*ผมเริ่มกอดลูกตอนที่อายุมันไกล้20 มั๊ง ..ก่อนหน้านั้นเวลาไปไหนก็กอดไหล่มัน มันก็กอดเอวผม ...มันเด็กตัวโตครับ
*ณรงค์ นาอาคม
ที่จุดประกายให้ผมเริ่มกอดลูกจริงๆจัง ....เรียนมาด้วยกัน มันหล่ออยู่แถวหน้าของเพื่อนร่วมรุ่นทีเดียว มันถือคติ "หญิงเดียวในดวงใจ หญิงต่อไปไม่มี" มีเมียทีละคน..ขณะมีเมีย ไม่มีกิ๊ก มันเลยแต่งงานก่อนเพื่อนมีลูกชายคนเดียวชื่อ จี๊ป หลังมันแต่งก็ไม่ค่อยได้พบกัน (2-3ปี พบกันสักที) ต่อมาเมียมันไปเปิดร้านอาหารที่อเมริกา มันทำหน้าที่เลี้ยงลูกมาตั้งแต่ลูกอยู่ประถมต้นมั๊ง
มันทำงานราชการ หน้าที่หลักอยู่ตจว. ปีหนึ่งออกตจว. สักครึ่งปี อีกครึ่งปีลอยตัวอยู่ กท. ทุกเช้ามันจะไปส่งลูกที่รร. ตอนเย็นลูกกลับเอง จนลูกอยู่มัธยมต้น (รร.ทวีธาภิเษก) ...ลูกโตแล้ว อายุราชการมากขึ้น-รายได้มากขึ้น เมียก็ส่งเงินมาช่วย มันก็กลับดึกขึ้น ใช้ความเป็นชายให้คุ้ม..ว่างั้น แต่ตอนเช้าก็ยังไปส่งลูกที่รร.ทุกวัน ไม่เคยขาด(ถ้าไม่ออก ตจว.)
ด้วยความที่อยากแสดงออกว่ารักลูก มันก็ซื้อหนังสือ "คู่มือการเลี้ยงลูกวัยรุ่น" มา แล้วก็วางบนโต๊ะกินข้าวที่ส่วนใหญ่ลูกมันใช้คนเดียว 1เดือนผ่านไป ลูกชายมันถามว่า พ่ออ่านหนังสือที่พ่อซื้อมาหรือยัง ..มันก็ตอบว่ายัง ถัดมาลูกมันก็ถามถี่ขึ้นจนเอะใจ จนต้องเอามาอ่านจึงพบว่าทั้งเล่ม ในส่วนที่ มันไม่ได้ทำ หรือทำผิดพลาด จี๊ป จะมาร์ค ไว้ทั้งหมด มันเล่าว่า ทั้งพ่อ-ลูก ต่างคนต่างร้องให้ เคลียร์ปัญหา และให้สัญญาต่อกันว่า จะกอดกันที่ครั้งที่พบ-จากกัน มันบอกว่าความรู้สึก+ความสัมพันธ์ ระหว่างพ่อ-ลูก ดีขึ้นมากมาย เพราะการกอดเป็นการถ่ายทอดความรัก-ห่วง....ไปมาระหว่างกัน
อันนี้ผมยอมรับว่าใช่ โอกาสหน้าจะเล่าเรื่องจี๊ป เด็กที่ได้เยี่ยมทำเนียบขาว และได้จับมือกับ ปธน. อเมริกา มาแล้ว มาเล่าให้ฟัง