Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย

ผมชื่อชินนะครับ ใช้ peugeot405 Sri เหมือนพี่คนที่เขาลงกระทู้เวปเพื่อนบ้านเปอโยต์เหมือนกันครับ แต่ผมไม่กล้าถามพี่เขาเพราะเท่าที่อ่านกระทู้เหมือนเขาค่อนข้างจะแรง เลยอยากถามพี่ๆ ว่า เครื่อง Sri แรงบิดถึง 24 นิวตันเมตร เลยหรือครับ มากกว่า MI16 ซะอีก มันเป็นไปได้หรือครับ

(http://www.peugeot4you.com/forum/index.php?action=dlattach;topic=7757.0;attach=11742;image)
สำหรับกราฟนี้ เป็นกราฟในการเทสรอบแรกกับ รอบสองครับ
สำหรับแรงม้าและแรงบิดในกราฟแรก น้อยมากเหมือนรถไม่มีแรง
ส่วนแรงม้าและแรงบิดในกราฟที่สอง น่าจะตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด ( แรงที่สุดในขณะนี้ ที่รถผมทำได้ )
แรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 239.98 นิวตัน
แรงม้าสูงสุดจะอยู่ที่ 68.98 kW ครับ เห็นพนักงานที่ห้องแลปให้แปลงหน่วยเป็นแรงม้าโดยการ คูณด้วย 1.34
เพราะฉะนั้น รถคันนี้ทำแรงม้าได้สูงสุดที่ล้อ คือ 92.43 แรงม้านั่นเองครับ โอ๊วพระเจ้าจอร์ส แรงม้าตามสเปก 123 ไหงเหลือแค่ 92 ตัว ซะงั้น.........เท่าที่คุยกับคุณเบียร์เข้าใจว่า ไดโนตัวนี้ค่อนข้างแข็งครับ แต่จะแข็งกว่าพาวเวอร์แล๊ป หรือ HKS หรือเปล่าผมไม่แน่ใจนะครับ แต่ราคาถูกมาก ขึ้นวัด ราคา 1300 บาทครับต่อสองรอบ ถ้าเป็นที่อื่นต้องมี 2500 ขึ้นแน่นอนครับ

สำหรับแรงบิด ค่าสูงสุดที่ความเร็ว 70 คือ 239.98 นิวตัน ครับ ผมไม่มั่นใจว่าหน่วยเดิมของเปอร์โยต์คืออะไรใครทราบรบกวนแปลงหน่วยให้ด้วยนะครับ สำหรับความเร็ว 70 ตามไมล์รถ รอบเครื่องคือ 3500 รอบนั่นเองครับ ถ้าดูจากกราฟแรก จะพบว่ากราฟค่อยๆ ไต่ขึ้นตั้งแต่เริ่มสตาร์ทที่ความเร็ว 70 ครับ และไปหมดที่ความเร็ว 130 ครับ ( ตามไมล์รถนะครับ ) แปรว่ารถคันนี้มีช่วงพาวเวอร์แบนด์ที่กว้างมาก คือตั้งแต่ราวๆ 3000 รอบ จนถึง 6000 รอบครับ ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ในการทำรถของผมเลย คือผมไม่เน้นแรงม้า แต่แรงบิดต้องมาดี มาไว รถที่มาแรงบิดมาดีและไว จะทำให้ขับสนุกนั่นเองงงงงง

ถือว่าเป็นการทดสอบที่กึ่งทางการสำหรับรถเปอร์โยต์ของนายอาร์ตนะครับ
รอบหน้าจะมีการปรับจูนเพิ่มเติมให้สามารถจ่ายน้ำมัน อากาศและไฟให้ได้มากกว่านี้ แล้วจะกลับไปวัด ว่าม้าจะมาถึง 100 ตัวมั๊ย อิอิอิ
ปล. ช่องแรกในกรอบสีแดงคือแรงบิดรอบแรก และกรอบสีเขียวคือแรงบิดรอบที่สอง หน่วยเป็น นิวตัน N-m
      ช่องหลัง ในกรอบสีแดงคือแรงม้ารอบแรก และ กรอบสีเขียวคือแรงม้ารอบที่สอง หน่วยเป็น Kw
จบการรายงาน

พยายามอย่างมากที่จะคำนวณให้ตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉะนั้น
แรงบิดจาก 239.98 นิวตัน ถ้าแปลงให้ตรงตามสเปกคือต้องคูณด้วย 0.102 จะได้ 24.47 กก.เมตร เฮ่อออ ยิ่งตกๆ คำนวณอยู่นะเนี่ย แปลว่า เอา 24.47 - 18.3 เพราะฉะน้นแรงบิดเพิ่มขึ้น 6.17 กก.เมตร ใช่ป่าวหว่า......

ส่วนแรงม้า หน่วยเดิมเป็น 68.98 kW ต้องการแปลงเป็นหน่วย 1 kW = 1.360 ps (SAE) ก่อน
คือ 68.98x1.36 เท่ากะ 93.81 ps (SAE)

1 hp(SAE) = 1.014 ps (DIN)
แล้วถึงจะเอาค่าที่ได้คือ 93.81 ps (SAE) x 1.014 = 95.12 ps (DIN)
แปลว่า แรงม้าในหน่วยเดิมของเปอร์โยต์ทั้งสิ้นคือ 95 ตัวนั่นเอง
เอา 123 - 95 หายไป 28 ตัว คงตกหล่นแถวๆ คูน้ำข้างเกษตรมั๊งครับ ไม่ก็ตกเรี่ยราดแถวแท่นวัดแรงม้านั่นแหละ
อิอิอิอิ

ปล. ถ้าผมคำนวณผิดขอโทษอย่างแรงเพราะตอนเรียนคณิตศาสตร์และฟิสิกชั้น มัธยม ชอบลอกข้อสอบเพื่อน
อิอิอิ
ตอนเรียนมหาลัยไม่ได้เรียนคณิตศาสตร์เลย เพราะเรียนแต่ศิลปะครับ

ขออนุญาติยกข้อความบางส่วนมานะครับ รถเหมือนผมเลยเกียร์ธรรมดาเหมือนกันด้วย ทำไมตัวเลขแรงม้า กับแรงบิดมันถึงต่างจังเลยครับ ผมเลยคิดว่าเขาโม้หรือเปล่า ????
ถ้าพี่คนนี้เล่นในบอร์ดนี้ผมไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่นะครับ เพียงแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงสวนทางกัน
ผมไม่กล้าถามที่บอร์ดนู้น กลัวจะโดนต่อว่าน่ะครับ
รบกวนขอความเห็นด้วยครับ

ผมลิงค์รูปมาทำไมมันไม่ขึ้นหล่ะครับ......

????????????????????????????????????????????????
????????????????????????????????????????????????

ไม่โม้หรอก รู้จักกับเจ้าของรถคันนั้นดี รู้ว่าโมมามาก หลายเสต็ปหลายขั้นตอน (จนฝรั่งเศสคนออกแบบเองเห็นแล้ว คงจะเป็นงง..ว่ามันคิดอะไรแบบนั้นได้ไง)  วันที่เขาไปทดสอบที่ห้องแลบของเกษตร ก็อยู่ที่เกษตรเหมือนกัน แต่ไปดูด้วยไม่ได้เนื่องจากติดงานอื่นอยู่   แต่น้องเขาก็โทรมาเล่าให้ฟังในวันเดียวกันนั้นเอง

ผมก็ว่าไม่โม้มากนะ เพราะดูจากที่เขาใช้หน่วยวัดแรงม้าต่างๆ แล้วก็ถูกต้องนะ

แล้วถ้าเขาวัดแรงม้าแบบ เอารถขึ้นไปวิ่งบนรางวิ่ง ได้ เกือบ 100 ม้าก็เก่งแล้วครับ เพราะมันมีความฝืดอีกหลายตัวแปลเข้ามาเกี่ยวข้อง

ลองไปหาอ่านดูกระทู้เก่าของผมซิครับ เรื่องการวัดม้า

วิศวกร เขาไม่วัดม้าแบบที่พวกเราชอบเพราะ มันไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของเครื่องยนต์ที่เขาออกแบบ

วิ่งบนราง ความฝืดเกิดจากล้อสัมผัสกับราง ความฝืดของช่วงล่าง กำลังที่สูญเสียไปกับระบบสายพาน เครื่องใช้ไฟฟ้าในรถ ระบบเฟืองเกียร์ เยอะแยะที่ม้าจะหายไป

ไม่ได้โม้ครับ เพราะ Sri ใกล้เคียง Mi16 อยู่ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ
เมืองนอกโม ก็แรงบิดเยอะกว่านี้มากครับ นอกจากนี้ยังมีเรื่องวาว์ลและอื่นๆ อีกเยอะ จึงไม่แปลกครับ

คุณ Mr.Chin  ขึ้น Level เป็น สิงห์ประถม แล้วจะเห็นหัวข้อ Modify and Won zone นะครับ ไปหาอ่านในนั้นจะดีกว่าครับ

เจ้าของรถคันนี้ก็ได้พูดคุยกัน และทราบเรื่องอยู่บ้างนะครับ
น้องเค้าโมมาหลายอย่างเหมือนกัน ดังนั้นก็คงไม่แปลกที่จะมีแรงบิดขนาดนั้น
ส่วนจะโมอะไรบ้างต้องถามน้องเค้าเองนะครับ

ส่วนเรื่องม้านั้น ตามที่พี่ Old-big บอกนะครับ

รูปถ้าไม่ขึ้นให้ save รูปลงเครื่องก่อนแล้วค่อยมาแปะไว้ในเว๊บอีกทีนะครับ

ขอบคุณพี่ๆ นะครับ แสดงว่ารถผมก็โมได้เหมือนรถของพี่เขาใช่หรือเปล่าครับ ?

มีคนจุดธูปเรียกเข้ามาตอบ ไม่ใช่สิ ยังไม่ตาย มีพี่ๆ แจ้งทาง MSN ให้เข้ามาดูกระทู้ที่มีการพาดพิงถึงผมน่ะครับ
ขอยกมาแล้วกัน ขี้เกียจพิมพ์ใหม่แล้วน่ะ

หลังจากทำรถมาจนถึงจุดๆ หนึ่ง ทุกคนย่อมอยากรู้ว่าประสิทธิภาพรถเรานั้นมากน้อยแค่ไหน การวัดโดยการบอกว่าแรง วิ่งดี โดยไม่มีหลักการ คือวัดจากการขับขี่ มันคงเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง บางคนบอกว่า เปลี่ยนท่อ รถวิ่งดีกว่าเดิม หรือใส่เฮดเดอร์แล้วแรง แต่อะไรคือตัววัดที่มีความถูกต้องแม่นยำหล่ะ ? ดังนั้นในเมื่อทุกวันนี้มีเทคโนโลยี ที่สามารถมาตอบคำถามตรงนี้ได้ อาร์ตเลยมีโปรเจคการวัดแรงม้าขึ้นครับ เพื่อพิสูจน์ว่า ไอ้ที่ทำรถมาทั้งหมด ทั้งคำชม และคำด่า ทั้งส่งเสริง และเหยียดหยาม ว่ามันสามารถเพิ่มแรงม้า หรือแรงบิดให้กับรถได้มากน้อยเพียงใด

สำหรับรถผม เป็นเครื่องเดิม Sri 8 วาล์ว ความจุสุทธิที่ 1998 cc. ไม่มีการเพิ่มความจุแต่อย่างใน สำหรับการตกแต่งโมดิฟายขอยกไว้ละกันครับเพราะไม่ได้ทำอะไรมากนัก แค่มีแคมองศาสูง เกียร์จาก Mi16 ฟลายวิลลดน้ำหนัก ท่อไอเสีย กรองเปลือย สายหัวเทียนแต่ง และกราววายด์ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ตกแต่งพื้นฐานครับเท่านั้นเองครับ หัวฉีดยังเท่าเดิม การจ่ายน้ำมันเหมือนเดิมหมด หัวเทียนยังเดิมๆ ของ 406 นะครับไม่ได้ปรับแต่งในชุดนี้ แต่ที่ไม่เดิมคือตัวหลอกอากาศ ที่ผมซื้อมาจากอังกฤษ และข้องใจมากๆ ว่าเฮ๊ยไอ้แค่ลูกบิดมันจะช่วยให้รถเราวิ่งขึ้นได้จริงหรือไม่ ดังนั้น การวัดแรงม้าในครั้งนี้ จึงเป็นการพิสูจน์ว่ารถผมเป็นอย่างไรบ้าง และ ดูว่าไอ้อุปกรณ์หลอกแม็ปเซ็นเซอร์หน้าตาปัญญาอ่อนใช้ได้จริงหรือไม่ ( กลัวถูกอังกฤษแหกตาจริงๆ )

มาชมภาพประกอบกันนะครับ
ภาพแรกเป็นภาพของแท่นไดโนเทสครับ ซึ่งเจ้าแท่นนี้ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งอยู่ในภาควิชาวิศวะกรรมศาสตร์ ชื่อ ห้องปฎิบัติการวิจัยอิเล็กโทรนิกส์ยานยนต์ ครับ ทั้งนี้ต้องขอบคุณ คุณเบียร์ (Peugeot505) เพื่อนเปอโยต์ในกลุ่ม PG Club Racingweb มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

สำหรับกราฟนี้ เป็นกราฟในการเทสรอบแรกกับ รอบสองครับ
สำหรับแรงม้าและแรงบิดในกราฟแรก น้อยมากเหมือนรถไม่มีแรง
ส่วนแรงม้าและแรงบิดในกราฟที่สอง น่าจะตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด ( แรงที่สุดในขณะนี้ ที่รถผมทำได้ )
แรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 239.98 นิวตัน
แรงม้าสูงสุดจะอยู่ที่ 68.98 kW ครับ เห็นพนักงานที่ห้องแลปให้แปลงหน่วยเป็นแรงม้าโดยการ คูณด้วย 1.34
เพราะฉะนั้น รถคันนี้ทำแรงม้าได้สูงสุดที่ล้อ คือ 92.43 แรงม้านั่นเองครับ โอ๊วพระเจ้าจอร์ส แรงม้าตามสเปก 123 ไหงเหลือแค่ 92 ตัว ซะงั้น.........เท่าที่คุยกับคุณเบียร์เข้าใจว่า ไดโนตัวนี้ค่อนข้างแข็งครับ แต่จะแข็งกว่าพาวเวอร์แล๊ป หรือ HKS หรือเปล่าผมไม่แน่ใจนะครับ แต่ราคาถูกมาก ขึ้นวัด ราคา 1300 บาทครับต่อสองรอบ ถ้าเป็นที่อื่นต้องมี 2500 ขึ้นแน่นอนครับ

สำหรับแรงบิด ค่าสูงสุดที่ความเร็ว 70 คือ 239.98 นิวตัน ครับ ผมไม่มั่นใจว่าหน่อยเดิมของเปอร์โยต์คืออะไรใครทราบรบกวนแปลงหน่วยให้ด้วยนะครับ สำหรับความเร็ว 70 ตามไมล์รถ รอบเครื่องคือ 3500 รอบนั่นเองครับ ถ้าดูจากกราฟแรก จะพบว่ากราฟค่อยๆ ไต่ขึ้นตั้งแต่เริ่มสตาร์ทที่ความเร็ว 70 ครับ และไปหมดที่ความเร็ว 130 ครับ ( ตามไมล์รถนะครับ ) แปรว่ารถคันนี้มีช่วงพาวเวอร์แบนด์ที่กว้างมาก คือตั้งแต่ราวๆ 3000 รอบ จนถึง 6000 รอบครับ ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ในการทำรถของผมเลย คือผมไม่เน้นแรงม้า แต่แรงบิดต้องมาดี มาไว รถที่มาแรงบิดมาดีและไว จะทำให้ขับสนุกนั่นเองงงงงง

ถือว่าเป็นการทดสอบที่กึ่งทางการสำหรับรถเปอร์โยต์ของนายอาร์ตนะครับ
รอบหน้าจะมีการปรับจูนเพิ่มเติมให้สามารถจ่ายน้ำมัน อากาศและไฟให้ได้มากกว่านี้ แล้วจะกลับไปวัด ว่าม้าจะมาถึง 100 ตัวมั๊ย อิอิอิ
ปล. ช่องแรกในกรอบสีแดงคือแรงบิดรอบแรก และกรอบสีเขียวคือแรงบิดรอบที่สอง หน่วยเป็น นิวตัน N-m
      ช่องหลัง ในกรอบสีแดงคือแรงม้ารอบแรก และ กรอบสีเขียวคือแรงม้ารอบที่สอง หน่วยเป็น Kw



พยายามอย่างมากที่จะคำนวณให้ตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉะนั้น
แรงบิดจาก 239.98 นิวตัน ถ้าแปลงให้ตรงตามสเปกคือต้องคูณด้วย 0.102 จะได้ 24.47 กก.เมตร เฮ่อออ ยิ่งตกๆ คำนวณอยู่นะเนี่ย แปลว่า เอา 24.47 - 18.3 เพราะฉะน้นแรงบิดเพิ่มขึ้น 6.17 กก.เมตร ใช่ป่าวหว่า......

ส่วนแรงม้า หน่วยเดิมเป็น 68.98 kW ต้องการแปลงเป็นหน่วย 1 kW = 1.360 ps (SAE) ก่อน
คือ 68.98x1.36 เท่ากะ 93.81 ps (SAE)

1 hp(SAE) = 1.014 ps (DIN)
แล้วถึงจะเอาค่าที่ได้คือ 93.81 ps (SAE) x 1.014 = 95.12 ps (DIN)
แปลว่า แรงม้าในหน่วยเดิมของเปอร์โยต์ทั้งสิ้นคือ 95 ตัวนั่นเอง
เอา 123 - 95 หายไป 28 ตัว คงตกหล่นแถวๆ คูน้ำข้างเกษตรมั๊งครับ ไม่ก็ตกเรี่ยราดแถวแท่นวัดแรงม้านั่นแหละ
อิอิอิอิ

ปล. ถ้าผมคำนวณผิดขอโทษอย่างแรงเพราะตอนเรียนคณิตศาสตร์และฟิสิกชั้น มัธยม ชอบลอกข้อสอบเพื่อน
อิอิอิ
ตอนเรียนมหาลัยไม่ได้เรียนคณิตศาสตร์เลย เพราะเรียนแต่ศิลปะครับ

 O0ดีครับ มีข้อมูลทางวิชาการประกอบด้วย ชัดเจนมาก

ใครจุดธูปเรียกไม่มีหรอกอาร์ต เค้าจุดเทียนเรียก ช่วงนี้ใช้เทียนพรรษาด้วย 55555

ตัวจริงเสียงจริงมาตอบให้แล้วนะครับ น้องชินจะได้หายข้อข้องใจเสียทีว่ารถเดิมๆ เครื่องเดิมๆ มันก็ทำให้วิ่งได้ดีเหมือนกัน พิกัดควอเตอร์ไมล์ราวๆ 17.5 ในการเคยลองเมื่อครั้งกระนู้นนนนน เดี๋ยวนี้รถสมบูรณ์กว่าเดิมครับ น่าจะแตะพิกัด สิบหกปลายได้ ล้อใหญ่ขึ้นเบรกดีขึ้น คนขับขับเก่งขึ้นครับ ส่วนการทำรถ ต่างคนต่างสไตล์ หลายคนเน้นปลายๆ แต่ผมเน้นแรงบิดเป็นหลัก แรงบิดยิ่งเยอะ ยิ่งขับสนุก แรงบิดน้อยๆ ต้องลากรอบมากๆ เหนื่อย และกินน้ำมัน อ่ออุปกรณ์ตัวใหม่ที่เป็นตัวหลอกเซ็นเซอร์อากาศ ใช้งานได้ดี ถ้าบิดให้จ่ายบางๆ หน่อย ไม่ซัดนะ ขับธรรมดา ครึ่งถึง วิ่งได้ 320 กิโลเมตรครับ วิ่งในเมือง วิ่งทางด่วน ไปอยุธยารอบหนึ่ง เติมแก๊สโซฮอล 95 ครับ  ถ้าบิดสุดยังไม่ได้ลองนะครับ ช่วงนี้น้ำมันแพงเราควรขับช้าๆ จะได้ประหยัดช่วยชาติ และลดการเกิดปรากฎการณ์เรือนกระจกนะครับ

เร็วๆ นี้อาจจะวัดแรงม้าเพิ่มที่ Test Car ครับ แถวศรีนครินทร์ ใครสนใจไปด้วยกันได้ครับ

รถก็ดีนะครับ แต่คนขับ ! 55++ (มีแซว)

 :) ;) :D ;D >:( :( :o 8) ??? ::) :P :-X :-\ :-* :( >:D O0 :-[

คุณอาร์ต สุดยอดเลย :happy: :happy: :happy:

ดี ครับ เสียง ดัง ดี... ;D ;D :D

ขยันโพส์ตก็ต้องขยันพิมพ์ด้วย

ดีครับเราจะได้มีรถ เปอร์โยแรงๆอึกคัน ของผม เครื่อง sri เหมือนกัน เคยลองทำเล่นๆ ไส้แตกไปแล้วครับ ตอนนี้ก็เลยเปลียนเครื่องใหม่ เอาไว้ขับกินลมเล่นๆ ขับสนุกดี แต่ ขับที่ไร ตามหลังเขาทุกที ตามคันนี้ เสร็จก้ไปตามคันนูน.........ทุกทีเลย 5555 เดี๋ยวถ้ารถสมบูรณ์เมื่อไหร กะจะลองเอาไป ทดสอบดูบ้างอะ ไม่รู้มันจะไล่ตามพวก vtec  ได้เปล่าก็ไม่รู้

เครื่องใหม่คงเป็น S16 ใช่มั๊ยหล่ะครับพี่ต่อย เมื่อวานเพิ่งคุยกับคุณแม่ผมเรื่องพี่ต่อยเหมือนกัน เพิ่งทราบว่าพี่รู้จักกับแม่กับน้องมาผมมาตั้งนานแล้ว คุณกับเจ้าเอก เครื่องที่พี่วางมาสมบูรณ์มาก และวิ่งดีมากๆ ถ้าสนใจจะวัดแรงม้าไปด้วยกันนะครับ ใจผมอยากไปกันหลายๆ คัน เพราะอาจจะต่อรองราคาได้อีกน่ะครับ และคงได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน ตามภาษาคนชอบแต่งรถ ส่วนรถผม เน้นแรงบิดอย่างเดียว ไม่คิดวางเครื่องใหม่ เพราะรักเครื่องตัวนี้มาก ต้องการทำเครื่องเดิมให้มันดีกว่าที่มันเป็น ส่วนพิสัยเครื่อง S16 เอง ผมว่าเดิมๆ ก็กิน B16A ได้แล้วหล่ะเขาได้เปรียบแค่ตัวเบา แต่ถ้าเล่นกับ B18C ยังไงก็โดน ไม่ว่าต้นหรือปลายน่ะครับ  ส่วนรถผม กินได้แค่วีเทคแคมเดียวก็พอแล้ว พอสูสีกันหน่อย

ปล. ถ้ามีโอกาสอยากลองนั่ง S16 ในบอดี้ 405 เคยคุยกับพี่ชูเดชไว้ตั้งนานจนแกยกเครื่องออกไปวาง เครื่องตัวใหม่แล้วก็ยังไม่ได้ลองสักที

วันนี้ไปเอา สปอร์ยเลอร์ T16 ที่ออโต้แคร์ รถพี่ชูเดชจอดสงบนิ่งเลย เสียดายอ่ะ รถทำมาอย่างงามไม่ค่อยได้เอาไปวิ่งเลยหรือครับ ว่างๆ ให้อาร์ตเอาไปรันอินให้ก็ได้นะ อิอิอิ

แต่งแนวนี้น่าสนครับ ไม่ทำร้ายรถมากนัก แถมทำให้มันแรงขึ้น ก็ดีเหมือนกันครับ แต่ชอบล้อทองเหลืองๆ

ไม่ทราบตรงรูรึเปล่าครับ แล้ว แก็สโซฮอล์ 95 กับ 91 ธรรมดา sri ใช้อันไหนดีกว่าครับ รถผมวิ่งน้อยด้วยครับ

รบกวนถามหน่อยครับ เพราะทุกวันนี้ หา 95 ธรรมดาเติมยากแล้วครับ

ล้อของ RH ครับ รุ่น CP035 ปกติมันสีน้ำตาลทองแหละ แต่ผมอยากจะแนวเลยพ่นเหลือง เสือกมีหมามาเห่าอีก เดี๋ยวจะเปลี่ยนเป็นสีเข้มๆ แล้ว สีอ่อนดูแลยากมาก ส่วนรูมัน 4-100 แปลงอะแดปเตอร์เอา ถ้าจะหาล้อตรงรู ฝันอย่างเดียว เพราะเขาไม่ทำครับ อยากหล่อต้องยอมแปลงน่ะ

สำหรับน้ำมัน ผมเติมแก๊สโซฮอล 95 ตลอด และต้องปั๊ม ปตท. ก่อนร้านโกยี แยกวังหินด้วย เพราะเป็นปั๊มประจำที่เติมแล้วรู้สึกไปเองว่า วิ่งดีกว่าปั๊มอื่นๆ ตามสโลแกนของ ปตท. ที่เขาว่า แรงกว่าและไปไกลกว่าเดิม ไม่รู้ว่าตอแหลหรือเปล่า แต่เท่าที่ดูมาหลายปั๊ม เติมแล้วมีเขกบ้าง น๊อกบ้าง เบาดับซะงั้นก็มี
ส่วน 91 ไม่เคยคิดเติมเลย และ ติดแก๊ส LPG เลยคิดแต่ไม่ได้ทำ เพราะยังพอมีปัญญาจ่ายค่าน้ำมันอยู่ แถมตอนนี้ไม่ค่อยได้ใช้รถด้วยซ้ำ

ขอบคุณอาร์ตมากครับ ได้ข้อคิดอีกเยอะเลยครับ มีคำถามอีกนิดครับ เราหาดุมล้อพร้อม ดิกส์เบรกที่เป็น

4รู100 มาใส่จะทำได้ไหมครับ จะได้ไม่ต้องใส่ อะแดปเตอร์ ผมแค่ลองคิดดูแต่ยังไม่เห็นมีคนทำ

สงสัยคงหาของไม่ได้รึเปล่าครับ รบกวนอีกนิดครับ

ยกดุมมาเลยก็ทำได้ครับ แล้วเซ็นเซอร์บอลของล้อเดิมหล่ะจะเท่ากับดิสเบรกใหม่หรือเปล่า ? ความหนาของดิส และระยะห่างของคาลิปเปอร์กับตัวยึดคาลิปเปอร์หล่ะต้องต่อขาหรือมีการเชื่อมในจุดนี้หรือไม่ ออฟเซ็ทล้อหล่ะ ? อย่าลืมว่าออฟเปอโยต์ 18 แต่ออฟรถญี่ปุ่น 38 ยังไงก็ต้องรองสเปเซอร์เพิ่มความหนาเพื่อให้ออฟเซ็ทไม่ติดซุ้มด้านใน ผมว่างานนี้มีหลายเด้ง เว้นคุณจะเอาพวกงานสกายไลท์ดิสสกายไลท์ที่เป็น 5-114.3 ที่เป็นออฟเซ็ทขับหลังเหมือนกันมาใช้น่ะครับ อาจจะไม่ต้องรองสเปเซอร์แต่ล้อต้องหลบดิสสกายนะ ไม่งั้นใส่แม็กไม่ได้อีก วุ่นกว่ากันเยอะ อ่อหม้อลมเดิมทำลมไม่พอด้วย

นั้นซินะ ถึงว่าทำไมไม่มีคนทำกัน เพราะมันยุ่งยากอย่างนี้ นี่เอง อย่างนี้คงต้องหา max ตรงรูมาใส่อย่างเดียวซะแล้ว

ผมเคยไปถาม ร้านขาย max เขาบอกว่าถ้าเราต้องการ max ลายไหนแต่รูไม่ตรง สามารถสั่งได้จากโรงงาน

เขาทำให้ตรงรูเลย แบบ เจาะรูกันใหม่เลย แต่ผมยังไม่กล้าที่จะซื้อ ไม่รู้คุณภาพจะออกมาดีรึเปล่า

ยังอยากหาข้อมูลก่อน เพราะราคา เฉียด 30000 ยังไม่รวมยาง max  17 นิ้ว ราคาแรงน่าดูเลยครับ

ถ้าพวกแม็กแบบไม่มีรูมีนีขายนะ แต่เป็นแม็กในนี้หรือไม่ก็ไต้หวัน ถึงแม้จะไม่มีรูแต่ออฟเซ็ทก็ต้องเป็นออฟที่พอดีกับเปอโยต์อยู่ดีแหละครับ ไม่งั้นก็ต้องรองสเปเซอร์อีก ผมว่าหาแม็กตรงรูง่ายกว่ามั๊ย กรณีไม่อยากแปลง คาร์บูติกมี ราคาวงละ 4800 ครับ ไม่รวมยาง แต่อาจจะลดได้บ้างนะ เพราะมันขายไม่ค่อยออก