...(ขออนุญาตปิดกระทู้) ....แดงแก้ว...!!!

อ้างจาก: J?S?...??? ที่ วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2011 เวลา 08:32:59

อ้างจาก: 505k ที่ วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2011 เวลา 17:13:53

ตั้งไฟให้แก่ให้อ่อนก็ไม่ติดทั้งแก๊สและน้ำมัน เบอร์โทรศัพท์ สภ.ปิล๊อก ที่จดไว้ก็ไร้ประโยชน์ เพราะมือถือไม่มีสัญญาณ จะมืดแล้วหนาวสุดขั้วหัวใจ สงสารก็แต่ลูกเมีย พระจันทร์ขึ้นดวงกลมโต คืนนั้นจะมีจันทรุปราคาด้วย เอาไงดีหว่า รอได้แต่รอจนมีรถลงจากเขาผ่านมา จึงโบกและฝากสาส์นเขาไปบอกตำรวจด้านล่างด้วยว่า รถผมเจ๊งอยู่บนเขาไปเนินช้างศึก จร้า

อะอ้า...บันทึการเดินทาง ที่แสนจะตื่นเต้น ทริปอย่างนี้ไม่ต้องชวนพี่ไปนะ พี่ไม่ชอบ ฮ่าๆๆๆๆ
เล่าเรื่องราวได้น่าติดตามมากกกก...รอชมต่อครับ

ต่อๆ หลังจากรออยู่นานเอาการ ตำรวจแห่งสภ.ปิล๊อกก็ขับรถตำรวจขึ้นมา 2 นาย ตามาด้วยสารวัตรและนายดาบอีก 1 นาย รวมเป็น 4 นาย แต่ตำรวจก็ไม่มีสายลากรถ และถึงจะลากลงไปก็อันตรายเพราะทางลงเขาเครื่องไม่ติดเบรกลำบาก เดี๋ยวจะโดนข้อหาขับรถชนท้ายรถตำรวจเสียหายจะซวยไปใหญ่ 555 สรุปจึงใช้วิธีช่วยกันเข็นรถผมให้ไหลลงเขาไปเรื่อยๆ โดยผมใช้วิธีใส่เกียร์ 2 เหยียบครัชลงไป พอถึงทางโค้งก็ปล่อยครัชให้เกิดแรงฉุดเพื่อเบรก

รถไหลลงเขามาประมาณ 3 กิโล เกือบถึงโรงพักอยู่แล้ว ทางดันเป็นเนินทำให้รถหมดกำลังคาเนินต้องช่วยกันเข็นอีกประมาณ 50 เมตร มาจอดที่สนามฟุตบอลหน้าโรงพักได้ ตำรวจพาเราไปส่งที่พักและนัดว่าจะไปรับตอนเช้าเพื่อเข้าไปเที่ยวและกินข้าวเช้าที่ตลาดอีต่องก่อนจะมาส่งดูรถอีกที

อ้อ! ลืมบอกไปว่า ตอนไหลลงเขามา ลูกเมียไม่ได้นั่งมาด้วยหรอกนะครับ ให้นั่งรถตำรวจตามลงมา เมียบอกว่าตอนเห็นรถผมไหลลงเขาไปลับตา คิดในใจว่า "ชาตินี้จะได้เจอกันอีกหรือเปล่านี่ เพราะกลัวว่าผมจะตกเหวไปซะก่อน"