ต้องบอกไว้ก่อนว่าจะพูดถึงรถระดับชาวบ้านร้านตลาดเท่านั้น ระดับเหนือปกติจะไม่พูดถึงเพราะไม่มีปัญญาสัมผัส
ไม่ปฏิเสธว่าชาิติยุโรปคือผู้ค้นคิดกลไกทั้งหลายรวมถึงรถยนต์
ไม่ปฏิเสธว่าเมื่อเอารถยุโรปมาขับจะรู้สึกเหมือนๆกันทุกยี่ห้อ คือ หนุบๆหนึบๆดีทั้งที่พื้นฐานระบบก็คล้ายๆกันกับรถญี่ปุ่น แมคเฟอร์สันฯเอย เทรลลิ่งอาร์มเอย มัลติลิงค์ ดับเบิ้ลวิชโบน ฯลฯ สารพัด แต่รวมๆก็มีไม่กี่แบบในโลก แต่กลับให้ความรู้สึกที่ดีผิดไปจากรถญี่ปุ่น
แต่เคยสังเกตุมั๊ยว่ารถญี่ปุ่นโหลๆทั่วบ้านทั่วเมืองทำไมมันทนมือทนทีนดีจัง เครื่อง / เกียร์ / ช่วงล่าง / ระบบไฟ / วัสดุอุปกรณ์ภายใน ช่างก่อปัญหาน้อยเสียจริง
ซึ่งก็ตรงกันข้ามกับรถแถบยุโรป ยิ่งเก่ายิ่งเห็นได้ชัด ตัวอย่างความทน เช่น
ระบบหล่อเย็นรถญี่ปุ่นออกแบบง่ายๆแต่ได้ผลที่ดี ใข้ชิ้นส่วนน้อย รักษาอุณหภูมิได้คงเส้นคงวาและมีเสถียรภาพสูงเข็มงี้แทบไม่กระดิก(ที่เสียไม่เกี่ยว)
ระบบเกียร์ทั้ง Auto และ Manual โดยเฉพาะ Auto อันนี้ไม่ต้องบรรยายเห็นกันชัดทั้งความคงทนและความเชื่อใจได้ไม่ก่อปัญหาจุกจิก
ระบบไฟทั้งหลาย ไฟช็อต สายกรอบ ขั้วกรอบ ขั้วละลาย หลวม หลุด Contact สกปรก ฯลฯ รถยุโรปทั้งนั้น
ระบบแอร์รถญี่ปุ่น(ส่วนใหญ่) หลักการง่ายๆเย็นตัด-ไม่เย็นต่อ ความเย็นและความสบายแม้ไม่ Smooth เท่ายุโรปหรือพวกใช้ Heater มาคุม แต่มันง่ายและทนอ่ะ
วัสดุภายใน(อันนี้เอารถนำเข้ามาเทียบกันเลย) รถญี่ปุ่นแม้วิ่งจนผุแต่พลาสติกยังแจ๋ว เบาะแม้จะย้วยแต่ก็ยากที่จะขาด สวิทช์ทั้งหลายยังใช้งานได้ดีไม่ติดๆขัดๆ รึว่าแตกหลุดล่อน Contact พัง หลังคาย้วย แผงข้างล่อน รถยุโรปเจอแทบทั้งนั้น
ที่ตั้งกระทู้มาเนี่ยอยากรู้ว่าขณะที่ใช้รถ ท่านๆเคยแอบคิดแบบนี้รึเปล่า?
แล้วสรุปว่าชาติญี่ปุ่นญาติชาวเอเซียของเรากับชาติยุโรปผู้ค้นคิดนวัตกรรม ใครออกแบบและผลิตรถเพื่อใช้งานได้ดีกว่ากัน ?