ส่วนตัวผมมองว่าน่าสนดี
ถูกน่าใช้ดีครับ ราคาเค้าว่าไม่ถึง 4 แสนบาท
ราคา เริ่มต้นอยู่ที่ สามแสนปลายๆ รุ่นท๊อปสุดไปหยุดที่ ห้าแสนต้นๆ
มีทั้งหมดเจ็ดรุ่น มีสีให้เลือกมากกว่า TIIDA ...คร้าบ
พร้อม สเปค ที่มากับรถ (แล้วแต่รุ่น) คือ
-ระบบ สตาร์ท แบบ CAN มี Intelligent Key เปิด-ปิดล็อกโดยไม่ต้องใช้กุญแจ
-สตาร์ท เครื่องยนต์โดยใช้ปุ่ม สตาร์ท-สต็อป เอ็นจิน เหมือนรถยนต์ระดับพรีเมียม
ด้าน ระบบความปลอดภัยได้รับการพัฒนาให้ได้มาตรฐานยุโรป
-ระบบเบรกเอบีเอส ABS พร้อมระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA
-ระบบเบรก ล้อหน้าเป็นแบบดิสก์ ด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก
รุ่นท็อปสุดจะเพิ่มถุง ลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารคู่หน้า Dual Airbags และมีระบบช่วยถอยจอด Rear Sensors 4 จุดเหมือนอย่างนิสสัน เทียน่า ใหม่ พร้อมเพิ่มความอุ่นใจมากขึ้นด้วยระบบกันขโมย กุญแจ Immobilize
มิติ ของนิว นิสสัน มาร์ช จะมีขนาดใกล้เคียงกับโตโยต้า ยาริส คือ
- ยาว 3,780 มม.
- กว้าง 1,665 มม.
- สูง 1,525 มม.
- ความยาวฐานล้อ 2,450 มม.
- น้ำหนักรถ 945 กก.
- ภายในห้องโดยสารยาว 1,688 มม.
ดีลเลอร์นิสสันแห่เปิดรับจองอีโคคาร์ คาดเปิดตัวนิสสัน มาร์ช โฉมใหม่ครั้งแรกในโลก เดือนมีนาคมนี้ ราคาเริ่มต้นไม่เกิน 4 แสน ในรุ่นเกียร์ธรรมดา เครื่อง3 สูบ 1.2 ลิตร. 74 แรงม้า ประหยัดน้ำมัน 25 กม./ลิตร เชื่อลูกค้าถอนจองมาสด้า 2 แห่มาซื้อเพียบ
แหล่งจากบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า หลังจากที่นิสสันประกาศที่จะผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานหรืออีโคคาร์ ภายในปี 2553 ล่าสุด ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้ติดป้ายรับจองรถอีโคคาร์แล้ว โดยวางเงินจองเพียง 5,000 บาทเท่านั้น แม้ว่าจะยังไม่เห็นรถตัวจริงๆและราคาจำหน่ายที่แท้จริง แต่มีผู้สนใจจำนวนหนึ่ง ยอมวางเงินจองล่วงหน้าไปแล้ว เพราะต้องการได้รถมาใช้ก่อนคนอื่น โดยคาดว่า ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่กว่า 100 ราย จะมียอดจองไม่น้อยกว่า 10 คัน รวมแล้ว มียอดจองล่วงหน้ากว่า 1,000 คันอย่างแน่นอนแล้ว
"ขณะนี้ นิสสันกำลังเตรียมจัดงานเปิดตัวครั้งใหญ่ของอีโคคาร์คันแรกของประเทศไทย ในชื่อ นิสสัน มาร์ช โดยจัดงานเปิดตัวระดับโลก หรือเวิลด์ พรีเมียร์ ในเดือนมีนาคม ตามชื่อของรถรุ่นนี้ ซึ่งไทยจะเป็นฐานในการผลิตนิสสัน มาร์ช โมเดลเชนจ์ ไม่น้อยกว่าปีละ 100,000 คัน เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกขายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย ไปจนถึงอเมริกา รวมทั้งส่งออกกลับไปขายที่ญี่ปุ่นด้วย"
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า สำหรับตลาดภายในประเทศ ตัวแทนจำหน่ายมีความมั่นใจในรถนิสสัน มาร์ช มากว่า จะสามารถสร้างยอดขายให้กับนิสสันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เนื่องจากเป็นรถเล็กที่มีห้องโดยสารกว้างขวางกว่า มาสด้า 2 ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ แต่มีมิติภายนอกใกล้เคียงกับโตโยต้า ยาริส มีราคาเริ่มต้นไม่เกิน 399,000 บาท สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา ขณะที่รุ่นเกียร์อัตโนมัติ น่าจะมีราคาไม่เกิน 490,000 บาท และเกียร์แบบ XTRONIC CVT ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่มีอยู่ในนิสสัน เทียน่า โฉมใหม่ เป็นเกียร์ที่มีเทคโนโลยีเหนือกว่า เกียร์อัตโนมัติของมาสด้า 2
นอกจากนี้ ยังมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันน้อยกว่า คือประมาณ 25 กม./ลิตรเท่านั้น ทำให้คาดว่า ลูกค้าส่วนหนึ่งที่จองรถมาสด้า 2 และยังไม่ได้รับรถ อาจเปลี่ยนใจหันมาซื้อนิสสัน มาร์ช ที่ประหยัดกว่า และมีเกียร์อัตโนมัติที่เหนือกว่า และราคาที่ถูกกว่า เนื่องจากเสียภาษีสรรพสามิตเพียง 17 % ขณะที่รถนั่งขนาดเล็กอื่นๆ เสียภาษี 25 %
" นิสสัน มาร์ช ใช้เครื่องยนต์ รหัส HR 12 DE 3 สูบ แถวเรียง DOHC 12 V ความจุกระบอกสูบ 1198 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 74 แรงม้า หรือ 54 กิโลวัตต์ ให้แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด Multi-point Injection กลไกควบคุมวาล์วเป็นโซ่ตอนเดียวแบบใหม่ ซึ่งจะให้แรงบิดสูงที่รอบเครื่องยนต์ต่ำ ทำให้ออกตัวได้เร็ว มี UN Balancer 3 ตำแหน่ง คือ พูลเล่ย์หน้า, ข้อเหวี่ยงหน้า, Flywheel เครื่องยนต์เดินเงียบ เผาไหม้หมดจด ไอเสียมีค่ามลพิษต่ำที่สุดตามมาตรฐาน Euro4 เพียง 120 กรัม/กิโลเมตร และยังสามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เบนซิน ออกเทน 95 ซึ่งมีขายน้อยมากแล้ว เบนซิน อี 10 จนถึงเบนซิน อี 20 "
ทั้งนี้ นิสสัน มาร์ช พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ติดตั้งระบบสตาร์ต แบบ CAN มี Intelligent Key เปิด-ปิดล็อกโดยไม่ต้องใช้กุญแจ สตาร์ตเครื่องโดยใช้ปุ่ม สตาร์ต-สต็อป เอนจิน เหมือนรถยนต์ระดับพรีเมียม โดยในรุ่นเกียร์ A/T จะมีระบบ Idle Stop ซึ่งทำงานเมื่อมีการเบรกจนรถหยุดนิ่งขณะที่เกียร์อยู่ในตำแหน่ง D เครื่องยนต์จะดับจนกว่าผู้ขับขี่จะถอนเท้าออกจากแป้นเบรก เครื่องยนต์จะติดเองตามปกติโดยไม่มีอาการสะดุด ระบบความปลอดภัยได้รับการพัฒนาให้ได้มาตรฐานยุโรป ระบบเบรกเอบีเอส ABS พร้อมระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบเบรกล้อหน้าเป็นแบบดิสก์ ด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก รุ่นท็อปสุด จะเพิ่มถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารคู่หน้า Dual Airbags และมีระบบช่วยถอยจอด Rear Sensors 4 จุด
จากหนังสือพิมพ์ฐาน เศรษฐกิจฉบับที่ 2,501 31 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ผู้เขียน
