ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2024 เวลา 07:58:56

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  หมวดหมู่ทั่วไป [ General topics ]
| |-+  D.I.Y.
| | |-+  LED ใช้ในรถยนต์
0 สมาชิก และ 41 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: LED ใช้ในรถยนต์  (อ่าน 19288 ครั้ง)
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« เมื่อ: วันศุกร์ที่ 09 กันยายน 2011 เวลา 18:31:15 »


SRI : ไฟเบรกดวงที่3ขาด เปิดดูพบโครงของมันเสียรูป เพราะความร้อน จึงเปลี่ยนเป็นใช้LED โดยใช้ LED 5 ดวง ทั้งหมดทำงานที่2.4โวลท์ มุมกระจาย 30องศา
   2ดวงแรกมีความสว่าง 8,000 และอีก3ดวง สว่าง 2,700 หน่วย ทั้ง5ดวงต่อขนานกัน และใช้ ความต้านทาน 84โอห์ม 3วัตต์ เป็นตัวลดโวลท์ วัดที่ขั้ว LED ได้2โวลท์ ทดลองครึ่งชม. ร้อนมากครับ (ตอนแรกจะใช้แค่ไม่เกิน1วัตต์เท่านั้น)
** ขอความรู้ครับว่าทำไมมันร้อน(คิดว่าเกินเหตุ)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
G&G
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 247



« ตอบ #1 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 09 กันยายน 2011 เวลา 19:13:28 »


84 Ohm มันก็ร้อนน่ะซิครับ ปกติต้องใช้อย่างน้อย 840 Ohm ต่อ 1 หลอด ถ้าจะให้ LED ทนหน่อยก็ใช้ 1K Ohm ต่อ 1 หลอดน่ะครับ ใช้แค่ 84 Ohm หลอดมันก็รับแรงดันไฟเกินสักพักก็ขาดแน่นอน
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ใช้รถก็ต้องเข้าใจรถ เรียนรู้ ดูเป็น อีกไม่นานก็จะซ่อมเป็นในอาการเล็กๆน้อยๆ พอนานเข้าหนักแค่ไหนก็แก้ปัญหาได้ ถึงจะไม่หมดแต่ก็เอาตัวรอดได้ในยามวิกฤตนะจะบอกให้
jod_ryhp
จ๊อด ครับ 0813193708
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,653



« ตอบ #2 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 09 กันยายน 2011 เวลา 19:36:28 »


ส่วนใหญ่ผมจะใช้ 1 K โอห์ม  1/4 W. ต่อ 1 หลอด

ไม่ร้อนและสว่างปรกติดีครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

คนเมืองน่าน มา หยะ ก๋าน หยะ งาน อยู่ตี่ ระยอง ฮิ
rd
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 310



« ตอบ #3 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 09 กันยายน 2011 เวลา 22:03:23 »


ใช้ชุดสำเร็จแบบนี้น่าจะสวยกว่าครับ

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #4 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 09 กันยายน 2011 เวลา 22:04:07 »


ผมงงน่ะครับ
1.ผมวัด ความต้านทาน (คตท.) ของ LED โดยใช้ Rx1 (มิเตอร์ Sanwa YX-360TR) LED ก็สว่าง(ดี)ครับ สว่างกว่าตอนเอาไปลองกับแบตรถ(ตามที่โพสท์อีก) ทดลองทั้งดวงเดียว และต่อขนานกัน5ดวง ใช้มือจับจุดต่อของสายกับวงจรก็ไม่ร้อนครับ
2.ต่อขนาน5ดวง ใช้ R=1K & 680R ไม่สว่างครับ (ไม่ได้ใช้ 1LED/1R เพราะปรินท์ เล็ก) .. แต่ไม่ได้สังเกตุความร้อน
3.จึงทดลองใช้ 84R ได้แสงสว่างไกล้เคียง ข้อ1 และโวลท์คร่อม LED คือ 2V (เสปค 2.4V)
คิดแบบถึกๆ นะครับ
 * เท่าที่จำไว้ LED 1หลอดกินกระแส 20-25 mA, 5หลอด=125mA ดรอปไฟ 10โวลท์ ขนาด3วัตต์ มันร้อนได้ไง
 * คิดกลับ ใช้ 1/4 W ต่อหลอด(ใช้สบายไม่ร้อน)  ถ้ารวม5หลอด ก็แค่ 1.25W (ไม่คำนึงค่า คตท. เพราะได้โวลท์ทำงานต่ำกวาเสปค) ...แต่3W กลับร้อน

*** ผมพลาดตรงไหนครับ *
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
G&G
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 247



« ตอบ #5 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2011 เวลา 01:05:47 »


ผมงงน่ะครับ
1.ผมวัด ความต้านทาน (คตท.) ของ LED โดยใช้ Rx1 (มิเตอร์ Sanwa YX-360TR) LED ก็สว่าง(ดี)ครับ สว่างกว่าตอนเอาไปลองกับแบตรถ(ตามที่โพสท์อีก) ทดลองทั้งดวงเดียว และต่อขนานกัน5ดวง ใช้มือจับจุดต่อของสายกับวงจรก็ไม่ร้อนครับ
2.ต่อขนาน5ดวง ใช้ R=1K & 680R ไม่สว่างครับ (ไม่ได้ใช้ 1LED/1R เพราะปรินท์ เล็ก) .. แต่ไม่ได้สังเกตุความร้อน
3.จึงทดลองใช้ 84R ได้แสงสว่างไกล้เคียง ข้อ1 และโวลท์คร่อม LED คือ 2V (เสปค 2.4V)
คิดแบบถึกๆ นะครับ
 * เท่าที่จำไว้ LED 1หลอดกินกระแส 20-25 mA, 5หลอด=125mA ดรอปไฟ 10โวลท์ ขนาด3วัตต์ มันร้อนได้ไง
 * คิดกลับ ใช้ 1/4 W ต่อหลอด(ใช้สบายไม่ร้อน)  ถ้ารวม5หลอด ก็แค่ 1.25W (ไม่คำนึงค่า คตท. เพราะได้โวลท์ทำงานต่ำกวาเสปค) ...แต่3W กลับร้อน

*** ผมพลาดตรงไหนครับ *

ลองเอา E=IR ไปคิดดูละกันครับ ง่ายๆเลย
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ใช้รถก็ต้องเข้าใจรถ เรียนรู้ ดูเป็น อีกไม่นานก็จะซ่อมเป็นในอาการเล็กๆน้อยๆ พอนานเข้าหนักแค่ไหนก็แก้ปัญหาได้ ถึงจะไม่หมดแต่ก็เอาตัวรอดได้ในยามวิกฤตนะจะบอกให้
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #6 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2011 เวลา 07:16:00 »


* ไม่แน่ใจนะครับ ว่าแทนค่าถูกต้องไหม  E= Voltage. ที่ดรอปลงจาก12 เหลือ 2V =10V
1.E(10V) = I(125/1000)R   ....R = E/I  (10/0.125)  =80 Ohm
2.Power =EI   =10x0.125   = 1.25 Watt
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #7 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2011 เวลา 07:21:00 »


ใช้ชุดสำเร็จแบบนี้น่าจะสวยกว่าครับ


ครับสวยกว่า (อาจจะง่าย และแพงกว่า) ...ผมคิดว่าจะเปลี่ยนไฟเป็นLED ทั้งหมด ยกเว้นไฟส่องสว่างหน้า เลยเริ่มหัดทำจาก (ที่คิดว่า)ง่ายๆก่อน แต่ก็เกิดปัญหาเลย
**ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
306cc
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,204



« ตอบ #8 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2011 เวลา 10:34:03 »


ที่ว่าร้อน นี้ตัว R ใช่ไหมครับ?

ลองเอามิเตอร์วัดกระแสที่วิ่งผ่าน R ดูซิครับ ว่าจริงๆ แล้วที่ mA
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jod_ryhp
จ๊อด ครับ 0813193708
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,653



« ตอบ #9 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2011 เวลา 11:04:10 »


ที่ว่าร้อน นี้ตัว R ใช่ไหมครับ?

ลองเอามิเตอร์วัดกระแสที่วิ่งผ่าน R ดูซิครับ ว่าจริงๆ แล้วที่ mA



เออใช่
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

คนเมืองน่าน มา หยะ ก๋าน หยะ งาน อยู่ตี่ ระยอง ฮิ
golfdsd
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37



« ตอบ #10 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2011 เวลา 13:37:39 »



อธิบายด้วยภาพแล้วกันครับ

การต่อ R ขับ LED สามารถทำให้ หลักๆ 2 วิธีครับ (มีวิธีอื่นๆอีกแล้วไม่ขอกล่าวถึงแล้วกันครับ)

แบบ ขนาน
ข้อดี    -เมื่อ LED ตัวนึงเสีย ตัวที่เหลือ ก็ยังคงติดอยู่
ข้อเสีย -ต้องใช้ R เยอะ คือเท่ากับจำนวน LED




แบบอนุกรม
ข้อดี    - ต่อวงจรง่าย ใช้ R น้อย 
ข้อเสีย - เมื่อ LED ตัวใดตัวนึงเสีย ที่เหลือก็จะดับหมด






อีกแบบนึง
แบบนี้ข้อดีคือ ถ้า LED ตัวใดตัวนึงเสีย ที่เหลือก็จะไม่ดับ เหมือนกับวงจรขนาน
แต่ข้อเสียก็คือ จะต้องใช้ R วัตต์สูงขึ้น




ส่วนเรื่องความร้อนของ R ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องปกติครับ มันร้อน แต่มันก็สามารถทนได้ครับ แต่ส่วนใหญ่ในการออกแบบก็จะเผื่อค่าวัตต์เอาไว้เยอะพอสมควรครับ เพื่อไม่ต้องการให้เกิดความร้อนที่ R
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jod_ryhp
จ๊อด ครับ 0813193708
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,653



« ตอบ #11 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2011 เวลา 13:54:47 »



อธิบายด้วยภาพแล้วกันครับ

การต่อ R ขับ LED สามารถทำให้ หลักๆ 2 วิธีครับ (มีวิธีอื่นๆอีกแล้วไม่ขอกล่าวถึงแล้วกันครับ)

แบบ ขนาน
ข้อดี    -เมื่อ LED ตัวนึงเสีย ตัวที่เหลือ ก็ยังคงติดอยู่
ข้อเสีย -ต้องใช้ R เยอะ คือเท่ากับจำนวน LED




แบบอนุกรม
ข้อดี    - ต่อวงจรง่าย ใช้ R น้อย 
ข้อเสีย - เมื่อ LED ตัวใดตัวนึงเสีย ที่เหลือก็จะดับหมด






อีกแบบนึง
แบบนี้ข้อดีคือ ถ้า LED ตัวใดตัวนึงเสีย ที่เหลือก็จะไม่ดับ เหมือนกับวงจรขนาน
แต่ข้อเสียก็คือ จะต้องใช้ R วัตต์สูงขึ้น




ส่วนเรื่องความร้อนของ R ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องปกติครับ มันร้อน แต่มันก็สามารถทนได้ครับ แต่ส่วนใหญ่ในการออกแบบก็จะเผื่อค่าวัตต์เอาไว้เยอะพอสมควรครับ เพื่อไม่ต้องการให้เกิดความร้อนที่ R





เยี่ยมเลยครับ


เดี๋ยวขออนุยาติก๊อบปี้ใว้หมดเลยนะครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

คนเมืองน่าน มา หยะ ก๋าน หยะ งาน อยู่ตี่ ระยอง ฮิ
golfdsd
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37



« ตอบ #12 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2011 เวลา 13:56:57 »


ผมงงน่ะครับ
1.ผมวัด ความต้านทาน (คตท.) ของ LED โดยใช้ Rx1 (มิเตอร์ Sanwa YX-360TR) LED ก็สว่าง(ดี)ครับ สว่างกว่าตอนเอาไปลองกับแบตรถ(ตามที่โพสท์อีก) ทดลองทั้งดวงเดียว และต่อขนานกัน5ดวง ใช้มือจับจุดต่อของสายกับวงจรก็ไม่ร้อนครับ
2.ต่อขนาน5ดวง ใช้ R=1K & 680R ไม่สว่างครับ (ไม่ได้ใช้ 1LED/1R เพราะปรินท์ เล็ก) .. แต่ไม่ได้สังเกตุความร้อน
3.จึงทดลองใช้ 84R ได้แสงสว่างไกล้เคียง ข้อ1 และโวลท์คร่อม LED คือ 2V (เสปค 2.4V)
คิดแบบถึกๆ นะครับ
 * เท่าที่จำไว้ LED 1หลอดกินกระแส 20-25 mA, 5หลอด=125mA ดรอปไฟ 10โวลท์ ขนาด3วัตต์ มันร้อนได้ไง
 * คิดกลับ ใช้ 1/4 W ต่อหลอด(ใช้สบายไม่ร้อน)  ถ้ารวม5หลอด ก็แค่ 1.25W (ไม่คำนึงค่า คตท. เพราะได้โวลท์ทำงานต่ำกวาเสปค) ...แต่3W กลับร้อน

*** ผมพลาดตรงไหนครับ *

R1/4W เราต่อแบบขนาน พูดง่ายๆคือ มันช่วยกันแบ่งภาระ ความร้อนที่เกิดขึ้นกับตัวมันก็จะร้อนน้อยๆ หรืออาจจะไม่ร้อนเลย  และเมื่อเทียบกับ ต่อ R 3 w เพียงตัวเดียว  R ตัวนี้มันจะเป็นตัวรับภาระทั้งหมด  ในการต้านทานกระแสจำนวนมาก จึงก่อให้เกิดความร้อนสูญเสียที่ตัวมันและสูงขึ้นตามไปด้วยครับ
 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
rd
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 310



« ตอบ #13 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2011 เวลา 15:31:06 »


3w ที่ร้อน อาจจะเป็นเพราะเวลาต่อใช้งานจริงๆแล้วกระแสไม่ได้ไหลแค่ 125mA ที่คิดคำนวณว่ากระแสผ่าน LED = 25 mA นั้นเป็นการคิดที่ค่าตาม data sheet  แต่ในความเป็นจริงเมื่อต่อใช้งานแรงดันไม่ได้เป็นไปตาม data sheet  และ LED Super bright รับกระแสได้ถึง 40-50mA ก็มี ซึ่งถ้าเป็นตามนี้จะเกิดความร้อนที่ R84 มากกว่า 5W ค่ากระแสที่ไหลผ่าน LED ไม่ได้เป็นไปตามกฎของโอห์ม ถ้าแรงดันตกคร่อม LED เพิ่มเพียงเล็กน้อยกระแสไหลผ่านจะเพิ่มสูง และเมื่อ LED ร้อนก็จะยิ่งดึงกระแสสูง  การจ่ายไฟให้ LED ที่ปลอดภัยจะใช้การจ่ายแบบลิมิตกระแส การเอา LED มาต่อขนานกันแล้วใช้ R ตัวเดียว ในการใช้งานจริงมักจะเจอว่า LED แต่ล่ะตัวมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน และดึงกระแสไม่เท่ากัน ตัวที่ดึงกระแสสูงก็จะยิ่งดึงกระแสสูงเรื่อยๆ เพราะไม่มี R ลิมิตกระแสเฉพาะตัว จะเกิดอาการ Thermal runaway และจะขาดในที่สุด แล้วก็จะดึง LED ตัวอื่นๆทยอยขาดตาม  กรณีการต่อแบบอนุกรมโดยใช้ R ตัวเดียวก็จะเกิดปัญหา LED แต่ล่ะตัวสว่างไม่เท่ากัน ทั้งนี้เนื่องจากคุณสมบัติ forward voltage ของ LED แต่ล่ะตัวไม่เท่ากัน  ปกติที่เห็นในวงจรสำเร็จแบบตามรูปที่ผมโพสเขาจะอนุกรมชุดล่ะ 3 หลอด   

ถ้าถามว่าผิดพลาดตรงไหน ก็คิดว่าพลาดตรงที่คิดว่ากระแสไหลผ่าน LED จะแค่ 25mA แต่ความเป็นจริงมันเกิน  กระแสที่เกินมันยิ่งเพิ่มความสูญเสียเป็นทวีคูณ  เช่น 125mA เกิดความสูญเสียที่ R84=1.3W   แต่ถ้ากระแสเพิ่มเป็น 250mA ความสูญเสียที่ R84 จะกลายเป็น 5.25W ซึ่งแน่นอนว่า R ขนาด 3W ต้องเอาไม่อยู่   แม้กระแสจะแค่ 200mA ความร้อนที่ R84 ก็เท่ากับ 3.36W ซึ่งเกินพิกัดเข้าไปแล้ว 

ในการทดลองของคุณ jirat ยังเป็นการทดลองกับแบต โดยที่รถยังไม่ได้ติดเครื่อง ถ้าเป็นการต่อใช้งานจริงแรงดันตอนเร่งเครื่อง เบาเครื่อง จะทำให้เกิดปัญหายิ่งกว่านี้อีกครับ 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #14 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2011 เวลา 00:01:08 »


**คิดว่าคงเป็นเหมือนที่คุณ rd   ว่าแหละครับ R ร้อนเป็นเพราะกระแสเกิน  ไว้ค่อยทดลองอีกที ...ขอบคุณครับ
**เมื่อเช้าไปซื้อ R 820 Ohm +1K  1/4W 1% มา (ที่ร้านมีแต่ขนาดนี้) แต่ยังไม่ได้ใช้ครับ  เพราะ.....
**กลับจากตลาดก็ทดลองต่อแบบอนุกรมโดยใช้ R 1K +2LED  ต่อกับแบต วัดคร่อม LED ได้ 4โวลท์กว่า LED ไม่มีอาการ สีที่ออกมายังปรกติ (เคยต่อไฟเกินกับสีขาว มันเปลี่ยนสีเป็นส้ม-แดง เลยแต่ไม่ขาด) R ไม่ร้อน เอาใหม่ ต่อเพิ่มอีก2ดวง (เป็น 1R +4 LED)  เอาไปลอง วัดคร่อมLED (ทั้งชุด) ได้ 10โวลท์(ประมาณ)  เลยวัดโวลท์ ที่ตัวแรก ได้2Vกว่า, ตัวที่2ได้ 4Vกว่า ?..ตัวที่4ได้ 10V ..เหมือนกับต่อ R อนุกรมกัน จะดรอปไฟเป็นช่วงๆ ( เสปค LED ทำงานที่ 2.1-2.3 V  วัดคร่อม 4ตัววัดได้10 V  (4xโวลท์ทำงาน  =4x2.3 =9.2V (ประมาณ) )   ต่อแบบรูปที่2 ของคุณ rd
**เอามาต่อเพิ่มอีกเป็น6ตัว +R 84 Ohm ทำงานได้ครับ ทดลองตัด R ออกก็ยังทำงานได้ เอามาพ่วง LED อีกตัว (เป็น7LED)ไม่ใช้ R เอาไปทดลอง 3-4 ชม. ยังเปล่งแสงปรกติ ....
ตามที่คุณ rd โพสท์ ไฟแบต =13.8V เผื่อไว้ตอนชาร์จหรือครับ ..ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อ LED ควรจะคิดว่าแบตจ่ายไฟ 13.8V ?

***การกินกระแสของหลอดสีแดง (ตามที่โพสท์) มากกว่าหลอดสีขาวเยอะ(มั้ง?)
****กับมิเตอร์ ซันวา (เมื่อใช้ Rx1)
**LED สีแดง จะเปล่งแสง เมื่อต่อ LED ตัวเดียว  แต่เมื่อเพิ่มอีกตัว ไม่ว่าอนุกรม หรือขนาน จะไม่เปล่งแสงเลย
**LED สีขาว ผมต่อขนาน 4ตัว วัดด้วยมิเตอร์  ยังเปล่งแสงได้ครบทั้ง4 ดวง ...ยังไม่ได้ลองแบบอนุกรม
DATA  LEDสีขาว : ความสว่าง 13,000 หน่วย,  โวลท์ทำงาน 3.3 -3.8V,  มุมกระจาย 15 องศา
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #15 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2011 เวลา 00:36:57 »


ต้องขอโทษคุณgolfdsd ซึ่งเป็นคนโพสท์รูปภาพด้วยครับ ดูรูปแล้วมาอ่านข้อมูลของคุณ rd เลยเหมารวมว่าคุณ rd โพสท์ .....ขอโทษและขอบคุณทั้ง2ท่าน
*** ตอนนี้โคมไฟ บนโต๊ะ แสงเริ่มมัว ถ้าจะเอา LED มาใช้กับไฟบ้าน 230V โดยใช้การต่ออนุกรม หลังการเร็คติไฟ แล้ว
1.ถ้าใช้ LED ขาว(ข้างบน) จำนวนสัก 90 ดวง จะดรอปไฟได้ =90x3  =270V นั่นคือไม่ต้องใช้ R มา drop เลย
2.ถ้าใช้ LED 40 ดวง จะดรอปไฟได้ =40x3 =120V ที่เหลืออีกประมาณ 110 V จะต้องใช้ R มาดรอปแทน
ค่า R : =(230-120) /0.02        =5,500     =5.5 K-ohm
ค่า Watts =(230-120) x 0.02  =2.2W (Min)
** ? แนวคิดนี้ ใช้ได้ไหม 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
rd
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 310



« ตอบ #16 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2011 เวลา 08:24:47 »


อยากได้ 220V ก็หาซื้อเอาดีกว่าครับ ที่ www.dealextreme.com มีเยอะมาก
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #17 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2011 เวลา 18:53:43 »


อยากได้ 220V ก็หาซื้อเอาดีกว่าครับ ที่ www.dealextreme.com มีเยอะมาก
ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
golfdsd
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37



« ตอบ #18 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2011 เวลา 22:37:15 »


แนวคิดใช้ได้ครับ แต่!!!
ต้องระวังจุดนี้ด้วยครับ  Vac=220V  เมื่อผ่าน เรกติไฟเออร์แล้วจะได้ 220*root2 =ประมาณ 310 Vdc ครับ

สำหรับการขับ LED ด้วยไฟบ้าน AC220V ทำได้หลายวิธีคัรบ
1.ต่อ LED อนุกรมกัน แล้ว limit กระแสด้วย R  - วิธีนี้ง่ายครับ อุปกรณ์ไม่เยอะ แต่ต้องระวังไฟดูด้วยครับ
2.ต่อผ่านหม้อแปลง Step Down -วิธีนี้ปลอดภัยครับ เพราะว่าตัวหม้อแปลงจะแยกกราวด์ออกจากกัน และแปลงไฟให้แรงดันต่ำลงได้ด้วย ไฟไม่ดูดครับ
3.ใช้ Switch mode LED Drive วิธีนี้ใช้วงจร Switching Power Supply เพื่อแปลงเป็น DC และใช้ LED Driver ขับกระแสต่อเนื้องที่คงที่ ให้ LED
ผู้ผลิตโคมไฟ LED ส่วนใหญ๋ใช้วิธีนี้ครับ ข้อดีคือให้ประสิทธิภาพสูงมีวงจรป้องกันต่างๆ รวมไปถึงควบคุมกระแสของ LED ให้คงที่ด้วย แต่ข้อเสียก็คือ อุปกรณ์เยอะ ราคาแพง แต่คิดว่าไม่มีผลกระทบสำหรับ การผลิตจำนวนมากๆในภาคอุตสาหกรรม

เสริมนะครับ และอยากให้ทดลองเล่นดู
LED ในท้องตลาดมีหลายแบบครับ แต่มีอีกแบบที่เหมาะสำหรับ ทำไฟส่องสว่าง นั่นก็คือ High Power LED ครับ
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยี LED พัฒนาสูงขึ้น ทำให้หลอด LED ชนิดนี้มีควาเข้มแสงสูง และ กินพลังงานน้อยลงจากเดิมมาก จนสามารถทดแทน หลอดไฟส่องสว่างทั่วไปได้
และยังสามารถใช้ร่วมกับเลนส์ เพื่่อ บังคับการกระจายแสงให้เป็นไปตามสภาพการใช้งานให้เหมาะสมได้ เช่น ไฟฉาย ต้องการแสงที่พุ่งเป็นลำ ก็ใช้เลนส์มุมแคบ
ไฟถนน ต้องการแสงที่เป็นแนวยาวตามแนวถนน ก็ใช้เลนส์ Batwing(ปีกค้างคาว พอนึกภาพออกนะครับ)

และสำหรับโคมไฟ ต้องการแสงที่กระจายในมุมกว้างเพื่อให้แสงนั้นครอบคุมพื้นที่ทำงาน และไม่เป็น Spot จ้าจนเกินไป ง่ายเลยครับไม่ต้องใช้เลนส์ เพราะว่า LED ชนิดนี้ มีมุมที่กว้างอยู่แล้ว (120-160 องศา)
การต่อใช้งานต้องมีการระบายความร้อนให้มันด้วยครับ LED ชนิดนี้มีข้อเสียตรงที่เกิดความร้อนที่ตัวมัน แต่ก็ไม่น่าเป็นปัญหาเท่าไรครับ เพราะว่าร้อนไม่เท่าหลอดไส้แน่นอน
หาซื้อมาทดลองดูครับเลือกแบบที่ลง PCBแบบอลูมมิเนียมมาแล้ว  ยึดกับ แผ่นอลูมิเนียมเพื่อระบายความร้อน แล้วโยงสายเอา ส่วนการขับ LED ก็ลองศึกษา คุณสมบัติกระแสและแรงดันจาก Datasheet และวงจรขับจาก อากู๋ ดูครับ  ส่วน LED ซื้อได้ที่บ้านหม้อ ลองเช็คราคากับร้าน ES ดูได้ครับ www.es.co.th   
-สนับสนุนการ DIY ครับนอกจากจะเพลิดเพลินเป็นงานอดิเรกแล้ว ยังได้ความรู้หลายๆด้านอีกด้วย
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #19 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2011 เวลา 23:58:24 »


Fr. K.golfdsd ?สนับสนุนการ DIY ครับนอกจากจะเพลิดเพลินเป็นงานอดิเรกแล้ว ยังได้ความรู้หลายๆด้านอีกด้วย?
*ครับ ถ้าผมเข้าใจมันมากพอแล้ว มีโครงการอีกหลายโครงการทั้งกับรถ และบ้าน ซึ่งชุดสำเร็จอาจสนองได้ไม่ครบ
1. High Power LED คือรูปที่คุณโพสท์ มาใช่ไหมครับ ไม่เคยใช้เลย ...ถ้าใช้กับโคมอ่านหนังสือใช้แบบนี้ใช่ไหมครับ ..ผมกะทำแบบนี้ครับ ถ้าอ่าน-เขียนหนังสือจะเปิดเต็มที่(LED ทุกดวงติดหมด) ...เวลาดูโทรทัศน์ จะเปิดครึ่งเดียว(ของจำนวนLED) สาดเข้าข้างฝา เขาว่าถ้าปิดไฟดูสายตาจะเสีย ..และ1ใน4ของจำนวน LED เอาไว้ตามไฟไว้ที่ห้องกลาง เวลามีญาติมา ...ว่าไปนั่น
2. ?ต้องระวังจุดนี้ด้วยครับ  Vac=220V  เมื่อผ่าน เรกติไฟเออร์แล้วจะได้ 220*root2 =ประมาณ 310 Vdc ครับ ?  ....ผ่านไดโอด อย่างเดียวไม่มีซีช่วย ก็ได้ค่านี้หรือครับ
3. ?1.ต่อ LED อนุกรมกัน แล้ว limit กระแสด้วย R  - วิธีนี้ง่ายครับ อุปกรณ์ไม่เยอะ แต่ต้องระวังไฟดูด้วยครับ ? วิธีการต่อ หรือคำนวณอย่างไรครับ
 *** ถ้ามีLED ใช้กระแส 20mA ทำงานที่ 3V  ?ต่ออนุกรม5ดวง ก็สามารถต่อกับแบต12V ได้เลย กระแสก็จะผ่าน 20mA ตลอด ถ้าจะใช้ R จำกัดกระแส ทำยังไงครับ ...ยกตย.อื่นก็ได้ครับ
**ที่ผมรู้จัก LED มากขึ้น จนสั่งซื้อมาทดลองทำได้ ก็จากข้อมูลจาก www.es.co.th   เพราะมีสเปคกำกับด้วย และการสั่งของง่ายดี
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jod_ryhp
จ๊อด ครับ 0813193708
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,653



« ตอบ #20 เมื่อ: วันอังคารที่ 13 กันยายน 2011 เวลา 00:08:39 »


งง.....
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

คนเมืองน่าน มา หยะ ก๋าน หยะ งาน อยู่ตี่ ระยอง ฮิ
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #21 เมื่อ: วันอังคารที่ 13 กันยายน 2011 เวลา 06:03:29 »


งง.....
ฟุ้งซ่าน...ร้อนวิชาน่ะครับ  เคยคิดทำอะไรๆ มาก่อนแล้ว แต่ประเภทของ LED ยังไม่รู้จัก ..หาคนแนะนำยาก เลยต้องพักไว้ก่อนแต่ตอนนี้ น่าจะได้แหล่งสั่งของ +ที่ปรึกษาแล้ว ไอเดียเลยเริ่มทะลัก..
**K.jod_ryhp เคยโพสท์ ใช้LED ส่องหลังโลโก ในรูปเหมือนมีการเจาะรูที่โลโกด้วย รบกวนขอภาพชัดๆ รวมถึงเทคนิคการเจาะรู(ถ้าใช่)ครับ ....ขอบคุณมาก
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jod_ryhp
จ๊อด ครับ 0813193708
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,653



« ตอบ #22 เมื่อ: วันอังคารที่ 13 กันยายน 2011 เวลา 09:50:34 »


ระยอง เน็ทล่ม
เพิ่งเล่นได้



รู ไม่ได้เจาะ

มันเป็นธรรมชาติของสิงห์ ดีแปดครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

คนเมืองน่าน มา หยะ ก๋าน หยะ งาน อยู่ตี่ ระยอง ฮิ
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #23 เมื่อ: วันอังคารที่ 13 กันยายน 2011 เวลา 18:54:25 »


ระยอง เน็ทล่ม
เพิ่งเล่นได้



รู ไม่ได้เจาะ

มันเป็นธรรมชาติของสิงห์ ดีแปดครับ
ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!