อ่ะงั้นคนบางแสนจะสอนคนนครพนมทำอุ
สิ่งที่ต้องเตรียมคือ
1.ข้าวเหนียว
2.แกลบ
3.ไห (และ โอ่ง)
4.พลาสติก, ปูนสำหรับผนึก
หรือถ้าเอาสูตรดั้งเดิมจริงๆ จะใช้ใบตองกับขี้เถ้า หรือถ้าปรับเป็น พลาสติกกะขี้เถ้าก็ได้
วิธีการทำนะครับ
ขั้นแรก ให้เอาข้าวเหนียว มาแช่ไว้คืนนึงครับ บางสูตรเค้าก็จะล้างแกลบแล้วผสมกับข้าวเหนียวแช่ทิ้งไว้้เลย ว่ากันว่า จะทำให้อุ มีความหอมมากขึ้น
หลังจากแช่ผ่านไปคืนนึงแล้ว ถ้าใครยังไม่ได้ใส่รวมกับแกลบ ก็ให้ล้างแกลบมาผสมและแช่ทิ้งไว้อีกซักพักนึง จากนั้นเอาข้าวเหนียวและแกลบไปนึ่งให้สุกหอม เลย แล้วเอามาผึ่งไว้ให้เย็นนะครับ
พอมันเย็นแล้ว ก็บดลูกแป้งเอาลงมาคลุกเคล้ากันให้ทั่วครับ ย้ำอีกทีว่าแป้งต้องเย็นไม่งั้นเชื้อตายหมดนะครับ
นำข้าวเหนียวที่คลุกแล้ว ใส่ลงไปในโอ่งใหญ่ก่อนนะครับในกรณีที่ทำไว้เยอะ ใส่โอ่งไว้ พอครบหนึ่งอาทิตย์ ก็ให้แบ่งจากในโอ่งใหญ่ มาใส่ไหไว้หมักไว้ ต่ออีกสองอาทิตย์
แต่ถ้าทำน้อยๆ และหมักในไห ก็หมักยาวเลยครับ สามอาทิตย์
ขั้นตอนในการปิดผนึกไห นะครับ ให้เอาพลาสติก หรือใบตองที่เตรียมไว้ ปิดปากไห แล้วใช้เชือกรัดไว้ จากนั้น ให้นำขี้เถ้าผสมน้ำให้พอที่จะปั้นได้ ไม่เละเกินไป พอกปิดปากไว้นั่นล่ะ ถ้าใครใช้ปูนก็พอได้นะ พอกปิดไว้แทน แล้วก็ทิ้งไว้
วิธีการกินนะครับ
เมื่อได้เวลาแล้วก็ให้เปิด ผนึกครับ แล้วเติมน้ำดื่มลงไป จะยี่ห้ออะไรก็ได้เมาเหมือนกัน หรือถ้าต้องการรสชาติใหม่ๆ ใส่สไปร์ก็ได้ (ซ่าดี) หรืออยากเอากันให้ตายเลยนะครับ เหล้าโรง 40 ดีกรนี่ล่ะ หวดลงไปเลย รับรองพับหลับคาไห
พอเติมน้ำลงไป ให้รอประมาณ 10 นาทีครับ ถ้าใครรีบไม่ไหวแล้ว 5 นาทีก็พออนุโลม ให้ได้ (ประดุจดั่งเหล้ากึ่งสำเร็จรูป)
เอาหลอดจุ่มลงไปแล้วดูดเลยนะครับ ระหวังอย่าดูเอาเศษๆ มันขึ้นมาล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน แต่ถ้าเป็นแบบดั้งเดิมก็จะเป็นต้นอ้อ เอามาหักให้ได้ขนาดพอเหมาะ ล้างๆ หน่อยจิ้มดูดเลย
ขอเตือนนะครับ สำหรับมือใหม่หัดขี่ช้าง (กินอุ) อย่าดูดหนัก เพราะเห็นพับคาวงมานักต่อนักแล้ว โดยเฉพาะน้ำแรกที่เติมไป ต่อมาคือ พอมันใกล้หมด ก็เติมน้ำลงไปอีกได้ กินต่อได้ อีกอย่างนึงคือ กินแล้ว อย่าลุกไปไหนครับ เพราะอาการมันมักจะมาตอนลุกนี่ละ นั่งกินสนุก พอลุกแล้ววูบ เลยเหอๆ
สุดท้ายอย่าลืมเตรียมสาวภูไทมาดูดอุเป็นเพื่อนนะครับ
ผู้เขียน
