนสายพานคราวนี้จะได้ให้ช่างเค้าจัดการซะหน่อย วิ่งมาสามแสนกว่าแล้วยังไม่ได้ดูเลย
|
|
|
|
w_2005
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 05 พฤษภาคม 2014 เวลา 22:54:24 » |
|
ขอบคุณที่มาเตือนกันครับ สงสัยต้องลองเช็ครถผมดูมั่งครับ
|
|
|
|
NOK405
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: วันอังคารที่ 06 พฤษภาคม 2014 เวลา 06:11:21 » |
|
รั่วตัวนี้ น่าจะไม่ทำให้น้ำไหลเข้าท่อไอดีทำให้ดูดน้ำเข้าเครื่อง คงจะไม่ทำความเสียหายต่อภายในเครื่องแต่คงต้องเปิดและรื้อออกมาเปลี่ยนกัน ตาน้ำ406 d9 นี่มันตัวทำให้กังวลใจกันจริงๆ
|
|
|
|
IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: วันอังคารที่ 06 พฤษภาคม 2014 เวลา 15:11:33 » |
|
หวั่นๆเหมือนกันครับเด่วเปลี่ยนสายพานคราวนี้จะได้ให้ช่างเขาจัดการซะหน่อย วิ่งมาสามแสนกว่าแล้วยังไม่ได้ดูเลย
ขอบคุณที่มาเตือนกันครับ สงสัยต้องลองเช็ครถผมดูมั่งครับ
จัดการเลยครับ ตาน้ำตัวละไม่กี่บาท เวลามีปัญหาเรื่องใหญ่เลย... D9 ของเพื่อนผม ตาน้ำรั่วขณะขับกลางคืน แถวๆประจวบ เมื่อหลายปีก่อน สรุปเครื่องพังครับ
|
|
|
|
IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: วันอังคารที่ 06 พฤษภาคม 2014 เวลา 15:24:45 » |
|
รั่วตัวนี้ น่าจะไม่ทำให้น้ำไหลเข้าท่อไอดีทำให้ดูดน้ำเข้าเครื่อง คงจะไม่ทำความเสียหายต่อภายในเครื่องแต่คงต้องเปิดและรื้อออกมาเปลี่ยนกัน ตาน้ำ406 d9 นี่มันตัวทำให้กังวลใจกันจริงๆ
เบื้องต้นเครื่องยนต์ไม่มีปัญหา ตาน้ำตัวที่รั่วช่างได้รื้อออกมาแล้วครับ แต่ผมจะให้เปลี่ยนทุกตัวเลยครับ รู้สึกว่าจะมีสามตัว
|
|
|
|
theera
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: วันอังคารที่ 06 พฤษภาคม 2014 เวลา 16:42:26 » |
|
รถผม V 2 วิ่งมา 1 แสน 3 หมี่น ว่าจะไปเปลี่ยนเหมือนกัน ของคุณวิ่งมาเท่าไรที่พัง...เห็นช่างบอกว่าสมควรเปลี่ยนได้แล้ว ..รถ 10 ปีกว่า ...ยังไม่มีมีเวลา คงต้องจัดการให้จบในเดือน พค.นี้
|
|
|
|
sarator1991
สิงห์มือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 22
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: วันอังคารที่ 06 พฤษภาคม 2014 เวลา 17:46:53 » |
|
ผมขอแสดงความคิดเห็นหนอ่ย ครับไม่เเน่ใจเหมื่อนกันว่าจะถูกต้องหรือเปล่า? น้ำยาที่เติมลงไปในหม้อน้ำ ( เติมตามคำเเนะนำข้างขวด) ทำหน้าที่2อย่างคือ 1 ป้องกันการเดือดของน้ำที่อุณหภูมิ 100'c ( Antiboil ) 2ป้องกันการถ่ายประจุของ ชิ้นส่วนต่างๆของเคื่องยนต์ ในระบบหล่อเย็น ทำปฎิกริยาต่อกัน เช่น อลูมินั่มก็จะผุเป็นขี้เกลือ ส่วนที่เป็นเหล็กชูบสังกะสี ( ตาน้ำ ) ก็ผุเป็นสนิมเหมือนกัน รบกวนพี่ๆช่วยชี้เเนะด้วยครับ ขอบคุณครับ
|
|
|
|
IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: วันอังคารที่ 06 พฤษภาคม 2014 เวลา 18:45:48 » |
|
รถผม V 2 วิ่งมา 1 แสน 3 หมี่น ว่าจะไปเปลี่ยนเหมือนกัน ของคุณวิ่งมาเท่าไรที่พัง...เห็นช่างบอกว่าสมควรเปลี่ยนได้แล้ว ..รถ 10 ปีกว่า ...ยังไม่มีมีเวลา คงต้องจัดการให้จบในเดือน พค.นี้
ของผม V1 ออกตั้งแต่ป้ายแดงครับ ปี 2001 ขับมือเดียวมาตลอด 13ปี ไมล์ 262,XXX กม. ผมว่าเปลี่ยนเถอะครับจะได้สบายใจ ตัวนึงไม่กี่บาท แต่รื้อยากหน่อย เวลามันรั่วขึ้นมาจะลำบาก เพราะมันมองไม่เห็นครับ ของผมอาการเริ่มแรกคือน้ำในหม้อน้ำพร่อง แต่เห็นว่ามีจุดรั่วซึมตรงท่อที่ต่อกับหม้อน้ำด้านใต้เปลี่ยนโอริงก็หายครับ หลังจากนั้นในหม้อพักน้ำยังพร่องลงแต่น้อยกว่าเดิมมาก ผมเติมน้ำทุกอาทิตย์เป็นปกติแต่พอมันจะรั่วขึ้นมาก็รั่วแบบกระทันหันจนน้ำแห้งเลย
|
|
|
|
IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: วันอังคารที่ 06 พฤษภาคม 2014 เวลา 18:54:23 » |
|
ผมขอแสดงความคิดเห็นหนอ่ย ครับไม่เเน่ใจเหมื่อนกันว่าจะถูกต้องหรือเปล่า? น้ำยาที่เติมลงไปในหม้อน้ำ ( เติมตามคำเเนะนำข้างขวด) ทำหน้าที่2อย่างคือ 1 ป้องกันการเดือดของน้ำที่อุณหภูมิ 100'c ( Antiboil ) 2ป้องกันการถ่ายประจุของ ชิ้นส่วนต่างๆของเคื่องยนต์ ในระบบหล่อเย็น ทำปฎิกริยาต่อกัน เช่น อลูมินั่มก็จะผุเป็นขี้เกลือ ส่วนที่เป็นเหล็กชูบสังกะสี ( ตาน้ำ ) ก็ผุเป็นสนิมเหมือนกัน รบกวนพี่ๆช่วยชี้เเนะด้วยครับ ขอบคุณครับ
เป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากครับ...
|
|
|
|
IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: วันพุธที่ 07 พฤษภาคม 2014 เวลา 15:26:09 » |
|
ล่าสุดเบื้องต้น ช่างรายงานมาว่า ต้องเปลี่ยนปั๊มน้ำอีก 1 ตัวครับ นอกนั้นยังโอเคอยู่ ส่วนตาน้ำช่างรื้อหมดแล้วทุกตัว ทั้งตัวที่รั่วและตัวอื่นๆด้วย งวดนี้เลยถือโอกาสเปลี่ยนยางแท่นเครื่องอีก 2ตัวเพราะฉีกขาดหมดแล้ว...อะไหล่ต่างๆมาถึงหมดแล้ว ถ้าไม่มีปัญหาอะไรวันศุกร์ น่าจะเสร็จครับ รับรถแล้วผมจะมารายงานผลอีกครั้งครับ
|
|
|
|
จิรโรจน์
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: วันพุธที่ 07 พฤษภาคม 2014 เวลา 16:56:09 » |
|
ตาน้ำที่อยู่บนฝาสูบ และทีเสื้อสูบ เวลามันรั่ว ก็แค่ทำให้น้ำแห้ง เครื่องยนต์ร้อนจัด ยังมีโอกาสแก้ไขทัน แต่ตัวที่อยู่ใต้เสื้อวาล์วน้ำสิ เวลามันรั่ว จะไม่รู้เลย เพราะมันไหลเข้าท่อไอดี
|
ID Line: manmingmitr
|
|
|
IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: วันพุธที่ 07 พฤษภาคม 2014 เวลา 20:21:53 » |
|
ตาน้ำที่อยู่บนฝาสูบ และทีเสื้อสูบ เวลามันรั่ว ก็แค่ทำให้น้ำแห้ง เครื่องยนต์ร้อนจัด ยังมีโอกาสแก้ไขทัน แต่ตัวที่อยู่ใต้เสื้อวาล์วน้ำสิ เวลามันรั่ว จะไม่รู้เลย เพราะมันไหลเข้าท่อไอดี
ในตอนแรกช่างหาเจอแค่สองตัวครับ คือตัวที่รั่วบนฝาสูบ และอีกตัว ส่วนตัวที่อยู่ใต้วาล์วน้ำซึ่งเป็นตัวอันตราย ช่างไม่รู้ครับว่ามีตัวนี้อีกตัว ผมอาศัยข้อมูลจากหัวข้อเก่าเรื่องตาน้ำบอกกับช่างไป ว่ายังมีอีก ช่างก็เลยรื้อหาจนเจอครับ มันมองไม่เห็นจริงๆ ช่างบอกว่า ถ้ารั่วตัวนี้ อันตรายมาก น้ำจะไหลเข้าไปในท่อไอดี และทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ในที่สุด ...
|
|
|
|
จิรโรจน์
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 08 พฤษภาคม 2014 เวลา 07:42:40 » |
|
ที่ฝาสูบ จะมีตาน้ำทั้งหมด 4 ตัว คือ ด้านบนที่เบ้าหัวเทียน 2ตัว และที่ใต้เสื้อวาล์วน้ำอีกตัว ส่วนอีกตัว จะใหญ่กว่า อยู่ด้านเฟืองราวลิ้นครับ
|
ID Line: manmingmitr
|
|
|
IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 08 พฤษภาคม 2014 เวลา 07:59:47 » |
|
ที่ฝาสูบ จะมีตาน้ำทั้งหมด 4 ตัว คือ ด้านบนที่เบ้าหัวเทียน 2ตัว และที่ใต้เสื้อวาล์วน้ำอีกตัว ส่วนอีกตัว จะใหญ่กว่า อยู่ด้านเฟืองราวลิ้นครับ
มี4ตัวเหรอครับ ผมนึกว่า3 ขาดตัวใหญ่ไปหนึ่งตัว ไม่แน่ใจว่าช่างประกอบกลับหมดหรือยังเดี๋ยวจะรีบแจ้งเลยครับ ...
|
|
|
|
จิรโรจน์
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 08 พฤษภาคม 2014 เวลา 08:34:14 » |
|
เฟืองราวลิ้นมันจะบัง มองไม่เห็น ต้องถอดสายพาน เอาเฟืองออก ถอดแท่นเครื่อง ยกเครื่องให้เงยขึ้น จึงจะทำงานได้ แต่ถ้าเครื่องอยู่ข้างล่างแล้ว ทำสบายครับ
|
ID Line: manmingmitr
|
|
|
IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 08 พฤษภาคม 2014 เวลา 08:49:32 » |
|
เฟืองราวลิ้นมันจะบัง มองไม่เห็น ต้องถอดสายพาน เอาเฟืองออก ถอดแท่นเครื่อง ยกเครื่องให้เงยขึ้น จึงจะทำงานได้ แต่ถ้าเครื่องอยู่ข้างล่างแล้ว ทำสบายครับ
เรียบร้อยครับ รื้อหมดแล้วทุกตัวครับ ช่างบอกว่ามี 5ตัวครับ อีกตัวผมฟังไม่แน่ชัดว่าอยู่ตรงไหน ได้ยินว่าตัวเล็กๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปอู่ ค่อยถามอีกที
|
|
|
|
IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2014 เวลา 14:28:13 » |
|
วันนี้ผมไปรับรถมาแล้วครับ ... เครื่องยนต์ไม่มีปัญหาอะไร ช่างบอกโชคดีมากรั่วตัวที่อยู่ด้านบนใกล้เบ้าหัวเทียน ถ้ารั่วตัวที่อยู่ใต้วาล์น้ำดูจากตำแหน่งแล้วน่ากกลัวมากครับ ส่วนปั๊มน้ำก็ต้องเปลี่ยนด้วยครับด้านล่างแตกมีอาการรั่วซึมหมดแล้ว
|
|
|
|
IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2014 เวลา 14:38:26 » |
|
มาดูสภาพตาน้ำกันครับ... ตาน้ำที่ช่างรื้ออกมาทั้งหมดมี 5 ตัว -ตัวซ้ายคือตัวที่รั่ว อยุ่บริเวณหัวเทียน ตัวที่สองถัดมา อยู่ใกล้กับตัวแรกก็ผุหมดแล้วครับ ตัวที่สามช่างบอกว่าอยู่ใกล้กับสองตัวแรก แต่อยู่สูงลอยขึ้นมานิดนึง ไม่มีสนิม หรือผุเลยแม้แต่น้อย ... ตัวใหญ่คือตัวที่อยู่ด้านเฟืองราวลิ้น ..ส่วนตัวอันตรายคือตัวล่างครับอยู่ใต้เสื้อวาล์วน้ำ ผุเกือบทะลุแล้วครับ แต่ผุด้านใต้ของภาพ -ภาพที่สองคือตัวที่รั่วครับ รูรั่วเล็กมากประมาณเข็มสอยผ้า -ภาพที่สาม คือตัวอันตรายครับ อยู่ใต้เสื้อวาล์วน้ำ ผุเกือบทะลุหมดแล้ว และขอบๆผุแตกครับ ...
|
|
|
|
IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2014 เวลา 14:46:08 » |
|
ผมต้องขอบคุณ ข้อมูลและคำแนะนำของ คุณ จิรโรจน์ และ คุณ NOK405 มากครับ มีประโยชน์มากจริงๆ และต้องขอบคุณช่างที่ดูแลรถผมด้วยครับ อู่บ้านนอกเล็กๆ-ช่างตัวเล็กอายุก็ยังน้อย (แค่ 30 ต้นๆ ) แต่ดูแลรถผมและบริการด้วยดีมาตลอดสามปีกว่าที่รู้จักกัน
|
|
|
|
jatupum
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2014 เวลา 17:44:22 » |
|
ช่วยวัดขนาดของตัวใหญ่หน่อยได้ไหมครับว่ากี่ มม. ขอบคุณครับ
|
|
|
|
IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2014 เวลา 18:16:59 » |
|
ช่วยวัดขนาดของตัวใหญ่หน่อยได้ไหมครับว่ากี่ มม. ขอบคุณครับ
ได้ครับ แต่ขอเป็นวันพรุ่งนี้นะครับ ผมเอาเก็บไว้ที่บ้านอีกหลัง
|
|
|
|
IDD406
สิงห์ประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 96
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2014 เวลา 09:30:53 » |
|
ช่วยวัดขนาดของตัวใหญ่หน่อยได้ไหมครับว่ากี่ มม. ขอบคุณครับ
ผมวัดได้ 27 มิล ครับ...
|
|
|
|
jatupum
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2014 เวลา 10:38:22 » |
|
ขอบคุณครับ
|
|
|
|
|