ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2024 เวลา 18:29:23

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  หมวดหมู่ทั่วไป [ General topics ]
| |-+  พูดคุยทั่วไป ได้ทุกเรื่อง
| | |-+  ถูกรุกที่ดิน ขอคำปรึกษา
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ถูกรุกที่ดิน ขอคำปรึกษา  (อ่าน 4065 ครั้ง)
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« เมื่อ: วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม 2011 เวลา 21:20:54 »


     ***ถูกรุกที่ดิน  ที่ดินของผมเป็นนส.3ก  ที่ดินข้างเคียงเป็นโฉนด(ออกโฉนดเมื่อต้นปี 49 ) ต่อมาปลายปี2550 เขาขายต่อให้กับ พญ.xxx ซึ่งมีสามีเป็นนายแพทย์(หมอ) เออรี่แล้ว  หมอมีพี่ชายเป็นข้าราชการ(ขรก.)ระดับเบอร์3 ของกระทรวงเกรดเอ(แบ่งโดยพวกนักการเมือง)
       *คู่กรณ๊เมื่อซื้อที่ได้ไม่ถึงเดือนก็ทำการรุก ปรับที่เข้ามา เมื่อเข้าไปท้วง หมอบอกที่เขาขาดอยู่ 4-50ตรว. และคนเฝ้าที่บอกเขาว่าที่ของเขานั้นเลยเข้ามาในที่ผม (ประมาณเท่าที่เขาปรับรุกเข้ามา) ผมบอกว่าไม่ใช่เรื่องของผม ของคุณมีสิทธิ์ แค่หมุดเขต  ขรก.ถามว่า ที่ว่าเขารุกนั้นหมุดเขตของผมอยู่ตรงไหน (หมุดเขตที่ที่ดินออกให้นั้นเป็นของเขา ของผมไมมี หมอพยายามปรับภูมิประเทศจนจำไม่ได้ และไม่เคยมองเห็นหมุดเขตเลย ตอนที่ผมขอออกโฉนดกว่าจะหาเจอขุดเสียยาว)
     * ผมตัดสินใจขอออกโฉนด
     * ระยะเวลากับเหตุการณ์
1. 7กพ51 ทำเรื่องขอออกโฉนด พร้อมแบ่งเป็นแปลง(โฉนด) ย่อยๆอีก2-3แปลง นัดรังวัด20/3/51
2. 20มีค.51 คู่กรณีไม่มา จนท.รังวัดโทรไป(ตามเบอร์ที่คนเฝ้าบอก) นัดอีกเดือนถัดไป แต่ก็ทำการรังวัดโดยรอบไปก่อน และแบ่งแปลงย่อยก่อนเลย รวมทั้งที่ฝั่งหมอด้วย ณ.วันนี้ จนท.บอกเมื่อรังวัดเสร็จ ปักรั้วได้เลย ส่วนหมอถ้ายังติดใจเรื่องเนื้อที่ ให้ไปฟ้องร้องเอากับคนขาย
     * ด้านลำรางสาธารณะ ผมนำชี้ห่างจากลำราง โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า20ม. (นำชี้ตามเขตที่ผมทำกิน..รถไถเล็กทำงานได้ แต่หมุดเขตฝั่งหมอ(โฉนด) ห่างลำรางไมถึง15ม.)
3. รังวัดจริงเมื่อหมอมา จนท.รังวัดยกมือไหว้ (ผมสอบถามได้ความว่า เมื่อวานหมอไปคุยกันที่ที่ดิน) คราวนี้คนรังวัดบอก บางครั้งแนวโฉนดก็เปลี่ยนได้ ผมอยากให้จบจึงยอมตัดที่ให้เกือบ2งาน (โดยหมอบอก จะปักรั้วให้, จะขุดบ่อน้ำห่างจากแนวเขต1ม.) ผู้เซ็นต์ยืนเขต ผม, หมอ, เจ้าที่ดินที่มีเขตติดต่อ และ ผญบ. เท่านั้น
   *ประมาณครึ่งเดือนต่อมา หมอเอาแบกโฮมาทำงาน ผมนึกว่าจะถมบ่อน้ำตามที่สัญญาไว้ แต่เมื่อไปดู (ดูเหมือนว่า)จะขุดรุกมาอีก ผมถามว่าทำไมไม่ขึงเขตแล้วปรับที่ตามที่สัญญาไว้ หมอบอกให้คนขับแบคโฮจัดการแล้ว ...มึน  ช่วงเวลาเดียวกันก็เอาต้นไม้ใหญ่มาลง ล้ำแนวเขตที่ตกลงกันเข้ามาอีก ...
4.  ที่ดินเรียกไปสรุปผล เมื่อ 7กค.51 ที่ดินบอกว่าหมุดเขตที่ชี้นั้น ทางคู่กรณ๊ขยับรุกเข้ามาก่อน(รังวัด)แล้ว(จำระยะไม่ได้) และดูเหมือนผมจะเลือกได้แค่2ทางคือ ยอมรับผลรังวัด หรือยกเลิก ผมปรึกษากันแล้ว..ยกเลิก
 
      *ทางน้องที่กท. ไปคุยกับทนายสรุปว่าให้ผมขอรังวัดใหม่ เพราะอยากรู้ว่าถูกรุกเป็นพท.เท่าไร เพื่อเป็นข้อมูลฟ้องร้อง ผมเห็นว่าเราต้องการรู้ข้อมูลจุดเดียว เลยไปยื่นขอรังวัดใหม่ ยื่นขอแบบ ?ตรวจสอบเนื้อที่ ?
      *ทนายบอกของเขาเป็นโฉนด ต้องยึดเนื้อที่ที่ระบุในโฉนดเป็นหลัก ถ้าวัดของเขาแล้ว ถ้าไม่พอเขามีสิทธิ์ขยับหมุดเข้ามา จนครบเนื้อที่
      *ระยะเวลากับเหตุการณ์
 1. 18มค.53  ยื่นคำขอรังวัด คำขอ 2045/10/53 รังวัด 23เมย.53
 2. 23เมย.53 มารังวัดแต่คู่กรณ๊ไม่มา
 3. 4มิย.53  รังวัดจริง  ผมนำชี้ตามแนวเดิมที่เคยนำชี้ตอนออกโฉนด และชี้เขตของผมตรงที่คาดว่าเป็นตำแหน่งหมุดเขต และตัวขรก. เป็นคนชี้ลึกเข้ามาในเขตผม 25.35ม. แล้วบอกว่า ?แค่นี้พอ?  ผู้เซ็นต์เอกสารก็เท่ากับตอนออกโฉนด
4. โทรสอบถามความคืบหน้ากับคนรังวัด+จนท.ผ.รังวัด ....ไม่ได้ความ
5. 15กค.53 ไปที่สนง.ที่ดิน ไม่พบคนรังวัด จนท.บอกเรื่องอยู่ที่คนรังวัด ฝากเมมโมไว้ และโทรไปสอบถามอีก ก็ไม่ได้ความ
6. ประมาณต้น-กลางเดือนตค.53 จดหมายสอบถามไปยังหัวหน้าผ.รังวัด
7. ประมาณปลายเดือนตค.53 ผญบ.เอาหนังสือจากอำเภอมาให้ ผญบ.ตรวจสอบว่าผมนำชี้รุกที่สาธารณะหรือไม่ (ตามคำร้องของจนท.รังวัด 12ตค.53 อำเภอรับ 19ตค.53
*ผญบ.ตรวจสอบทำหนังสือตอบกลับอำเภอ 17ธค53
8.  7มค.54 อำเภอทำหนังสือ(นม1217/74) ตอบกลับสนง.ที่ดิน  ..(ไม่มีการบุกรุก)
         *ให้น้องเขยติดต่อกับสนง.ที่ดิน
9. น้องเขยแจ้งกลับมาว่า ที่ดินบอก ได้รับหนังสือตอบกลับจากอ. และสนง. ----แหล่งน้ำ(อาจเป็นคุ้มครองแหล่งน้ำ, สนง.พัฒนาแหล่งน้ำ..หรืออะไรไม่แน่ใจลงท้ายด้วยแหล่งน้ำ) แต่ยังขาดหนังสือตอบกลับจาก อบต.
         *พึ่งจะรู้ว่าจนท.รังวัด ส่งหนังสือไป3หน่วยงาน  ....ไม่แน่ใจว่าจะส่งหน่วยงานไหนอีกหรือเปล่า
10. รับสำเนาเอกสารจาก อบต. (นาย ก.) ออกจากที่ดิน 20เมย.53 (นม0019.04/10318)  อบต.รับ 26เม.ย53 (เลขที่รับ 880) และ(นาย ก.) บอกว่าอบต. กำลังดำเนินการ จะนัดหมายมาอีกที
         * รอเป็นเดือนไม่เกิดการนัดหมาย โพสท์เข้าไปที่ เวบบอร์ดของ อบต.  และอีเมลล์ของนายก   ....ไม่มีความคืบหน้า
11. 28กค54 ไปที่อบต. เขาบอกทำนองว่า ?มันเป็นเรื่องของ อำเภอ(ผญบ.) และไม่เคยมีหนังสือให้อบต.ไปยืนเขตในกรณีแบบนี้มาก่อนเลย? และมีคนให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นการดึงเวลาเพื่อให้บางสิ่งบางอย่างมีผลทางกม.  (เขาระแวงไปถึงอาจมีการแก้ไขข้อมูลในเอกสาร ?ระวางที่ดิน ?) เขาแนะให้ผมไปที่สนง.ที่ดินถามว่าว่าเรื่องอบต. จะให้อบต.ทำอะไร เพราะการมีหนังสือไปยืนเขต ถ้าเขาไม่ไป ผลรังวัดเป็นอย่างก็ต้องยอมรับผลอันนั้น  และแนะนำให้ยื่นรังวัดขอออกโฉนดอีกครั้ง ถ้าผลเป็นอย่างไร จึงเอามาพิจารณา ดำเนินการต่อ
***ขอคำแนะนนำครับ ****


* Land-นส3-1.jpg (18.07 KB, 480x360 - ดู 222 ครั้ง.)

* Land-ออกโฉนด2-1.jpg (34.07 KB, 480x640 - ดู 216 ครั้ง.)

* Land สอบที่ดิน-1.jpg (32.05 KB, 480x505 - ดู 209 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
worathep
สิงห์มัธยม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 182


« ตอบ #1 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม 2011 เวลา 23:10:14 »


ปกติการออกโฉนดจะต้องให้ที่ข้างเคียงทุกด้าน ไปชี้จุดด้วยและสุดท้ายก็ต้องเซ็นต์เอกสารรับรองก่อนถึงจะออกโฉนดได้นี่ครับ  แล้วก่อนออกโฉนดเขาแจ้งเราหรือเปล่าครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #2 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2011 เวลา 05:51:08 »


เรื่องออกโฉนด(ของเขา) นี่ไม่แน่ใจครับ น้องชายเล่าว่าเขาเคยเซ็นต์ เพราะอีกฝ่ายให้ทนายมาทำแทน แล้วเคยไปให้เขาเซ็นต์  ผมมาอยู่ที่นี่ ก่อนที่เขาจะขายให้หมอ ผมไปเซ็นต์ยืนเขตให้2ครั้ง และครั้งแรกก็บอกออกโฉนดเหมือนกัน ครั้งที่2 คนเฝ้าที่บอกจะแบ่งเป็นแปลงเล็ก แต่ผมไม่ได้อ่านว่าเขาทำเรื่องอะไรแน่
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
chohn
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« ตอบ #3 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2011 เวลา 06:28:29 »


ที่ดินของเจ้าของกระทู้เป็นที่ดิน น.ส.3 ก. ถือว่าเป็นที่ดินมือเปล่า  เจ้าของที่ดินข้างเคียงบุกรุกเข้ามาในที่ดินเป็นการแย่งการครอบครอง  หากเจ้าของกระทู้ไม่ฟ้องร้องเรียกคืนภายใน  ๑  ปี  อาจขาดอายุความได้ครับ  เจ้าของกระทู้ควรรีบปรึกษาทนายความเป็นการด่วน  เพราะคดีมีข้อเท็จจริงมาก  และค่อนข้างยุ่งยากด้วย  หากไม่รีบดำเนินการอาจเสียสิทธิฟ้องร้องนะครับ  ระหว่างดำเนินการฟ้องร้อง  หากมีการเจรจานอกรอบก็เจรจาไป  ทางคดีก็ว่ากันไป  คดีแพ่งประนีประนอมยอมความได้ตลอดเวลา 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
shane
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #4 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2011 เวลา 14:23:15 »


ขอให้ข้อมูลเพื่อพิจารณาครับ  โฉนดที่ดิน เป็นหนังสือสำคัญแสดง กรรมสิทธิ์ ส่วน นส.๓ ก. เป็นหนังสือสำคัญแสดง สิทธิการครอบครอง  โฉนดที่ดิน จะมีการตรวจสอบ รังวัด โดยมีระวางและความพิถีพิถันมาก มีการปักหมุดเขต  แต่ นส.๓ ก. เป็นภาพถ่ายระวางทางอากาศ ไม่มีหมุดเขตยืนยันแน่นอน ในทางกฏหมาย กรรมสิทธิ์กับสิทธิการครอบครอง จะต่างกัน ถึงแม้ว่าบุคคลจะมีการครอบครองเหมือนกัน แต่การเสียสิทธิ์ ต่างกัน ในการต่อสู้ทางกฏหมาย จะกล่าวถึง การสู้ในข้อเท็จจริง และข้อกฏหมาย ผมขอแนะนำว่าควรจะรีบปรึกษาทนายความครับ ตามที่คุณ chohn แนะนำเรื่องสิทธิ  ปกติการขอรังวัดออกโฉนด จาก นส.๓ ก. ไม่ได้ยุ่งยากครับ แต่พอมีปัญหา มันก็คือปัญหาครับ ยิ่งถ้าคุณบอกว่า คู่กรณีคุณ เป็นผู้มีอำนาจ งานนี้คงเหนื่อย ใจเย็น ๆ ครับ หาทนายครับ หรือลองปรึกษา สภาทนายความ หรือ ชมรมทนายความประจำศาลในท้องที่ ทนายอาสาดูครับ เท่าที่อ่านข้อเท็จจริง (ฝ่ายเดียว) จากคุณ ก็เดินมาถูกทางครับ ถ้ามีเพื่อนคู่คิดเป็นทนาย เก่ง หน่อย คงไม่เหนื่อยกาย และใจ ครับ  เป็นกำลังใจให้ครับ    วันก่อนเจอข้อความ คนจนติดคุก คนรวยได้ประกัน คนดังรอลงอาญา
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #5 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2011 เวลา 20:05:27 »


มีคนแนะนำ
1. จบเรื่องเร็วๆ คืโค่นต้นไม้(ใหญ่)ที่ปลูกรุกล้ำที่เข้ามา ...แต่ส่วนใหญ่ปลูกเกิน1ปีมาแล้ว
2.แจ้งจับ(ฟ้อง)คดีอาญา ฐานโยกย้ายปิดบังหมุดเขต
3.ในขณะที่ขอรังวัด แล้วการรังวัดยังไม่จบกระบวนการ การเปลี่ยนแปลงที่อีกฝ่ายทำ ถือว่าไม่มีผล
4.ในขณะที่ขอรังวัด แล้วการรังวัดยังไม่จบกระบวนการ ให้ไปยื่นขอออกโฉนดใหม่ทับไปเลย แล้วสุดท้ายยืนเขตตาม"ระวาง(เอกสารที่สนง.ที่ดิน)" คราวที่แล้วผมขอยกเลิก ซึ่งคนแนะนำบอกว่าผมมีสิทธิ์ที่จะยืนตามหมุดเขตเดิม
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
chohn
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« ตอบ #6 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2011 เวลา 06:58:12 »


ขอเพิ่มเติมอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับหน่วยงานหรือสถาบันทางกฎหมายที่อาจจะช่วยเหลือเจ้าของกระทู้ได้  นอกเหนือจากที่คุณ  shane  นำเสนอไว้ข้างต้นแล้ว  คือ  สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย  (สคช.)  ของสำนักงานอัยการสูงสุด  ซึ่งจะมีประจำอยู่ตามสำนักงานอัยการต่างๆ  ต่างจังหวัดก็จะอยู่ที่สำนักงานอัยการจังหวัดนั้นๆ  ส่วนกลางก็จะอยู่ที่สำนักงานอัยการสูงสุด  ถนนรัชดาภิเษก  ข้างศาลอาญา  ตรงข้ามมหาวิทยาลัยจันทรเกษม  กทม.  ฝั่งธนบุรี  ก็ที่สำนักงานอัยการสูงสุด  ถนนเอกชัย  ข้างศาลอาญาธนบุรี  เขตบางขุนเทียน  เจ้าของกระทู้สามารถนำหลักฐานทั้งหลายทั้งปวงไปปรึกษากับพนักงานอัยการ  หรือนิติกร  ประจำสำนักงานนั้นๆได้เลยครับ  หากกรณีของท่านเข้าหลักเกณฑ์ที่ทนายอาสาของสำนักงาน  สคช.  ดังกล่าว  ดำเนินการให้ได้  ก็คงใช้บริการได้  ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านค่าทนายความครับ  นอกจากค่าธรรมเนียมศาลเท่านั้นหากจะต้องฟ้องคดี  ขอให้รีบไปปรึกษาได้เลย  เพราะถ้าปล่อยให้เนิ่นนานไป  อาจจะมีปัญหาเรื่องอายุความฟ้องร้อง  ส่วนปัญหาที่ท่านถามขึ้นมาข้างบนนั้น  หากจะตอบเสียในที่นี้เกรงว่าจะเป็นการเสี่ยงเกินไป  เนื่องจากเป็นการฟังข้อเท็จจริงเพียงด้านเดียว  อาจผิดพลาดได้ครับ  อย่างไรก็ตามขอเอาใจช่วยเจ้าของกระทู้
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #7 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2011 เวลา 08:07:20 »


* ผมเคยปรึกษากับสนง.อัยการ แถวนี้ครับ แต่ไม่ได้คุยกับอัยการ ได้คุยกับทนายความ ดูเหมือนพยายามที่จะให้เราไปคุยที่ สนง.ทนายความของเขา  ..จะลองดูอีกทีอาจเข้ากท. ไปคุยกับอัยการสักแห่งที่คุณ Chohn แนะนำมา
* คุยกับนิติกร ...มา  เขาระแวงถึงขนาดว่า อาจมีการแก้จุดตั้งหมุดเขต โดยแก้ใน "ระวาง(เอกสารของสนง.ที่ดิน) " โอกาสเป็นไปได้ไหมครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
chohn
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« ตอบ #8 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2011 เวลา 09:26:15 »


ท่านเจ้าของกระทู้ครับ  ไปพบพนักงานอัยการ  สำนักงานคุ้มครองสิทธิฯ  (สคช.)  ยังสำนักงานที่ที่ดินของท่านตั้งอยู่เลยครับ  ไม่จำต้องเข้ามาในกทม.  เหตุผลคือ  หากจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาล  ต้องฟ้องคดียังศาลที่ที่ดินตั้งอยู่ในเขตอำนาจของศาลนั้นครับ  เวลาท่านไปพบพนักงานอัยการ  ขอให้เจาะจงกับผู้ที่มาสอบถามเลยว่า  ขอพบอัยการจังหวัด  สคช.  เลยทีเดียว  แล้วท่านอัยการจังหวัดก็จะสอบถามข้อเท็จจริง  หรือให้ท่านไปพบพนักงานอัยการท่านอื่น  หรือนิติกรคนใด  ตามแต่ที่ท่านอัยการจังหวัด  สคช. เห็นสมควรครับ  เป็นหน้าที่ของพนักงานอัยการอยู่แล้วครับ  ที่ต้องให้คำปรึกษากับประชาชนที่เดือดร้อน  ไม่ใช่ผ่องถ่ายไปให้ทนายความอาสาเสียทีเดียว  เรื่องที่ดินมักจะมีปัญหามากมายเสมอ  ทั้งจากเอกชนด้วยกันเอง  และหน่วยงานของรัฐ  ใช้หลักอริยสัจสี่ของพระพุทธเจ้าในการแก้ไขปัญหาครับ  ท่านทราบแล้วว่าทุกข์คือที่ดิน  สมุทัยคือเจ้าของที่ดินที่กำลังแย่งการครอบครอง  นิโรธคือข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินแปลงนี้  มรรค ก็คือ กระบวนการแก้ไข  ปรึกษา  ฟ้องคดี ฯลฯ  ขอให้ใช้สติ  สมาธิ  และปัญญาในการแก้ไข  ท่านก็จะพ้นวิบากนี้ได้ครับ 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
cobal-001
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


« ตอบ #9 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2011 เวลา 12:13:54 »


เรียนท่านเจ้าของกระทู้..
                                  ทางที่ดีท่านปรึกษาสภาทนายความดีที่สุด  เพราะข้อพิพาทของท่านเป็นข้อพิพาททางแพ่ง  ถึงท่านจะไปปรึกษา อัยการจังหวัด สคช.  อัยการฯ  ก็จะโบ้ยให้ทนายความอาสา  เพราะจริงๆ  แล้วอัยการไม่มีบุคคลากรที่จะมาทำงานด้านนี้โดยตรง  แต่ก็พยายามสร้างงานขึ้นมาให้ดูว่าตัวเองมีงานเยอะ  ทั้งที่ไม่มีความพร้อมทางด้านบุคคลากร  เพียงเพื่อจะได้ของบแต่ละปีให้ได้มากๆ  และเจียดงบที่ได้มาจ่ายเป็นค่าตอบแทนให้ทนายความอาสา  ซึ่งทนายความอาสาส่วนหนึ่งที่ยอมทำงานให้อัยการฯ  ก็หวังว่าอาจได้คดีอื่นที่อัยการฯ  เขาหยิบยื่นให้  ในกรณีของท่านหากต้องขึ้นโรงขึ้นศาลจริงๆ  คนที่จะทำงานให้ท่านก็คือทนายความหาไช่อัยการไม่  ซึ่งงานในส่วนให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายสภาทนายความ  ก็ดำเนินการอยู่แล้ว  และในแต่ละจังหวัดที่มีศาลจังหวัดตั้งอยู่  ก็จะมีสภาทนายความจังหวัดตั้งอยู่  และดำเนินงานตามนโยบายของสภาทนายความ  มีการบริหารงานในรูปแบบคณะกรรมการ  เป็นต้นว่าประธานสภาทนายความจังหวัด  กรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย  และกรรมการฝ่ายอื่นๆ  อีกรวมแล้วประมาณ ๑๒-๑๓  ตำแหน่ง  หากท่านเจ้าของกระทู้ไม่รู้ว่าจะไปพบประธานฯ  หรือกรรมช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย  ได้อย่างไร  ก็ให้้ไปที่ศาลจังหวัดที่ท่านมีข้อพิพาทอยู่นั่นแหละ  และถามเจ้าหน้าประจำศาล  หรือทนายความอาสาของสภาทนายความที่ให้คำปรึกษากฎหมายประชาชนอยู่ในแต่ละศาล  เพราะประธานสภาฯ  หรือกรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายของสภาทนายความแต่ละจังหวัด  จะเป็นทนายความอาวุโส  หรือทนายความที่ได้รับการยอมรับจากทนายความส่วนใหญ่ในจังหวัดนั้นๆ  เพราะตำแหน่งประธานสภาทนายความจังหวัด  มาจากการเลือกตั้งของทนายความในจังหวัดนั้นๆ  มีวาระคราวละ  ๓  ปี  หรือหากท่านเจ้าของกระทู้ไม่มั่นใจ  ก็ไปปรึกษาสภาทนายความส่วนกลางที่ถนนราชดำเนิน  แถวๆ  อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย  หวังว่าคงแก้ปัญหาจบได้ด้วยดี
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
rd
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 310



« ตอบ #10 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2011 เวลา 17:21:45 »


มีเรื่องกับพวกอิทธิพลนี่น่าเหนื่อยครับ แม้เสียเปรียบพวกเขาก็ทำ ที่นี่มีชาวบ้านอยู่รายหนึ่ง ถูกทนายความท่านหนึ่งมาทำประตูเหล็กกับเสารั้วคอนกรีตบนที่ดินของตนเอง ก็เลยจ้างคนงานไปพังประตูรั้วกับเสานั่นเสีย ที่จริงก็แค่ผลักให้มันล้มลง แค่นี้ชาวบ้านท่านนั้นก็ติดกับดักเข้าแล้ว ต้นเหตุก็คือทนายท่านนั้นไปซื้อที่บังคับคดีที่ไม่มีทางออก(เพราะราคามันถูกมาก) ก็เลยหาทางออกโดยการมาสร้างประตูทางออกบนที่ชาวบ้าน เมื่อชาวบ้านมาพังประตูที่ตนเองสร้างทุกอย่างก็เข้าแผน กระบวนการค้าความก็เริ่มขึ้น สุดท้ายชาวบ้านก็จำต้องขายที่ดินของตนเองให้ทนายตามข้อเสนออย่างถูกๆ เพราะทนสู้ค้าความกับเขาไม่ไหว แม้ค่าใช้จ่ายทนายอาสาครั้งล่ะ 2000 บาทพวกเขาก็เดือดร้อนแล้ว
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

tractor
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 279



« ตอบ #11 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2011 เวลา 20:07:32 »


ไม่มีความรู้แต่เข้ามาเอาใจช่วยครับ สู้ๆ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
chohn
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« ตอบ #12 เมื่อ: วันพุธที่ 03 สิงหาคม 2011 เวลา 06:14:18 »


ลองไปปรึกษาทั้งสองที่เลยครับ  ทั้งสภาทนายความ  ตัวแทนสภาทนายความต่างจังหวัด  อัยการ  สคช.  หน่วยงานไหนตอบโจทก์ท่านเจ้าของกระทู้มากที่สุด  ก็ใช้บริการไป  และประการสำคัญที่สุดหากตกลงกันได้โดยมีคนกลางช่วยประนีประนอม  ไม่ต้องนำคดีขึ้นสู่ศาลซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายตามมา  ก็จะเป็นประโยชน์แก่ท่าน  ขอเอาใจช่วยครับ 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!