ก็อย่างที่คุยกันวันนี้แหละคุณเจมส์......คำว่ามิตรภาพมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ถึงเราจะมีเงินทองมากมายมหาศาลก็ใช่ว่าเราจะได้ครอบครองสิ่งนั้นได้... มิตรภาพ..จะเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่ใช่ด้วยใจต่อใจแล้วผมบอกได้เลยว่า ไม่มีแล้วคำๆนี้และมันก็จะไม่เกิดขึ้นเลย และเมื่อมิตรภาพเกิดขึ้นแล้วก็เป็นสิ่งที่เราต้องรักษามันเอาไว้ให้ยั่งยืน ไม่ว่าด้วยทางตรงหรือทางอ้อมที่สำคัญของการรักษามิตรภาพที่ดีให้ยั่งยืนตลอดไปมันต้องใช้ใจประสานใจ "ด้วยความจริงใจต่อกันและกัน" สิ่งที่ผมได้มาในวันนั้นมันมีค่ามากกว่าคำว่าคนรู้จักกัน ผมพูดได้แค่นี้แหละคุณเจมส์ ถ้าคุณเข้าใจความหมายที่ผมบอกไป และ ความรู้สึกของผมที่ผมได้รับมา นั่นแหละคือสิ่งที่คุณเคยได้รับและสัมผัสมาก่อน.......แต่..ตรงข้ามกัน ถ้าใครไม่เข้าใจความหมายและความรู้สึกของคำว่ามิตรภาพ คุณคือ........" ผู้ที่ไร้ซึ่งเพื่อน...ที่อยู่แต่เพียงผู้เดียวในโลกของคุณ....ก็แค่นั้น"
ขอบคุณด้วยใจที่ออกจากใจที่แท้จริง...ถ้าไม่มี vlovepeugeot ไม่มีวันที่รวมกลุ่มกัน ไม่มี พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ในวันนั้น ผมคิดว่า มิตรภาพแบบนี้คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะเดินทางมาถึงผม...................

อ่านแล้วก็ชื่นใจ....(ไม่นึกว่าคนอย่างคุณก้องจะพูดได้กินใจ เป็นงานเป็นการขนาดนี้) อะอะ ฮ่า
คนเราเนี่ยดูกันที่หน้าตาไม่ได้จริงๆ นะ อย่างคุณก้อง สิงห์สำราญ เนี่ย ไม่เคยเห็นหน้า เห็นเหน็บแดงแก้วแต่ละดอก ทั้งแรงทั้งเจ็บๆ คันๆ (นึกในใจ ท่าทางกวนประสาท กวนโอ้ยน่าดู) พอเห็นรูป โอ้โห ท่าทางจะผ่านโลกมาเย๊อะ (หน้าตาไม่น่าคบหาสมาคมเลยจริงๆ)
แต่พอมาเจอตัวจริง แม้....เป็นเหมือนที่คิดหมด ฮ่าๆๆๆ (ยกเว้น อีตานี่น่าคบว่ะ)
แต่แค่เจอกันวันแรก มัยเราเหมือนรู้จักกันมาเป็นแรมปี สนิทสนมกันอย่างรวดเร็วมาก (กรรมแต่ชาติปางก่อนป่าวเนี่ย)
ถึงแม้จะเที่ยวเดินแขวะชาวบ้านชาวช่องเขาไปทั่ว แต่ก็เป็นสีสันของชีวิต (ขาดฉันแล้วเธอจะเหงา)
เมื่อวานเย็น ยังมีกะจิตกะใจ โทรมาชวนเราไปนั่งดื่มอีก (คนเราอะไรจะเฮฮาได้ทุกสถานการณ์จริง)
แต่ วังหิน - สมุทรปราการ มันไม่ใกล้กันซะด้วย (ถือว่าโชคดีนะเนี่ย อิอิ)
แต่พอบอกว่าอยู่สมุทรปราการ มีการถามถึงแถวหลังสเตดด้วยนะ (ร้ายไม่เบานะตัวเองเนี่ย)
อยู่แถวโน้น รู้มาถึงแถวนี้ อึ้ม เสือนะเนี่ย นายคนเนี้ย.....

[/quote]
แหมพี่เจษ..คนเรามันจะทุกข์จะเศร้าใจกันไปถึงไหนล่ะพี่ โดยส่วนตัวของผมนะผมไม่ชอบคิดกับสิ่งที่ผ่านมาแล้ว อันนั้นคืออดีต จะดีหรือไม่ดีเราก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แต่อาจจะนำมาเป็นข้อคิดสำหรับวันต่อๆไป ส่วนอนาคตไม่ต้องพูดถึง ผมยิ่งไม่ชอบคิดเลยมันเหมือนกับการเพ้อฝันลมๆแล้งๆไปวันๆ ไม่สามารถที่จะจับต้องได้ยิ่งหวังอะไรเอาไว้มากมาย ตัวเราก็จะเจ็บปวดมากมายเป็นเท่าตัว.....แง่คิดของผม ผมคิดแค่สั้นๆแค่ปัจจุบันตรงที่ผมมีชีวิตอยู่ ผมรู้ว่าผมทำอะไร ตั้งเป้าหมายอะไรไว้ตรงไหน ก็แค่ตรงนั้น... ผมไม่เคยคิดอะไรที่ไกลๆ เพราะยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ผมอาจดูเหมือนคนไร้สาระแต่ผมมีความสุข....แล้วพี่เจษคิดว่า..คนที่มีแต่สาระ มีหลักการ มีรากฐานทางความคิดที่เข้มข้น มีมาตรฐานในการดำเนินชีวิตที่เป็นเส้นตรง ต่างๆเหล่านี้ พี่ลองถามพวกเขาเหล่านี้ดูสิว่า...............เขามีความสุขหรือเปล่า..เคยได้ยิ้ม...ได้หัวเราะ.....เคยสนุกเฮฮาบ้างมั้ย
แต่สำหรับผม.....ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับปัจจุบันในชีวิตประจำวันของผม นั่นคือความสุขของผม ผมจะมองว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องที่มีสาระสำคัญของชีวิต.....ผมจะแปรสภาพทุกๆอย่างให้มันไร้สาระเข้ากับใจผม เพราะฉนั้นทุกปัญหาที่เกิดไม่ว่าจะหนักมากมายหรือน้อยนิด ผมก็ต้องสนุกกับมันในทุกๆเรื่องเพื่อผมจะได้มีความสุข....................สุขทั้งกายสุขทั้งใจ จริงๆ


