ไม่รู้นึกยังไงควบสิงห์แก่กลับต่างจังหวัด ทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยสมบูรณ์จะเล่าให้ฟัง
306 เปลี่ยนเครื่องมาแบบฃ๊อตบล็อกเครื่อง 2000 8 v ติดแก๊สแบบดูดเรียบร้อยแล้วครับ พอดีว่าช่วงคืนวันอังคารที่ผ่านมาได้เอาออกทริปยาว ๆ 750 โล ฯ ( นครพนม ) ก่อนไปนั้นก็มีปัญหานิด ๆ หน่อย ๆ อยู่ก่อนแล้วเช่น ไฟสีส้มวงกลมโชว์ตอนเบรค ก้มดูผ้าเบรคหน้าก็ยังหนาอยู่ คิดว่าคงใช้เดินทางใกลได้อยู่แค่มันโชว์ให้รำคาญตาแค่นั้น นี่อาการที่หนึ่ง
อาการที่สอง เนื่องจากเป้นแอร์ที่เขาตัดระบบฮีตเตอร์มาก่อน จึงมีปํญหากับการปรับ เร่ง / ลด ความเย็นไม่ได้ แม่เจ้าแทบเป็นไก่แช่แข็ง จะปิดก็ไม่ได้กระจกเป็นฝ้า ต้องคอยปิด ๆ เปิด A/C ตลอดทาง เออดีเหมือนกันมีกิจกรรมให้ทำตลอดทาง ลืมง่วงไปได้เลย แต่ที่รับไม่ได้ก็คือน้ำครับ ไม่รู้น้ำออกมาจากไหนท่วมขังตรงที่พักเท้าคนนั่งด้านซ้ายหน้า เยอะเหมือนกันนะครับใช้ผ้าซับบบิดออกมาได้ประมาณ ขวดน้ำ 700 ซีซี นั่นเลยตลอดทางแ้ก้ยังไงน้อเนี่ย
เนื่องจากพึงติดแก๊สมาใหม่เหมือนกันเลยลองดูว่าจะกินประมาณไหน ผมใช้แก๊สไปทั้งหมด 3 ถัง เริ่มเต็มถังก่อนออกจากบ้านที่ปั๊มแก๊สโค้ง อินทรารักษ์ นวมินทร์ ให้เด็กอัดเต็ม ๆ ถังที่ 1 320 บาท ถังที่ 2 เติมที่เลี่ยงเมืองโคราช 360 ถังที่ 3 เติมที่อำเภอสมเด็จจังหวัดกาฬสินธ์ 280 บาท...ถึงนครพนมยังเหลือ...เออ...มันประหยัดจริง ๆ แฮะ..อันนี้เป็นที่พออกพอใจเป็นอย่างมาก ใช้ความเร็ว 100 - 160 บางช่วง คนเต็มคัน
เสร็จธุระ แล้วก็มาถึงขากลับอันแสนระทึกใจ...เนื่องจากผมเป็นคนบ้านนอกบ้านนาขากลับของฝากเต็มคันรถ ไหนจะคนนั่งมากเต็มคัน ออกจากบ้านช่วง บ่าย 3 โมงกว่า แต่เจ้ากรรมฝนตกตลอดทางเลยครับพี่น้อง เปิดทั้งแอร์เพื่อไล่ฝ้า เปิดทั้งใบปัดน้ำฝน มาถึงสกลนครช่วงขึ้นภูพานราชนิเวช รถก็ออกอาการ ความร้อนไม่ขึ้น ( ฝนตก ) อยู่ที่ 70 องศา อ้าว...ได้ยินเสียงพัดลมสเต็ป 2 ทำงานตลอด ใบปัดน้ำฝนปัดเหมือนไม่มีแรง ไฟ stop เริ่มโซว์ เออละเหว๋ยเวรแล้วตรู..จะว่าไดร์ชาร์ตก็เพิ่งเปลี่ยนได้ไม่นานนี่นา คิดว่าแบ็ตเตอร์รี่แน่ ๆ เพราะมันเริ่มเก่า
ก็ได้แต่ประคองรถเอาไว้ให้ถึงกาฬสินธ์ ลงจากภูเขาเจอช่วงถนนแห้ง ๆ เลยลองอัดรถดูซัก 140 เพื่อจะสนับสนุนข้อสันนิฐาน ว่าเป้นเพราะไดร์ชาร์ต หรือแบ็ตเตอร์รี่กันแน่ มันก็ยังวิ่งได้ไหลลืนปกติ จอดพักเติมแก๊สไฟ stop ก็ยังไม่ดับ สตาร์ทก็ได้ตามปกติ เนื่องว่ากระจกเป้นฝ้ามันเป็นสถาณการณ์ที่เลวร้ายสุด ๆ ระหว่างจอดเติมแก๊ส ก็เลยเอาน้ำยาเช็ดกระจกสีฟ้า ๆ เช็ดกระจกดู เออ มันใสดี เลยเอามาเช็ดข้างบ้างเผื่อฝ้าจะหาย.....ที่ไหนได้เลวร้ายยิ่งกว่าเก่า น้ำยาเช็ดกระจกมันก็เช็ดได้แต่กระจกจริง ๆ มันเช็ดฟิล์มไม่ได้นี่หว่า กว่าจะรู้ก็สายเสียแล้ว..ทำไงดีทีนี้
ดีที่ว่าว่ามันน้ำยาขัดสีของ 3 M ขวดสีขาว ๆ ครีม ๆ ติดรถดไปด้วยขัดสีได้ก็น่าจะขัดคราบน้ำยาที่เป็นฟิล์ม ๆ เคลือบออกได้ก็เสียเวลาขัดอยู่นั่นอย่างนาน...เออ..ที่นี้เดินทางต่อด้วยความทุลักทุเลฝนก็ตกมาเรื่อย ๆ ไม่หยุดหย่อน มาถึงสารคาม แม่เจ้าเว๊ย...ให้ตาเถอะมากี่ครั้งกี่ครั้ง โดยเฉพาะขาลงกรุงเทพ ฯ เป็นต้องได้หลงทางทุกที ป้ายบอกทางที่สุดแสนจะมึนงง มันจะต้อนเข้าเข้าตัวจังหวัดมันอย่างเดียว กี่แยกกี่แยก ก็สารคาม พอคิดว่าจะเลี่ยงมันก็หลงไปโน่นเลย ร้อยเอ็ดครับพี่น้อง....ถึงตรงนี้สัจธรรมที่ว่า หลงทางเสียเวลา..เจอกับตัวนี่มันใช่จริง ๆ.....เฮ้อเวรแท้ ๆ
กว่าจะหลุดเข้าถนนมิตรตภาพได้เวลาก็ล่วงเลย 4- 5 ทุ่มเวรกรรมจริง ๆ สารคาม ผมสาบานได้ว่าผมกลับต่างจังหวัด ทุกครั้งก็หลงทางทุกครั้ง แต่ทุกครั้งที่หลง ก็โน่นเลยเอาขอนแก่นเป็นที่ตั้ง แต่เส้นทางที่ต้องการไปจริง ๆ คือเส้น บรบือ แล้วโผล่ออกมิตรภาพ ห่วยแตกสิ้นดีสำหรับป้ายบอกทาง ของสารคามเขา...ผมนับได้ผมหลงทางไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งครับตรงเขตสารคามเนี่ยแหละ...เซ็งจิตรจริง ๆ ให้ตาย..เข้ามิตรภาพสถาณการเริ่มคลี่คลาย บางช่วงถนนเริ่มแห้งได้ใช้ความเร็วได้เต็มที่ แต่ไฟ stop ก็ยังคงโซว์อยู่อย่างนั้น จนมาถึงช่วง อำเภอกลางดง....
รถก็ติดระนาวยาวเหยียดไม่ขยับขเยื้อน นานนับช่วงโมงรถขาเข้าติดยาวเหยียดนับพันคัน เออ...ดีเหมือนกันจะได้จอดนอนพักกลางถนนนั่นล่ะ...รถทุกคันพร้อมใจดับเครื่องนอนกันกลางถนนได้หลายตื่น กว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งก็รวมกับรถผมด้วย ไฟ stop ดับ ออกเลี่ยงเมืองก่อนเข้า สระบุรี อัดมันซะให้มันหลาบจำ 140 - 160 ยังเหลือแต่กลัวแล้ว ถึงบ้านน้องสาวที่หนองจอก ตี 5 กว่า ๆ เง้อ......จบกันทีกับวิบากกรรรมการออกทริปครั้งนี้...
ปล...แค่บอกเล่าระบายความรู้สึกและประสบการณ์น่ะครับ