ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2025 เวลา 00:18:54

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  หมวดความมัน
| |-+  Show Off
| | |-+  405 GR ปี 92 เบาะแดงเบรคของ 306
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: 405 GR ปี 92 เบาะแดงเบรคของ 306  (อ่าน 10687 ครั้ง)
ecco
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277


« เมื่อ: วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2010 เวลา 21:44:49 »


405 GR ปี 1992 เดิมๆแต่ตัวถัง

อายุครบ 18 ปีไปหลายเดือนแล้ว ถ้าเป็นคนก็เป็นหนุ่มเป็นสาววัยแรกรุ่นที่กำลังงามทีเดียว
แต่มันเป็นรถ ก็เลยทรุดโทรมไปบ้างตามกาลเวลา แม้จะจู้จี้จุกจิกบ้างตามแบบเปอร์โยต์
แต่ก็คงอยู่กับผมอีกต่อไปอย่างเนิ่นนานเพราะขายไม่ได้ราคา และรับใช้ใกล้ชิดกันมานาน

คานหลัง ของ 405 SRI ให้มันมีดิสเบรคหลังหน่อยเท่านั้นเอง การเบรคไม่ดีขึ้นแต่ประการใด
เบรคหน้า 2 ชั้นของ 306 เอาไว้หยุดม้าแก่ ๆ ที่เหลือไม่กี่ตัว ทาสีคาลิปเปอร์ให้มันแดงๆ
เบาะหน้าหุ้มใหม่ แดง ๆ ดำ ๆ ให้สีมันแจ่ม ๆ แปลก ๆ ตาเล่นบ้างตามประสาคนแก่แล้ว
เครื่องยนต์ 8 วาล์วหัวฉีดของ SRI เรี่ยวแรงมากแค่ไปจ่ายตลาดใกล้ๆได้
ติดแก๊สระบบมิกเซอร์ถัง 58 ลิตรมาหลายปีแล้วคุ้มค่าติดตั้งนานแล้ว
นอกนั้นก็เดิม ๆ แต่อยากจะอวดหน่อยเท่านั้นเองว่ายังใช้ไปจ่ายกับข้าวได้


ที่ผมเอารูปมาลงก็เพราะอยากจะให้คนที่ยังมียังใช้ 405 GR อย่ารีบขายเพราะมันยังสวย
และใช้งานได้ดี ผมเห็นราคาขายกันไม่กี่หมื่นไม่ถึง 100,000 บาทแล้วเสียดายแทนครับ
405 GR  มันเป็นรถสวย รถดี แต่เพราะมันเก่าคนเลยเลิกสนใจ แต่ถ้าสภาพดี ๆ มันก็ยัง
ดีรับใช้เราได้อย่้างดีเลย ท่านที่มีรุ่นนี้อยู่และกำลังคิดจะขาย ขอบอกว่าอย่าขายเลยครับ
เอามันมาปรับปรุงใช้เงินไม่มากแล้วใช้งานต่อดีกว่า ยุคนี้เงินหายากมากครับ
เอามันมาปรับปรุงแล้วจะเห็นว่าทั้งสวยและใช้ดีครับ ใคร ๆ ก็ยังชมว่ารถยังสวย
ผมเองก็ยังชอบมันอยู่ จะใช้มันต่อไปครับ










ดิสเบรคหน้าเอาของสแตนดาร์ดเดิมเป็นจานเบรคชั้นเดียวออกเอาจานเบรค 2 ชั้น 246 มม.และคาลิปเปอร์ของ PG 306 ใส่แทน
การเบรคไม่ได้ดีขึ้นหรอกครับ เพราะไม่ได้ขับเร็ว พอดีของมีเหลือจากการอัพเกรดเบรคอีกคันเลยเอาของเหลือมาใส่คันนี้แทน




วันนี้พาเจ้า 405 GR คันนี้ไปเที่ยวพุทธมณฑล ที่มันไปบ่อยมากจนคิดว่าให้มันพาไปได้แล้ว มันคงจำทางได้เพราะไปมาบ่อยมากๆ















แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ecco
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277


« ตอบ #1 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2010 เวลา 22:12:16 »













แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jamesdrum
Cowboy from Hell
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,802



« ตอบ #2 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2010 เวลา 00:29:38 »


 ...สีเนียนครับ!!!... เดิมๆ สวย สะอาด รักษาดีมากเลยครับ!!!... เครื่องเดิมหรือเปล่าครับ???...                                     
                                                                                                                       ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

' ' ร ถ ส ว ย . . . ด้ ว ย มื อ เ ร า . . . ' '   ' ' เ เ ด ง เ เ ก้ ว . . . ศิ ล ป ะ ข อ ง ก า ร ใ ช้ ร ถ เ ก่ า . . . ! ! !' '
ecco
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277


« ตอบ #3 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2010 เวลา 07:54:45 »





เครื่องยนต์ 8 วาล์ว 2,000 CC ของ 405 SRI เกียร์ออโต้ 4 HP 14 ของเดิมติดรถ เอาโลโก้รุ่นใหม่แปะทับโลโกติดรถสิงห์แบบเดิมที่คุ้นตามานมนาน









ติดแก๊สระบบดูด มิกเซอร์หม้อต้มแก๊สของโทมาเซโต้ มา 5 ปีกว่าแล้ว ได้ค่าติดคืนมาหลายปีแล้ว ตอนนี้กินแก๊สอยู่ราว 7 กม./ลิตร




ฝากระโปรงท้ายเอาโลโก้สิงห์มาติดเล่นแก้เหงา อันละ 540 บาท ของแท้เบิกห้างครับ ติดดูเล่นโก้ ๆ ไม่ทำให้รถแรงขึ้นครับ






ถังแก๊สใบเล็ก ๆ 58 ลิตรของสหมิตร

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ecco
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277


« ตอบ #4 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2010 เวลา 08:04:51 »






เบรคหลังคานของ 405SRI เป็นดิสเบรคสแตนดาร์ดของ SRI ล้อเดิม ยางขนาดเดิม 185 65 R14
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jod_ryhp
จ๊อด ครับ 0813193708
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,653



« ตอบ #5 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2010 เวลา 11:02:54 »


สวยครับ
ดุแลรถได้ดีมากๆ
ชอบครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

คนเมืองน่าน มา หยะ ก๋าน หยะ งาน อยู่ตี่ ระยอง ฮิ
virat405gr
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 287


« ตอบ #6 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2010 เวลา 20:06:18 »


รักษาสีสภาพเดิมได้ดีมากๆเลยครับ
ค้ำโช๊คสวยมากครับ ถังแก๊ส 58 กำลังดีแล้วครับปั้มแยอะ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ecco
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277


« ตอบ #7 เมื่อ: วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน 2010 เวลา 19:31:08 »


เปลี่ยน Strut ball join หรือ ลูกหมากปลายสตรัท ตัวละ 450.- บาท ตรานกเขาว่าของเบลเยี่ยม ไม่รู้เยี่ยมจริงหรือเปล่าซื้อวรจักร

เปลี่ยน คันส่งคันชัก หรือ ลูกหมากปลายแร๊กตัวใน/ตัวนอก ซ้ายและขวา ตรานกฮูก ตัวนอก 648.- บาท ตัวใน 468.- บาท










เปลี่ยนก้านไฟเลี้ยว ราคา 1,215 บาทของวาลิโอ อันนี้ใส่เองครับ อาการที่เสียที่ทำให้ต้องเปลี่ยนคืด dip ไฟสูงไม่ได้ ของเดิมไม่มีแตกหักเสียหาย   จริงๆบางท่านบอกว่าให้เอาโซแน๊กซ์ฉีดเข้าไปทำความสะอาดคอนแทคซ์ในตัวมันก็ใช้ได้แล้ว แต่ผมใจร้อนเปลี่ยนเป็น
ของใหม่เลย เปลี่ยนไม่ยาก ถอดฝาครอบใต้พวงมาลัยออกมา ไขสกรู 2 ตัว ก็เปลี่ยนได้แล้ว อาศัยสังเกตุหน่อยว่าของเดิมมันอยู่อย่างไร







ลูกหมากปลายแร๊กตัวใน ซ้าย -ขวา





ลูกหมากปลายแร๊คตัวนอก ซ้าย-ขวา











ลูกหมากปลายสตรัท ของ 405 GR ลูกหมากตัวนี้จะอยู่ที่ปลายสตรัท เบ้ารับอยู่ที่ปลายปีกนก ตรงกันข้ามกับของ 306
ที่ลูกหมากอยู่ที่ปลายปีกนก เบ้ารับอยู่ที่ปลายสตรัท  ตัวนี้แหละที่ผมซื้อมาตัวละ 450.-บาท เขาว่าตรานกเบลเยี่ยมด้วยละ
ท่านช่างวันหยุดที่อยากเปลี่ยนเองก็ไม่ยากอะไร เกลียวของลูกหมากปลายสตรัทตัวนี้เป็นเกลียวธรรมดา ผมเห็นช่างเขาใช้
ไขควงตัวใหญ่ปากแบนธรรมดา ๆ สกัดมันออกมา อาจจะต้องใจกล้า ๆ ใช้แรงฆ้ัอนสักหน่อย ผมเจ้าของรถก็หลับตาซะอย่า
ไปดุมัน สงสารรถเราครับ ช่างไทยขาดฆ้อนไม่ได้หรอก ซ่อมไม่ออกครับ อะไรไขไม่ออกต้องฆ้อนลูกเดียว เครื่องมือเฉพาะ
ช่างบ้านเราไม่ค่อยจะมีใช้กันครับ มันแพงและใช้ยากช่างไม่ชอบ ใส่ตัวนี้จะมีอีกตัวที่ช่างไม่ชอบใส่คืน คือแผ่นบังฝุ่นเบรค
และบังความร้อนจากจานเบรค ช่างมักทำเป็นลืม เพราะใส่ยาก เขาบอกว่าใส่ไปก็ทำให้มีเสียงดังก๊อกแก๊ก ๆ ลำคาญเปล่า
แต่จริง ๆ แผ่นบังนี้มีประโยชน์มาก ช่วยให้ยางลูกหมากทนทานขึ้นนะครับ อย่าเอาออกหาใส่คืนไว้





อีกมุมหนึ่งของลูกหมากปลายสตรัท ของ 405 GR ลูกหมากตัวนี้จะอยู่ที่ปลายสตรัท เบ้ารับอยู่ที่ปลายปีกนก ตรงกันข้ามกับของ 306
ที่ลูกหมากอยู่ที่ปลายปีกนก เบ้ารับอยู่ที่ปลายสตรัท







เปลี่ยนยางหุ้มเพลาใส่จารบีใหม่ ของ Cortico มี 3 ชิ้น 3 ราคาแต่เฉลี่ยตัวละ 450 บาท และ ตราอะไรไม่ตู้ 1 ตัว 300 บาท
  
  
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
406ja
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 44


« ตอบ #8 เมื่อ: วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน 2010 เวลา 19:53:09 »


เปลี่ยน Strut ball join หรือ ลูกหมากปลายสตรัท ตัวละ 450.- บาท ตรานกเขาว่าของเบลเยี่ยม ไม่รู้เยี่ยมจริงหรือเปล่าซื้อวรจักร

เปลี่ยน คันส่งคันชัก หรือ ลูกหมากปลายแร๊กตัวใน/ตัวนอก ซ้ายและขวา ตรานกฮูก ตัวนอก 600 กว่า ตัวใน 500 กว่า

เปลี่ยนยางหุ้มเพลาใส่จารบีใหม่ ของ Cortico มี 3 ชิ้น 3 ราคาแต่เฉลี่ยตัวละ 450 บาท และ ตราอะไรไม่ตู้ 1 ตัว 300 บาท

เปลี่ยนก้านไฟเลี้ยว ราคา 1,215 บาทของวาลิโอ อันนี้ใส่เองครับ
 


ขออนุญาติเรียนสอบถาม อะไหล่ทั้งหมดซื้อร้านไหนครับ โดยเฉพาะยางหุ้มเพลาขับของ coteco ผมหาอยู่ ที่เอกชัยเขาก็ไม่สั่งเข้ามาแล้วมีแต่ของ sasic ขอบคุณมากครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ecco
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277


« ตอบ #9 เมื่อ: วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน 2010 เวลา 19:56:52 »


ไม่ได้ซื้อเองครับ
ของจากในอู่ที่ไปทำครับ
แต่เขาก็ไม่มีอีกแล้วเหมือนกันครับ
ดังที่บอกว่ามีตราอะไรไม่รู้ 1 ชิ้นแหละ
เพราะเขาไม่เหลือ Cortico อีกแล้ว
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
Berline
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 390



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2010 เวลา 05:57:50 »


 :อะหา อะหา:
อ่านกระทู้คุณ ecco แล้ว เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
405 GR ยังสวยร่วมสมัย แม้ว่าอายุเกือบ ยี่สิบปีแล้ว หากดูแลให้อยู่ในสภาพดีได้ ประสิทธิภาพเหนือกว่ารถรุ่นใหม่ หลายรุ่น
ตัวผมเอง แม้จะสามารถซื้อรถใหม่ได้ แต่ก็ยังใช้ 405 Sri ด้วยความชอบส่วนตัว เพราะมันให้ความรู้สึกหลายๆอย่างแบบที่รถระดับราคา เจ็ดแปดแสนให้ไม่ได้
แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ในรถระดับราคามือสองไม่ถึงแสน

อย่างว่าแหละครับ ใช้รถเปอร์โยต์ ก็จะได้รับฟังความเห็นแปลกๆ เช่น ทำไมใช้ยี่ห้อนี้, รถจุกจิก อะไหล่หายาก,ซื้อมาทำไมขายต่อก็ไม่ได้ราคา ฯลฯ
แต่ถามกลับไปว่า เคยใช้เปอร์โยต์มาแล้วเหรอ คำตอบคือ ไม่เคย เป็นส่วนมาก
รถยนต์ ถ้าเป็นรถเก่าเก่า ไม่ดูแล ก็เสียบ่อย ถ้าเอาไปซ่อมแล้ว ทำไม่เป็น ไม่เข้าใจ ไม่ถูกจุด ก็เสียจุกจิกแน่นอน ไม่ว่ายี่ห้ออะไร

เรื่องราคาขายต่อ ยังไม่ทันได้ใช้รถ แต่เรากลับคิดจะขายซะแล้ว
แน่นอนว่าราคาตกมากๆ ถ้าเทียบกับตอนซื้อป้ายแดง แต่เราได้อะไรมาระหว่างใช้
ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย แค่เรื่องเบรคกับช่วงล่าง ก็คุ้มค่าแล้ว เพราะมันช่วยให้คุณรอดชีวิตมาได้เห็นวันที่ขายรถได้ ก็น่าจะพอใจกับราคาตลาดเมืองไทยแล้วนะ

ยืนยันครับว่า ถ้าท่านยังมี 405 อยู่ในมือ และยังสามารถดูแลเขาได้ เก็บไว้ใช้เถอะครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

รีไซเคิลคลับไทย
http://facebook.com/recycleclubthai
ecco
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277


« ตอบ #11 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน 2010 เวลา 14:23:15 »


กว่าจะทำรถคันนี้ได้ขนาดนี้เสียเงินเสียเวลาและเสียแรงกายไปมิใช่น้อยครับ
เมื่อ 3-4 ปีก่อนรถคันนี้ถึงจุดที่เรียกว่าทรุดโทรมสุดขีดผมเห็นมันแล้วไม่อยากจะขับมันเลย
แก๊สนี่ติดมานานหลายปีแล้วได้ทุกคืนมาตั้งนานแล้ว
สีแตกด้าน ช่วงล่างทรุดโทรม กระจก 4 บานใช้กระจกไฟฟ้าได้บานเดียว คือหน้าซ้าย
หน้าขวา และหลังซ้ายขวาเปิดไม่ได้เลย มาเมื่อต้นปีนี้ผมเริ่มปรับปรุงทุกสิ่งทุกย่้างของรถ
1.ทำสี 16,000.-บาท ซ่อมกลอนประตูที่ตก ซ่อมฐานบานพักประตูหน้าขวาที่แตก
2.ซ่อมกระจกไฟฟ้าเปลี่ยนสวิทช์กระจกด้านหลัง4 ตัวใช้ของคลองถม      ตัวละ 80.-บาท 320.-บาท
3.ซ่อมเครื่องยนต์เปลี่ยนอุปกรณ์สาระพัดในเครื่องยนต์พวกซีลวาล์ว
ซีลแคมชาร์ฟ ปะเก็นฝาสูบฯลฯ  13,000.-บาท
4.เปลี่ยนยางทุกชนิดที่เรียกว่า "ช่วงล่าง" เช่น บู๊ชปีกนก/แร๊กพวงมาลัย/ยบางหุ้มแร๊ก/บู๊ชปลายสตรัท
ยางหุ้มเพลาพร้อมใส่จาระบีลูกปืนเพลาขับใหม่ทุกจุด เปลี่ยนลูกปืนล้อหน้าใหม่ 2 ล้อฯลฯ
ประมาณ 5,000.-บาท(ตัวเลขจริงจดได้ไม่ได้ดู)
5.เปลี่ยนยางขอบประตูใหม่หมด ประมาณ 2,000.-บาท ไม่ใช่ยางของแท้แต่ใกล้เคียงมากๆ
6.เปลี่ยนจานเบรคใหม่เป็นจาน 2 ชั้นความโต 266 มม.เท่าเดิม คาลิปเปอร์จากซีตรอง ZX2.0
(หรือจากเปอร์โยต์ 306 ตัว 1800 ก็ได้เหมือนกัน)
7.เปลี่ยนสปริงเป็นของ 306 ตัวนอกขดสปริงน้อย 5-6 ขด รถสูงขึ้นราว 4 ซม.จาก 60 เป็น 64 ซม.
8.ติดรีโมทเซ็นตอร์ล๊อกใหม่ 900.-เป็นค่าของ 700  ค่าแรง 200
(ไม่ได้เปลี่ยนตัวล๊อกเพราะยังใช้ได้อยู่เปลี่ยนเฉพาะตัวรีโมท)
9.เปลี่ยนสายคันเร่ง ของเดิมใช้มา 18 ปีแตกในเป็นท่อน ๆ ทำให้ฝืดเวลาขับแล้ว
ต้องออกแรงเหยียบหนักมากทำเองจากสายเกียร
/สายเกียร์/เปลี่ยนสายไมล์ใหม่หมด
 สายไมล์โมดิไฟเองเพราะเป็นสายของเทียม
ไม่เจ๋งเท่าของแท้ต้องโมดิฟายใหม่จึงใช้ได้ดี
คือปลายสายที่โผล่ออกมาน้อยเกินไปต้องตัดปลอก
สายประมาณ 2 ขด แล้วแต่งใหม่ให้เรียบจึงใส่เข้าไปใหม่
10.เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
11.เปลี่ยนหม้อน้ำใหม่โดยเปลี่ยนเฉพาะรังผึ้ง 3,000.-บาทตัวกรอบและพักน้ำ
ของเดิม ทำที่ร้านบางขุนนนท์ ไม่มีปัญหาที่ความร้อนไม่ว่ารถติดขนาดไหนไม่เกิน 90  องศา
ปกติก็ 80 กว่า ๆ ตลอด
12.เปลี่ยนหม้อต้มแก๊สใหม่เป็นของโทมาเซโต้ 3,000.-บาท
13.เปลี่ยนยางใหม่ 4 ล้อ /ตั้งศูนย์ใหม่  8,000.-บาทเศษ จำเศษไม่ได้
14.เปลี่ยนไดสตราร์ทใหม่(ของเก่า)1,500.-บาท ยี่ห้อวาลิโอ ของเก่าเวลา
สตาร์ทดังแครก ๆๆๆ เปลี่ยนเองไม่เสียค่าแรง
15.เปลี่ยนโบลวเวอร์แอร์เป็นของนิปปอนเด็นโซ่ญี่ปุ่น โมดิฟายเล็กน้อยทำเอง
โดยใช้ตัวพัดลมและมอเตอร์ญี่ปุ่นใช้ฐานของเดิมติดรถ
ใช้ได้ดีลมแรงเหมือนเดิม  350.-บาท

นอกจากนี้ยังมีของสาระพัดจุกจิกที่ปรับปรุงดัดแปลงใหม่
ส่วนใหญ่จะทำเองถ้าทำได้

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
เฟืองทอง
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,870


« ตอบ #12 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน 2010 เวลา 15:24:29 »


เป็นสีที่ผมชอบจริง ๆ แต่เวลาหาซื้อไม่เคยเจอ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ecco
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277


« ตอบ #13 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2010 เวลา 08:19:46 »


ปรับปรุงเบรค 405 GR จากของเดิมของติดรถ  จานทึบชั้นเดียว เป็นจาน 2 ชั้น มีร่องระบายอากาศ




ดุมล้อมาตรฐานติดรถของ 405GR ลูกหมาก(Ball joint) รับปลายสตรัท จะติดอยู่กับปลายสตรัท เบ้าตัวรับลูกหมากจะอยู่ที่ปลาย
ปีกนก เป็นแบบฝังเกลียวที่ปลายสตรัท ตรงกันข้ามกับของ 306 หรือ ซีตรอง ZX ที่ลูกหมากติดอยู่กับปลายปีกนก เบ้ารับอยู่ที่
ปลายสตรัท  




จานเบรคมาตรฐานของ 405GR ประมาณ 266 มม.เท่ากับของ 306 ตัว 2000 16V แต่เป็นจานคนละแบบ ของ 405GR เป็นจานทึบ
ชั้นเดียว ไม่มีร่องระบายอากาศ ส่วนของ 306 ตัว 2000 และซีตรอง X-Sara จะเป็นจาน 2 ชั้น มีร่องระบายอากาศ ขนาด 266 มม.
แต่ถ้าเป็นจานเบรคมาตรฐานติดรถของ เปอร์โยต์ 306 ตัว 1800  และ ซีตรอง ZX 2.0 และ 1.8 จานจะเป็น 2 ชั้นขนาด 246 มม.
นะครับ ดังนั้นจะต้องเป็นจานจากรุ่น 2000 ตัวเครื่อง 8 วาล์วนะครับ ไม่ใช่จากตัวเครื่อง 16 วาล์ว และ Citroen X-Sara เท่านั้นนะครับ





ลองเอาเฉพาะจานเบรค2 ชั้นของ 306 ตัว 2000 ใส่เข้าไปแทนจานเดิมติดรถ ปรากฏว่าใส่ได้พอดี แต่ติด Caliper
ขันน๊อตแล้วติดหมุนไม่ได้   ก็คือถ้าใส่จานใหญ่ จะใช้ Caliper เดิมไม่ได้ ต้องเอาคาลิปเปอร์จากตัว 2000 8 วาล์วเท่านั้น ตัว 16 วาล์ว
ก็ใช้ไม่ได้เพราะคาลิปเปอร์ใหญ่กว่ามาก ๆ กำลังหาิวิธีเอามาใส่อยู่ ท่านผุ้รู้ท่านไดเคยทำได้กรุณาแบ่งปันความรู้บ้างนะครับ


 


ลองเอา Caliper จาก 306 ตัว 2000 หรือ Citroen X-sara ใส่เข้าไป ปรากฏว่าใส่ได้พอดีเป๊ะ แต่มีปัญหาเล็กน้อยถ้าจะใส่ล้อดาวล้อเดิม
ของ 405 GR ขนาด 14 นิ้ว มุมคาลิเปอร์ติดเบียดกับด้านในของล้อ  เล็กน้อยเบียดกัน ประมาณ 1 มม. คาลิปเปอร์ที่เอามาใส่ยี่ห้อ LUCAS
นะครับ ตามเว็บต่างประเทศเขาบอกจะให้ดีต้องของ Bosch เพราะลูกสูบเบรคจะใหญ่กว่าของ LUCAS แต่จะอยู่ในซีตรอง X-sara
บางรุ่นที่ไม่ค่อยมีเข้ามาเป็นบางช่วงอาจจะมี ถ้าท่านหาของ ถ้าเลือกได้ให้หาของ Bosch นะครับ แต่ผมเองก็หาไม่ได้





เปรียบเทียบความหนาของจาน ซ้ายเป็นของเดิม 405 GR ขวา เป็นของ 306  ตัว 2000 เครื่อง 8 วาล์ว(ไม่ใชจากตัว 2 พันเครื่อง 16 วาล์ว)







เปรียบเทียบความโตของจาน ซ้ายเป็นจานชั้นเดียวมาตรฐานติดรถ ขวาเป็นของ 306  2000 จาน 2 ชั้น เส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากัน





ประกอบ Caliper กับ จานเข้าไปแล้ว พอดี ถ้าเป็นล้อ 15  นิ้วขึ้นไป ใช้ได้ดีเลย แต่ถ้าเป็นล้อ 14 นิ้วเช่นล้อดาวล้อเดิมจะเบียด
กับคาลิปเปอร์ประมาณ 1 มม. ผมตัดสินใจเจียร์มุมที่เบียดออก เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่น่าจะมีผลอะไรกับความปลอดภัย
เพราะไม่ได้เจียร์ออกมาก และเจียรเฉพาะมุมๆ ของ Caliper เท่านั้น







ประกอบเสร็จเพื่อความสวยงามก็พ่นสีแดง ๆ ซะหน่อยให้มันดูขลัง ๆ แน่นอนว่าไม่มีผลอะไรกะการใช้งานนอกจากจะเอาสีพ่น
ใส่ผ้าเบรค อันนี้มีผลแน่นอน ตอนพ่นก็ระวัง ๆ เอาละกันครับ




ใส่ใช้งานได้แล้ว



ผลการใช้งานการเบรคไม่รู้สึกว่าเบรคดีขึ้นแต่ประการใด อาจจะมีผลเรื่องเบรค Fade แต่ยังไม่เคยเอาคันนี้ไปวิ่งขึ้นเขาลงเขา
เลยยังไม่มีโอกาศพิสูจน์ว่ามันจะระบายความร้อนดีหรือไม่ แต่ที่ผมเอามาใส่เพราะมีวัสดุเหลือใช้อยู่จากการ UP Citroen ZX
ของผม จึงเอาของเหลือใช้มาใส่ Peugeot 405 GR คันนี้เพื่อความสนุกสนานและสนองความพอใจเท่านั้น นี่คือคำตอบของ
บางคนที่จะถามว่าของเดิม  ๆ ก็ดีอยู่แล้ว ทำไปทำไม จริงๆ ของเดิมติดรถเขาก็ดี แต่ต่อมามีของที่ดีกว่าแล้วสามารถนำมา
ปรับปรุงรถของเราได้ ก็ควร แต่ไม่ใช่ดัดแปลงข้ามรุ่นข้ามพันธุ์ อันนั้นก็ว่ากันไปอีกเรื่องหนึ่งนะครับ บางคนเขาชอบ
ของเขาอ่ะนะของพรรณนี้ว่ากันไม่ได้ครับ




แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
40 ha
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 958


« ตอบ #14 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2010 เวลา 10:06:08 »


ของเดิม  gr ชั้นเดียว เคยขับลงภูทับเบิก ม้น fade นะครับ เบรคหนัก ๆ ก็เป็น แถมหลังเป็นดรัมระบายความร้อนไม่ดีอีก แต่การใช้งานปรกติไม่มีปัญหาอะไร
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ecco
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277


« ตอบ #15 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2010 เวลา 13:25:34 »


ของเดิม  gr ชั้นเดียว เคยขับลงภูทับเบิก ม้น fade นะครับ เบรคหนัก ๆ ก็เป็น แถมหลังเป็นดรัมระบายความร้อนไม่ดีอีก แต่การใช้งานปรกติไม่มีปัญหาอะไร

ขอบคุณที่มาเล่าประสบการณ์ครับ
ท่านอื่น มีประสบการณ์อะไรเกี่ยวกับเบรค 405GR เล่าสู่กันอ่านบ้างนะครับ
จนถึงวันนี้เปลี่ยนมาหลายเดือนแล้วแต่ยังไม่ได้ลองใช้งานจริงแบบโหดๆ
เช่นขึ้นเขาสูงหรือเบรครุนแรงอะไรเลยครับ เพราะไม่ค่อยได้ไปไหนครับ
อยู่แต่บ้าน อย่างมากไปซื้อของซื้อกับข้าวแถว ๆ บ้าน ไม่เกิน 10 โล 20 โลครับ

ท่านที่ใช้ 405SRI ขอแรงสักหน่้อยได้ไหมครับ ผมอยากทราบความสูงจากพื้นถึงขอบ
ซุ้มล้อหน้าหน่อยครับ ว่ามีช่วงความสูงสักกี่เซ็น คัน GR ของผมตอนนี้สูงอยู่ 61 ซม.
ผมรู้สึกว่ามันต่ำมาก บางทีขึ้นลงคอสะพานแรง ๆ มันครูดใต้ท้องบ่อยเลยตกใจหมด
อยากเปลี่ยนสปริงซักหน่อย ตอนนี้ยังใช้สปริงเดิมของ 405GR อยู่เลยครับ ทั้ง ๆ
ที่เปลี่ยนเครื่องมา 7-8 ปีแล้ว








แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ecco
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277


« ตอบ #16 เมื่อ: วันพุธที่ 01 ธันวาคม 2010 เวลา 23:49:42 »


วันนี้ไปซื้อสตรัทหน้าของ 306 เครื่อง 2000 สปริงมี 5(หรือ 6)ข้อ มาเปลี่ยนสปริงเดิมของ 405 GR ของติดรถแล้ว
สปริงติดรถเดิมของ GR โตขนาด 12.7 มม.แต่เตี้ยกว่าสปริง 5 (หรือ6)ข้อ ของ 306 ตัว 2000 อยู่ราว 1.5 นิ้ว
(เปรียบเทียบตอนสปริงเป็นอิสระ) แต่ไม่ได้วัดจริงจัง กะ กะ เอาเท่านั้น สปริงของ 306 โตขนาด 13.2 มม.รวม
ความว่าสปริง306 โตกว่า 405GR อยู่ 0.5 มม.(ครึ่งมิล) แต่สูงกว่า(เมื่ออิสระ) กระบอกโช๊คหน้าของ 306 สั้นกว่า
กระบอกโช๊ค 405 GR ราว 1 นิ้ว แต่ความโตเท่ากัน ใส่กันได้ ตอนนี้ผมลองเอาโช๊ค 306 ลองใส่ดูสักพักก่อน
จากการทดลองขับความนุ่มเป็นที่น่าพอใจ เดิมลงหลุมเช่นขอบท่อระบายน้ำที่อยู่กลางถนน จะรู้สึกกระแทก
ปึ้ง ๆ แต่ตอนนี้ลงนุ่ม ๆ สรุปว่า พอใจ  หน้ารถสูงขึ้นกว่าเดิม ราว 2 เซ็นต์ครับ

แต่อาการที่ยังไม่ค่อยชอบตอนนี้คือเลี้ยวเร็ว ๆ แรงๆหน่อย รถเอียงมีอาการ  วูบวาบ อาจจะเป็นที่โช๊ค 306
 อันที่ติดสตรัทมาอาจจะนิ่มไปหน่อย ถ้าขับข้า ๆไปเรื่อย ๆ คงจะน่าพอใจแล้ว แต่ถ้าขับแบบสปอร์ตหน่อย
วูบวาบเหมือนกัน แต่จะลองใช้ดูสักพักก่อน ก่อนที่จะเสียเงินซื้อโช๊คใหม่


มาสารภาพภายหลังหน่อยนะครับว่าผมนี้ช่างสัพเพล่าซะจริง ๆ ผมลืมขันน๊อตเหล็กกันโครงไปข้างหนึ่งครับ
หลังจากลองรถเสร็จแล้วผมกลับมาพิจารณาใหม่ ว่่าอาการโคลงแบบนี้ผมไ่ม่เคยพบในรถเปอร์โยต์คันนี้มาก่อน
น่าจะมีอะไรสักอย่างผิดปกติ จึงได่ทบทวนสิ่งที่ทำไปใหม่ ไล่กวดนัททีละตัว ในที่สุดพบว่าน๊อตยึดกันโคลง
ด้านล่างขวา ลืมใส่และไม่ได้ขันครับ หลังจากใส่เข้าที่ ตอนนี้ขับเป็นปกติไม่ส่ายเป็นงูเลื้อยยามลองขับแบบ
ซิกแซ๊กสลาลอมแล้วครับ  นิสัยยามขับขี่ดีขึ้นยังกะคนละคันแล้วครับ(ข้อความนี้มาปรับปรุงภายหลังจากพบ
ความผิดปกติแล้วครับ)




พอดีลืมถ่ายรูปไว้ พอนึกขึ้นได้มือดำ ๆ เลยไม่ได้่ถ่ายเลยครับ


แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ecco
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277


« ตอบ #17 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 03 ธันวาคม 2010 เวลา 23:34:26 »


การเอาสปริง 306 ตัว 16 วาล์ฺวกะโช๊ค 306 ที่มากะสตรัท มาใส่ ทำให้บุคคลิกภาพการขับขี่เปลี่ยนไปมาก
มันนุ่มนวลตกหลุมเล็กๆ เช่นฝาท่อระบายน้ำ กทม.ไม่ตึ้ง ๆๆ แล้ว มันจะนุ่ม ๆ อย่างที่อยากให้เป็น ต่างกับ
สปริงเดิมของ 405 GR  เป็นอย่างมากอย่างที่เรียนให้ทราบแล้ว จริงๆ ช่างคนที่เปลี่ยนเครื่องให้ผม เขา
แนะนำให้ผมเปลี่ยนสปริงเอาของ 405 SRI มาเปลี่ยนตั้งแต่ตอนเปลี่ยนเครื่องเมื่อ 7-8 ปีก่อนแล้ว
แต่ตอนนั้นสปริงแพง เคยไปถามร้านเอกชัย ราคาเบิกห้าง ประมาณ 6,500 บาท และผมยอมรับว่า
เสียดายเงิน และไม่รู้อีกต่างหากว่าเปลี่ยนสปริงกะโช๊คใหม่แล้วจะขับนุ่มดีปานนี้ จึงต้องขับเกวียน
มาเกือบ 10 ปี ทั้งนี้เนื่องจากไม่เคยทดลองขับรถเปอร์โยต์คันที่สมบูรณ์ของใครมาก่อนนั่นเองครับ



หลังจากเปลี่ยนโช๊คและสปริงใหม่แล้ว การขับขี่รถคันนี้มีความสุขสัมผัสที่รู้สึกดีจากรถ
(ราคาปัจจุบัน)ราคาหลักหมื่น ได้สัมผัสแบบรถยุโรปชั้นดีราคาไม่ต้องพูดถึงทีเดียวครับ  
มันรู้สึกได้ถึงการนั่งนุ่ม ขับดีเบรคดี แอร์เย็น ท่านที่มีรถรุ่นนี้อยู่แล้วกำลังจะขายมันในราคาหลักหมื่น
(ต้น ๆ อีกต่างหาก)ถ้าท่านได้มาลองขับรถผมตอนนี้แล้วท่านจะนึกไม่ถึงว่ามันขับดีขนาดนี้เชียวหรือ
สำหรับรถยุโรปชั้นดีในราคาหลักหมื่นที่ท่านกำลังจะขายมันไปในขณะนี้  ในทำนองกลับกันสำหรับ
ท่านที่รู้วิธีแล้ว และพบรถรุ่นนี้สภาพปานกลางไม่เน่ามาก สามารถนำมาปรับปรุงที่ใช้เงินไม่มากนัก
จะสามารถได้รถยุโรปชั้นดีราคาย่อมเยา มาใช้ แต่ถ้าท่านโชคร้ายได้รถเน่ามาอาจจะไม่เป็นดั่งที่
ผมบรรยายมานี้ก็ได้นะครับ มิอาจจะมาโทษผมได้แต่ประการใดนะครับ อันนี้แล้วแต่บุญแต่กรรมเก่า
ของท่านด้วยนะครับ







มีสิ่งหนึ่งที่อยากทำ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร คือชุดคาลิปเปอร์เบรคที่ได้มากะสตรัท ลูกสูบเบรคมันใหญ่กว่า
คาลิปเปอร์ที่เอามาจาก 306 ตัว 1800 ที่ใส่อยู่เป็นอันมาก โดยเฉพาะผ้าเบรค จากชุดสตรัท 306 ตัว 16
วาล์ว มันเป็นผ้าเบรคชุดเดียวกะที่ใช้ใน 406 เอาตัวผ้าเบรคมาวางเทียบกันแล้ว ผ้าเบรคจากสตรัทชุดนี้
มันใหญ่โตกว่าที่ใช้ใน 306 ตัว 1800 (หรือที่ใช้อยู่ใน ZX2.0 ก็ตาม)


ผมเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเปรียบเทียบมาให้ดู แต่ว่าผ้าเบรคมันกว้างกว่ากันน่าจะเกิน 30 % ครับ



จะต้องทำอย่างไรจึงจะเอาคาลิปเปอร์ของ 306 ตัว 16 วาล์ว

 มาใส่ใน 405 GR ได้ครับ ท่านผุ้ใดทราบวานบอก เพราะการจะเอาคาลิปเปอร์ 306
มาใส่แทนของเดิมดื้อ ๆ ใส่ไม่ได้ครับสิ่งที่ผมคิดไว้ในใจตอนนี้แต่ไม่แน่ใจว่ามันเป็น
ไปได้หรือไม่ คือการ เอาลูกหมากปลายสตรัทของ 306 ไปวางที่ปลายปีกนกของ
ตัว 405 GR โดยทำให้ลูกหมากอยู่ในตำแหน่งเดิมของปลายปีกนกเดิมของ 405GR
จะโดยการตัดเชื่อมหรืออะไรก็แล้วแต่ จะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้หรือไม่ครับ ไม่อยาก
ใช้สตรัทของ 406 เนื่องจากเห็นว่ามันใหญ่โตเกินไปและต้องเปลี่ยนล้อและยางอีก
ยางชุดนี้ผมเพิ่งเปลี่ยน และสตรัท 306 ซื้อมาแล้วด้วยครับ สภาพสวยกิ๊กเลย
ถ้าใช้ชุดสตรัทชุดนี้ของ 306 ไม่ต้องเปลี่ยนล้อเปลี่ยนยางด้วยครับ และผ้าเบรค
ของเก่า(ผมเคยใช้ 406 มาก่อน)ยังมีสำรองอยู่ด้วย ผ้าเบรคมันอันเดียวกันคือถ้าใช้
สตรัท306 ชุดนี้ได้ทุกอย่างลงตัวครับ





แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ekachai v
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,534


« ตอบ #18 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 04 ธันวาคม 2010 เวลา 19:42:36 »


ออฟเซ็ตของจานเบรคมันไม่เท่ากันครับ ถ้าจะใส่จริง ๆ ต้องขาเบรคใหม่ (อะแดปเตอร์) ถ้าทำไม่ดีก็อันตรายครับ ผมว่าไหน ๆ แล้วน่าจะลงทุนกับชุดเบรคของ 406 ทั้งชุด แล้วหาล้อแม็กขอบ 15 มาใส่ ผมว่ามันใช้งบน้อยมากแลกกับประสิทธิภาพเบรคที่ดีขึ้นอย่างรู้สึกได้ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
G&G
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 247



« ตอบ #19 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 04 ธันวาคม 2010 เวลา 23:43:39 »


ผมใช้จาน SRI กับคาลิปเปอร์ 306 ตัว 2000 ครับ เพราะหากใช้จาน 306 ตัว 2000 จะติดคอม้าจนไม่สามารถขยับได้ เนื่องจากออฟเซตไม่เท่ากันเหมือนที่คุณเอกชัยแจ้งไว้
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ใช้รถก็ต้องเข้าใจรถ เรียนรู้ ดูเป็น อีกไม่นานก็จะซ่อมเป็นในอาการเล็กๆน้อยๆ พอนานเข้าหนักแค่ไหนก็แก้ปัญหาได้ ถึงจะไม่หมดแต่ก็เอาตัวรอดได้ในยามวิกฤตนะจะบอกให้
ecco
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277


« ตอบ #20 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 05 ธันวาคม 2010 เวลา 00:26:06 »


ผมใช้จาน SRI กับคาลิปเปอร์ 306 ตัว 2000 ครับ เพราะหากใช้จาน 306 ตัว 2000 จะติดคอม้าจนไม่สามารถขยับได้ เนื่องจากออฟเซตไม่เท่ากันเหมือนที่คุณเอกชัยแจ้งไว้


ผมไม่เคยเห็นจาน SRI ว่าเป็นอย่างไร
ปัจจุบันใช้จาน 266 มม.ของ 306 ตัว 2000 16Vอยู่
แต่ใช้คาลิปเปอร์ของ Citroen ZX 2.0 มันเข้ากันได้ดี
แต่ผ้าเบรคมันเล็กนิดเดียว เมื่อเทียบกับผ้าเบรคของ
306 ตัว 2000 16วาล์ว เพราะมันใช้ผ้าเบรคเดียวกับ
406แผ่นมหิมา ผมลองเอาคาลิปเปอร์ของ 306 ตัว 2000 16
วาล์วเทียบแล้ว  นอกจาก offset ไม่ได้แล้ว
(อาจจะรองชิมแลเพิ่มความยาวน๊อตได้ทดลองแล้วตรงนี้แก้ไขไม่ยาก)
แต่ ตัวคาลิปเปอร์ยังลอยออกนอกรัศมีจานของ 306 ตัว
2000 16 วาล์วด้วย   แต่ถ้าเอามันมาทั้งสตรัทได้
จะลงตัวทุกอย่าง แต่มันติดที่ลูกหมากปลายสตรัท
มันลงกันไม่ได้  และที่สงสัยอีกอย่างหนึ่งคือดุมล้อ
มันมีช่วงเท่ากันระหว่าง 306 16v กับ 405 GR
หรือไม่ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
Lucifer
สิงห์มืออาชีพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529


« ตอบ #21 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 05 ธันวาคม 2010 เวลา 08:49:59 »


เพิ่งเข้ามาอ่าน ผมเองไม่เคยถอดดูจานเบรกมาก่อน เพิ่งเห็นจากรูปนี่แหละว่ามันใช้น็อตเล็กๆ แค่สองตัวยึดจานเอง ดูเหมือนไม่น่าจะอยู่เลยกับแรงกระทำตอนเบรคแรงๆ น่าทึ่ง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ekachai v
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,534


« ตอบ #22 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 05 ธันวาคม 2010 เวลา 10:58:32 »


เพิ่งเข้ามาอ่าน ผมเองไม่เคยถอดดูจานเบรกมาก่อน เพิ่งเห็นจากรูปนี่แหละว่ามันใช้น็อตเล็กๆ แค่สองตัวยึดจานเอง ดูเหมือนไม่น่าจะอยู่เลยกับแรงกระทำตอนเบรคแรงๆ น่าทึ่ง
ไอ้เจ้าน๊อตสองตัวเล็ก ๆ ทำหน้าที่ประคองจานเบรคไม่ให้หลุดออกจากดุมล้อตอนถอดล้อครับ ไม่ได้รับแรงเบรคอย่างที่คุณคิดครับ อย่าลืมว่าจานเบรคจะถูกล้อกดทับและยึดด้วยน๊อตล้ออีก 4 ตัว น๊อตล้อเป็นตัวบังคับจานเบรคไม่ให้ขยับครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
Lucifer
สิงห์มืออาชีพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529


« ตอบ #23 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 05 ธันวาคม 2010 เวลา 15:02:57 »


จริงสิเนอะ ลืมไป ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!