ขั้นตอนปฏิบัติในกรณีที่รถถูกน้ำท่วม
กรณีน้ำท่วมทั้งคันและรถจอดอยู่กับที่
1. ให้ถอดขั้วแบตเตอร์รี่ทันที
2. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง+น้ำมันเกียร์+น้ำมันเบรค+น้ำมันเพาเวอร์ทันที
3. ทำความสะอาดภายในห้องเครื่องทั้งหมด
4. ถอดกรองอากาศออกมาตรวจสอบว่ามีน้ำอยู่หรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าอาจมีน้ำเข้าไปยังชุดท่อร่วมไอดีได้ไม่ควรที่จะทำการสตาร์ทเครื่องยนต์เพราะอาจมีน้ำเข้าไปในห้องเผาไหม้และจะทำให้ก้านสูบคดได้
5. ให้ถอดหัวเทียน (เครื่องเบนซิน) หรือหัวฉีด (เครื่องดีเซล) ออกมาทุกสูบเพื่อทำการสตาร์ทไล่น้ำออกจากห้องเผาไหม้
6. ถอดล้างทำความสะอาดกล่องฟิวส์ , กล่องควบคุมเครื่อง (ECU) , กล่อง AIR BAG , กล่องเกียร์ (ถ้ามี) และให้ถอดปลั๊กไฟออกมาฉีดน้ำยาไล่ความชื้น ตามขั้วปลั๊กทั้งหมด
7. ทำความสะอาดภายในรถ , ทำความสะอาดเบาะแล้วตากในร่ม (ห้ามตากแดด)
8. ถอดทำความสะอาดตู้แอร์+คอยล์เย็นแอร์ และถอดทำความสะอาดแผงนวมหน้าปัด+มาตรวัดต่างๆ ในเรือนไมล์
9. ทำความสะอาดและตรวจสอบไดชาร์จ , มอเตอร์สตาร์ท
10. ถอดทำความสะอาดและตรวจสอบชุดลูกรอกสายพานไทม์มิ่งต่างๆ
11. ถอดทำความสะอาดผ้าหลังคา
12. ถอดทำความสะอาดและตรวจสอบระบบเบรคทั้ง 4 ล้อ
ในกรณีเกียร์ออโต้
ตรวจสอบน้ำมันเกียร์ว่ามีน้ำปะปนในน้ำมันเกียร์หรือไม่ น้ำมันเกียร์ที่มีน้ำปนอยู่จะมีลักษณะคล้ายโยเกิร์ตสตอเบอร์รี่ ถ้าพบให้ทางอู่ดำเนินการถอดเกียร์ออกจากเครื่องและให้นำทอร์คคอนเวเตอร์เอามาคว่ำแล้วล้างโดยการใส่น้ำมันเบนซินเข้าไปในทอร์คแล้วหมุนทอร์ค ไปตามเข็มนาฬิกา จนน้ำมันเบนซิน เต็มทอร์คแล้วคว่ำทำไปประมาณ 2-3 ครั้ง ส่วนตัวเกียร์ให้ทำการผ่าเกียร์แล้วล้างทำความสะอาดให้หมดและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์และน้ำมันเฟืองท้าย (ถ้าในกรณีรถมีเฟืองท้าย)
ในกรณีเกียร์ธรรมดา
ถอดหัวหมูออกแล้วทำความสะอาดชุดคลัทช์ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์และน้ำมันเฟืองท้าย (ถ้าในกรณีรถมีเฟืองท้าย)