วันนี้ขับเจ้า 306 ตัวเก่งที่กำลังค่อนข้างมั่นใจว่าอาการไข้หายแล้ว แต่มีเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิด มาเกิดขึ้น เพราะขับอยู่ดี ๆ ปรากฏว่าอุณภูมิสูงกว่า 90 รีบหาทางจอดรถทันที เปิดฝากระโปรง เปิดดูน้ำในหม้อน้ำทันที (ค่อย ๆ เปิด) ตายละ ไม่มีน้ำเลย พอดีมีน้ำในรถจึงเอามาเติม ปรากฏว่าน้ำไหลลงไปที่ถนนโจ้ก ๆ เลย ก้มมองตาม อุแม่เจ้า ท่อน้ำล่างห้อยต่องแต่ งประมาณว่าหลุด
เข้าใจทันที ว่าโดน ช่างเถอะ เล่นงานแล้ว ดีนะไม่ใช่ตอนขับบนเขา ลงทุนเอาแผ่นรองพื้นมาวาง นอนราบลงเพื่อเอาท่อสวมเข้าที่ และขันล๊อค
สายรัดให้แน่นกะมือ แล้วหาน้ำมาเติม จากร้านค้าใจดีบริจาคให้มา 6 ขวดโค๊ก 1.5 ลิตร
การเติม พอเติมเต็มตอนแรก ก็ ติดเครื่องเดินเบา เปิดฝาหม้อน้ำ และเปิดจุกน้ำ ด้านขวามือ เปิด จุกไล่น้ำ ตัวที่อยู่ตรงวาล์วน้ำออก แล้วค่อย ๆรินน้ำลงให้น้ำพุ่งออกจุก หลังวาล์ว เป็นสาย ไม่ให้ขาดตอนหรือมีฟองอากาศ ทำอย่างนั้นจนหมดน้ำอีก 3 ขวดโค๊กใหญ่ จึงปิดจุก และฝาหม้อน้ำ เปิดแอร์ เพื่อให้พัดลมทำงาน และขับไปตามปกติ
ได้ระยะทางประมาณ 5 กม. สังเกตุดูเข็มความร้อนเกิน 80 อีกแล้ว รอดูไปจนถึง 90 พอดีถึงบ้านเพื่อเลยเข้าจอด เปิดดูหม้อน้ำ เห็นน้ำค่อนข้างร้อน แต่ยังไม่เดือด เลย ขอสายน้ำ (น้ำค่อนข้างแรง) มาสวมเข้าในหม้อน้ำ ให้นำไปไล่ น้ำร้อนออกจนเย็น แล้วจัดการไล่น้ำอีกที วิธีเดิม ใช้เวลา ติดเครื่องเดินเบาไล่น้ำ 15 นาที จนน้ำที่พุ่งออกจากท่อเล็ก ๆ ตรงวาล์วน้ำ พุ่งเป็นสายขั้นสูงประมาณ 3 นิ้ว เพราะน้ำค่อนข้างแรง (คราวก่อนที่รินน้ำจากขวด น้ำจะออกสูงพอพ้นรู) แน่ใจว่าไม่มีฟองอากาศแน่ จึงปิดทุกอย่าง แล้วขับทดสอบอีกที
คราวนี้ไปไกลประมาณ 10 กม. ปรากฏว่า ไม่มีอาการอีก คือ อุณหภูมิ 80 นิด ๆ (ปรกติ)
เรื่องนี้ ผมเข้าใจว่า ครั้งแรก ผมไล่น้ำไม่จบ อาจมีฟองอากาศอยู่ จึงทำให้เครื่องร้อนขึ้นมาอีก ผมเข้าใจถูกไหมครับ หรือเป็นเพราะสาเหตุใด
และอยากจะถามท่านเซียนทั้งหลายว่า การติมน้ำ และไล่น้ำที่ถูกต้อง ควรทำอย่างไร และในกรณีที่ ไม่มีสายน้ำค่อนข้างแรง คือรินจากขวด จะทำอย่างไรให้ไม่เกิดปัญหานั้นอีก ช่วยตอบเป็นวิทยาทานหน่อยครับ ขอบพระคุณล่วงหน้า ครับ