ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2025 เวลา 23:16:24

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  มีปัญหา /สอบถาม /ให้คำแนะนำ รถยนต์ peugeot แต่ละรุ่น
| |-+  40X
| | |-+  สงสัย2ข้อ ความร้อน และน้ำยากัดสนิม
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สงสัย2ข้อ ความร้อน และน้ำยากัดสนิม  (อ่าน 2241 ครั้ง)
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน 2011 เวลา 23:26:46 »


สงสัย2ข้อ ความร้อน และน้ำยากัดสนิม
    1.เรื่องความร้อน ลูกชายเป็นคนใช้รถ(อยู่กท.) เรื่องที่ผมถามบ่อยเมื่อลูกมาคือความร้อนขึ้นถึง90ไหม ก็ได้รับคำตอบว่าไม่ถึง ...โล่งอกไป ลูกมาอยู่ด้วยเกือบ2เดือนแล้ว เมื่อ2-3วันมีอาการวูบเกือบดับ (โพสท์ไว้ และ(คิดว่า)แก้ได้แล้ว) ช่วงที่ลองรถ มีความรู้สึกว่าความร้อนสูง วันนี้ขับรถมา50 กม. เท่าที่เหลือบมองเกจ ไม่ถึง90 เมื่อถึงบ้านพอดับเครื่องปุ๊บเกจขึ้นถึง100 พัดลมทำงาน Full speed ...เป็นปรกติหรือเปล่าครับ
    2. เปลี่ยนเครื่องมา1ปี (เครื่อง?short?) ก่อนรับรถให้อู่ถ่ายน้ำ2 ครั้ง  ในช่วง1ปี เมื่อลูกมาเยี่ยม เห็นคราบที่ล้นจากหม้อน้ำมีสีแดง เหมือนน้ำที่ไหลผ่านลูกรัง ก็เปลี่ยนให้1ครั้ง ตอนนี้ลูกมาอยู่ด้วย ใน2 เดือนถ่ายให้3ครั้ง สียังไม่ค่อยจาง วันนี้เลยซื้อน้ำยากัดสนิมมาใช้ ก็ทำตามคำแนะนำที่ฉลาก ถ่ายน้ำออกหมด ใส่น้ำยาหมดขวด 1ล. ติดเครื่องจนพัดลมทำงาน 2-3 ครั้ง เปิดรูระบายน้ำใต้หม้อน้ำ +รูระบายลมที่เครื่อง2 จุด(เปิดพอน้ำไหลออกได้)  ติดเครื่องไว้ตลอด เติมน้ำที่หม้อน้ำตลอด หมดน้ำไป 2.5 ถังสีใหญ่ จึงล็อครูระบายน้ำทั้งหมด ..จบกระบวนการ   
     ** เมื่อกี้เปิดโพสท์เก่าๆดู พบว่าถ้าล้างน้ำยาล้างหม้อน้ำออกไม่หมด จะเป็นอันตรายต่อเครื่อง
     ** ขอความเห็น ก. น้ำ3ถังสี กระทำตามวิธีการข้อ2 จะล้างน้ำยาได้หมดไหม
                         ข. น้ำที่ล้นออกมาสีเหมือนดินลูกรัง เกิดจากอะไร เครื่องที่เปลี่ยน หรือตัวหม้อน้ำเอง
     ** หมายเหต คราบสีแดงโคลนที่บริเวณรูระบายลม นั้นเกิดจากผมถ่ายน้ำ 2-3 ใน2เดือนนี้ครับ
                       ....................... ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หมอรถ...(มือใหม่)
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 600



« ตอบ #1 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 01 กรกฎาคม 2011 เวลา 08:54:51 »


ถ้าหม้อน้ำเป็นแบบทองเหลือง(ไม่ใช่ของติดรถ) ลองไปให้ร้านหม้อน้ำถอดออกมาทำความสะอาดภายใน อาการต่างๆน่าจะดีขึ้น คิดว่าสนิมและตะกรันตามหลอดน้ำในหม้อน้ำน่าจะเยอะ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

Line ID  :   chai.korat
โจ เทียนทะเล
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,532



« ตอบ #2 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 01 กรกฎาคม 2011 เวลา 09:34:47 »


ขอมารอคำตอบด้วยคนครับ....ใครทราบช่วยกันตอบหน่อยครับผมก็อยากทราบเหมือนกัน.....
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

มีอะไรที่ผมพอช่วยได้โทรมานะ 084-7093279 โจ (เวลา 08.00-18.00น.)แต่ถ้ามีเรื่องด่วนจริงโทรทุกเวลา
อย่าอายในสิ่งที่ไม่รู้..แต่จงอายในสิ่งที่ไม่กล้าถาม...
มีปัญหาประกันภัยปรึกษาฟรี......รับเคลียร์ประกันภัย...
BlueShip
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 32


« ตอบ #3 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 01 กรกฎาคม 2011 เวลา 11:01:54 »


ผมไม่ใช่ช่างนะ ซ่อมรถเองไม่เป็น (แต่รถเสียมาทุกอาการจนจะเป็นช่างอยู่แล้ว)

รถผมเคยเป็นแบบ คุณ jiratt (405 sri)

อาการ
1. น้ำหายบ่อย
2. มีคราบแดงๆ เหมือนโคลนในหม้อน้ำ (ที่ว่าเหมือนดินลูกรัง)
3. บางครั้งมีควันขาวออกที่ท่อไอเสีย
4. น้ำมันเครื่องหายบ่อย
5. ความร้อนอยู่ที่ 90 -92 เสมอๆ

ถ้ามี 3,4 ด้วย  (โดยเฉพาะ 4) เอาไปให้ช่างดูครับ ว่าฝาสูบโก่งหรือเปล่า
ผมเคยงมตั้งนาน พอเอาไปอู่อา ถอดฝาสูบมาใส แล้วก็จบครับ

เห็นช่างเค้าว่า พอฝาสูบโก่ง น้ำมันเครื่องมันจะปนเข้าไปกับน้ำ ทำให้น้ำเป็นคราบโคลน แล้วน้ำบางส่วนจะรั่วออกมา แต่เมื่อโดนความร้อนของเครื่องจะระเหยไป แต่น้ำมันเครื่องบางส่วนจะ ถูกเผาไหม้ออกเป็นควันทางท่อไอเสัย ดังนั้นน้ำ กับ น้ำมันเครื่องจะหายบ่อยๆครับ
(คือผมว่าความร้อนระดับ 90 มันสูงเกินไปสำหรับรถรุ่นผมนะ ยิ่งถ้าแตะ 100 ควรจอดเลยครับ)

เพิ่มเติมครับ
พอล้างหม้อน้ำแล้ว ควรใส่น้ำยาหล่อเย็นครับ มันจะช่วยลดความร้อน/ช่วยเรื่องตะกรัน แต่ที่เห็นผลคือ ถ้าระบบน้ำตรงไหนรั่วจะเห็นเป็นคราบสีๆ(ขวดละ 160-200 บาท ตามยี่ห้อ บางยี่ห้อสีเขียว บางยี่ห้อสีฟ้า)

หลังจากผมทำแล้ว ความร้อนปกติจะอยู่ที่ 82 ครับ ถ้าวิ่ง 140 จะขึ้นมาเป็น 90-92

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
WAT_7229
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,049



« ตอบ #4 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 01 กรกฎาคม 2011 เวลา 11:13:31 »


น้ำในหม้อน้ำีแดง  แต่ความร้อนไม่ขึ้น  ก็สนิมในระบบเยอะแหละครับ 

ส่วนที่ถามเรื่องน้ำยากัดสนิมนั้นก็ หากค้างอยู่(มาก)ก็มีผลแน่ๆ  แต่ตามที่คุณว่ามาผมว่าคงไม่เยอะเท่าไหร่ ก็เอาเป็นว่าระยะแรกนี้ก็ถ่ายน้ำบ่อยหน่อย แล้วสัก 3 - 4 รอบ  ค่อยเติมน้ำยาคูลแล๊น
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #5 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 01 กรกฎาคม 2011 เวลา 15:16:53 »


กว่าจะลดขนาดไฟล์เป็น ... ถึงลดแล้วก็ยังเฉียดฉิวกับข้อกำหนดครับ
1. ความร้อนเมื่อดับเครื่องหลังขับมา50กม.
2. คราบที่บริเวณจุกไล่ลม
3.คราบที่ฝาหม้อน้ำ


* PG-After50km-1.jpg (49.47 KB, 800x600 - ดู 243 ครั้ง.)

* PG-Thermister-1.jpg (46.95 KB, 800x600 - ดู 208 ครั้ง.)

* PG-คราบสนิม-1.jpg (46.23 KB, 800x600 - ดู 229 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
WAT_7229
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,049



« ตอบ #6 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 01 กรกฎาคม 2011 เวลา 15:30:40 »


วาวล์น้ำเปิดไม่หมดครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หมอรถ...(มือใหม่)
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 600



« ตอบ #7 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 01 กรกฎาคม 2011 เวลา 15:31:28 »


ดูจากรูปที่สอง สนิมคงจะเยอะน่าดู สังเกตจากตาน้ำ เหมือนเป็นจุดสนิมตรงเหนือสายไฟ(ถ้าดูไม่ผิด)

ถ้าใช้น้ำยากัดมากๆ ตาน้ำอาจจะทะลุ ลองตรวจสอบดูครับ

ถ้าเป็นจุดสนิมจริงๆก็ต้องไล่เปลี่ยนตาน้ำทั้งหมดครับ ไม่ช้าก็เร็วทะลุแน่ๆ

ส่วนความร้อนถ้าวิ่งมาไกลๆแล้วดับเครื่องมันก็ขึ้นเป็นธรรมดาครับ แต่ขณะวิ่งทางโล่งๆไม่ควรเกิน 85
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

Line ID  :   chai.korat
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #8 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 01 กรกฎาคม 2011 เวลา 21:46:58 »


ดูจากรูปที่สอง สนิมคงจะเยอะน่าดู สังเกตจากตาน้ำ เหมือนเป็นจุดสนิมตรงเหนือสายไฟ(ถ้าดูไม่ผิด)

ถ้าใช้น้ำยากัดมากๆ ตาน้ำอาจจะทะลุ ลองตรวจสอบดูครับ

ถ้าเป็นจุดสนิมจริงๆก็ต้องไล่เปลี่ยนตาน้ำทั้งหมดครับ ไม่ช้าก็เร็วทะลุแน่ๆ

ส่วนความร้อนถ้าวิ่งมาไกลๆแล้วดับเครื่องมันก็ขึ้นเป็นธรรมดาครับ แต่ขณะวิ่งทางโล่งๆไม่ควรเกิน 85
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #9 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 01 กรกฎาคม 2011 เวลา 21:55:01 »


** ถ้าตรงบริเวณ 13น.?? (ตรงจุดระบายลม....ถ้าเป็นที่จุดนี้เป็นคราบของน้ำที่ผมเปิดให้มันไหลตอนไล่ลม ...และตอนระบายน้ำยากัดสนิมตามกระทู้ครับ)
** ถ้าตรงบริเวณ 7 น. อันนั้นตาน้ำหรือครับไม่เคยสังเกต  ผมเคยรู้แต่มีที่บริเวณหลังตัวเครื่อง  พรุ่งนี้จะดูอีกที
**** ถ้าเป็นสนิม และต้องเปลี่ยน อู่ธรรมดาทั่วไปเปลี่ยนได้ไหม ต้องยกเครื่องลงหรือเปล่า ค่าบริการ+อะไหล่แพงไหม
......ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #10 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 01 กรกฎาคม 2011 เวลา 21:57:33 »


ผมไม่ใช่ช่างนะ ซ่อมรถเองไม่เป็น (แต่รถเสียมาทุกอาการจนจะเป็นช่างอยู่แล้ว)

รถผมเคยเป็นแบบ คุณ jiratt (405 sri)

อาการ
1. น้ำหายบ่อย
2. มีคราบแดงๆ เหมือนโคลนในหม้อน้ำ (ที่ว่าเหมือนดินลูกรัง)
3. บางครั้งมีควันขาวออกที่ท่อไอเสีย
4. น้ำมันเครื่องหายบ่อย
5. ความร้อนอยู่ที่ 90 -92 เสมอๆ

ถ้ามี 3,4 ด้วย  (โดยเฉพาะ 4) เอาไปให้ช่างดูครับ ว่าฝาสูบโก่งหรือเปล่า
ผมเคยงมตั้งนาน พอเอาไปอู่อา ถอดฝาสูบมาใส แล้วก็จบครับ

เห็นช่างเขาว่า พอฝาสูบโก่ง น้ำมันเครื่องมันจะปนเข้าไปกับน้ำ ทำให้น้ำเป็นคราบโคลน แล้วน้ำบางส่วนจะรั่วออกมา แต่เมื่อโดนความร้อนของเครื่องจะระเหยไป แต่น้ำมันเครื่องบางส่วนจะ ถูกเผาไหม้ออกเป็นควันทางท่อไอเสัย ดังนั้นน้ำ กับ น้ำมันเครื่องจะหายบ่อยๆครับ
(คือผมว่าความร้อนระดับ 90 มันสูงเกินไปสำหรับรถรุ่นผมนะ ยิ่งถ้าแตะ 100 ควรจอดเลยครับ)

เพิ่มเติมครับ
พอล้างหม้อน้ำแล้ว ควรใส่น้ำยาหล่อเย็นครับ มันจะช่วยลดความร้อน/ช่วยเรื่องตะกรัน แต่ที่เห็นผลคือ ถ้าระบบน้ำตรงไหนรั่วจะเห็นเป็นคราบสีๆ(ขวดละ 160-200 บาท ตามยี่ห้อ บางยี่ห้อสีเขียว บางยี่ห้อสีฟ้า)

หลังจากผมทำแล้ว ความร้อนปกติจะอยู่ที่ 82 ครับ ถ้าวิ่ง 140 จะขึ้นมาเป็น 90-92


แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #11 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 01 กรกฎาคม 2011 เวลา 22:00:11 »


ผมไม่ใช่ช่างนะ ซ่อมรถเองไม่เป็น (แต่รถเสียมาทุกอาการจนจะเป็นช่างอยู่แล้ว)

รถผมเคยเป็นแบบ คุณ jiratt (405 sri)

อาการ
1. น้ำหายบ่อย
2. มีคราบแดงๆ เหมือนโคลนในหม้อน้ำ (ที่ว่าเหมือนดินลูกรัง)
3. บางครั้งมีควันขาวออกที่ท่อไอเสีย
4. น้ำมันเครื่องหายบ่อย
5. ความร้อนอยู่ที่ 90 -92 เสมอๆ

ถ้ามี 3,4 ด้วย  (โดยเฉพาะ 4) เอาไปให้ช่างดูครับ ว่าฝาสูบโก่งหรือเปล่า
ผมเคยงมตั้งนาน พอเอาไปอู่อา ถอดฝาสูบมาใส แล้วก็จบครับ

เห็นช่างเขาว่า พอฝาสูบโก่ง น้ำมันเครื่องมันจะปนเข้าไปกับน้ำ ทำให้น้ำเป็นคราบโคลน แล้วน้ำบางส่วนจะรั่วออกมา แต่เมื่อโดนความร้อนของเครื่องจะระเหยไป แต่น้ำมันเครื่องบางส่วนจะ ถูกเผาไหม้ออกเป็นควันทางท่อไอเสัย ดังนั้นน้ำ กับ น้ำมันเครื่องจะหายบ่อยๆครับ
(คือผมว่าความร้อนระดับ 90 มันสูงเกินไปสำหรับรถรุ่นผมนะ ยิ่งถ้าแตะ 100 ควรจอดเลยครับ)

เพิ่มเติมครับ
พอล้างหม้อน้ำแล้ว ควรใส่น้ำยาหล่อเย็นครับ มันจะช่วยลดความร้อน/ช่วยเรื่องตะกรัน แต่ที่เห็นผลคือ ถ้าระบบน้ำตรงไหนรั่วจะเห็นเป็นคราบสีๆ(ขวดละ 160-200 บาท ตามยี่ห้อ บางยี่ห้อสีเขียว บางยี่ห้อสีฟ้า)

หลังจากผมทำแล้ว ความร้อนปกติจะอยู่ที่ 82 ครับ ถ้าวิ่ง 140 จะขึ้นมาเป็น 90-92


ผมไม่ใช่ช่างนะ ซ่อมรถเองไม่เป็น (แต่รถเสียมาทุกอาการจนจะเป็นช่างอยู่แล้ว)

รถผมเคยเป็นแบบ คุณ jiratt (405 sri)

อาการ
1. น้ำหายบ่อย
2. มีคราบแดงๆ เหมือนโคลนในหม้อน้ำ (ที่ว่าเหมือนดินลูกรัง)
3. บางครั้งมีควันขาวออกที่ท่อไอเสีย
4. น้ำมันเครื่องหายบ่อย
5. ความร้อนอยู่ที่ 90 -92 เสมอๆ

ถ้ามี 3,4 ด้วย  (โดยเฉพาะ 4) เอาไปให้ช่างดูครับ ว่าฝาสูบโก่งหรือเปล่า
ผมเคยงมตั้งนาน พอเอาไปอู่อา ถอดฝาสูบมาใส แล้วก็จบครับ

เห็นช่างเขาว่า พอฝาสูบโก่ง น้ำมันเครื่องมันจะปนเข้าไปกับน้ำ ทำให้น้ำเป็นคราบโคลน แล้วน้ำบางส่วนจะรั่วออกมา แต่เมื่อโดนความร้อนของเครื่องจะระเหยไป แต่น้ำมันเครื่องบางส่วนจะ ถูกเผาไหม้ออกเป็นควันทางท่อไอเสัย ดังนั้นน้ำ กับ น้ำมันเครื่องจะหายบ่อยๆครับ
(คือผมว่าความร้อนระดับ 90 มันสูงเกินไปสำหรับรถรุ่นผมนะ ยิ่งถ้าแตะ 100 ควรจอดเลยครับ)

เพิ่มเติมครับ
พอล้างหม้อน้ำแล้ว ควรใส่น้ำยาหล่อเย็นครับ มันจะช่วยลดความร้อน/ช่วยเรื่องตะกรัน แต่ที่เห็นผลคือ ถ้าระบบน้ำตรงไหนรั่วจะเห็นเป็นคราบสีๆ(ขวดละ 160-200 บาท ตามยี่ห้อ บางยี่ห้อสีเขียว บางยี่ห้อสีฟ้า)

หลังจากผมทำแล้ว ความร้อนปกติจะอยู่ที่ 82 ครับ ถ้าวิ่ง 140 จะขึ้นมาเป็น 90-92


แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #12 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 01 กรกฎาคม 2011 เวลา 22:09:24 »


ที่เกิดกับของผมมี
2. ตามที่เห็นในภาพ แต่เกิดหลังจากเปลี่ยนเครื่อง (เท่าที่สังเกตุ)
3. ตอนเช้ามีเหมือนกัน แต่คิดว่าเครื่องสภาพดี (ตามที่เขาว่า)  ตอนอื่นไม่พบ แม้จะเร่งถึง3000รอบ (รถจอดกับที่)
5. จะวนเวียนแถว 80-90กว่านิดๆ ประมาณนี้ครับ  (คิดว่าไม่ควรแตะ 90 หรือครับ)
  ** ไสฝามาแล้วปรกติเลยหรือครับ เยี่ยมจริง ปรกติทำที่อู่ไหนครับ
  ** น้ำยาหล่อเย็นของผมเขียวมรกตครับ ข้นคลั่ก ราคาประมาณที่ว่าละครับ ..ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!