Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย

 ผมซื้อซากมาปั้น ปัจจุบัน ก็ยังคงปั้นอยู่ หนุกๆ ได้ความรู้บรรเทิงปัญญากันไป ให้กำลังใจ จ.ข.ก.ท ครับ รถเก่าก็อย่างนี้แหละครับต้องอาศัยการดูแลมากกว่ารถใหม่เป็นธรรมดา แต่ถ้ามันทำให้การใช้รถในชีวิตประจำวันของเราต้องสูญเสีย ทั้งเงินและเวลา ก็คงต้องตัดใจละครับ  :Cool:

 :correct: การใช้รถเก่า ก็เหมือนมีเมียแก่ ใช้ไปก็ต้องซ่อมไปเป็นธรรมดา สังขารมันเสื่อม เหมือนกับคนป่่วยที่ไปรักษากับหมอ ไปครั้งเดียวไม่หายก็ต้องไปใหม่ หมอก็เปลี่ยนยาให้ใหม่ ถ้าใจรักเหมือนเมียเราก็ต้องทนรักษาไป แล้วก็ดูแลให้ถึงจริงๆและเข้าใจเขาด้วย และต้องพอเป็นบ้าง ถึงจะอยู่กันได้นาน รถผมซ่อมมาเกินราคาตัวมันแล้วกว่าจะจับจุดได้ ตอนนี้อยู่ตัวแล้วสบาย รถที่มีคุณภาพก็เป็นเช่นนี้แหละของดีมีน้อย ตามท้องถนนแทบหาไม่ได้เลยวิ่งไปที่ใหนคนนี้มอง เพราะไม่เคยเห็น เห็นแต่รถญี่ปุ่นเต็มท้องถนน แต่รูปทรงไม่เคยล้าสมัยยังทันสมัยเปี๊ยบ :555: :555:

รถสวย เสียดายครับ ใจเย็นๆครับ

________________
COCO

คนใช้สิงห์ ต้องหัวใจสิงห์ด้วยครับ รถแกร่ง คนก็ต้องแกร่ง เป็นกำลังใจให้ครับ

ผมมี สองคัน เขียวกะแดง เอาไว้สลับกันอีกคันเข้าอู่ก็ใช้อีกคัน นับแต่เขียวกะแดงมาอยู่ด้วยกันยังไม่เคยจอดที่บ้านร่พร้อมกันเลย อีกคันนิอนบ้านอีกคันต้องนอนอู่..อิอิ มันไม่ค่อยถูกกัน

กะอีกอันตอนนี้คอนโซลเริ่มแตก ผมต้องเอาผ้ากอซพันแผลมาทากาวร้อนประกอบชิ้นที่แตกเล็กๆ ทีละชิ้น ก็เลยรู้สึกว่าเราดูแลมันไปได้ถึงไหน
เมียยังงงว่ารถไรวะเอาผ้ากอซพันแผลมาซ่อมรถ

แต่ก่อนแฟนผมก็บ่นครับ ตอนนี้เลิกบ่นแล้ว 555

เหอๆๆ

ตอนไฟ stop ขึ้น เกจความร้อนขึ้นขีดแดงมั้ยครับ หรืออาการเครื่องผิดปกติม้ยครับ
เพราะอย่าง  ที่ผมคยเจอกับ 405 บางทีเป็นที่ปลั๊กอะไรสักอย่างมันหลวม  พอกระเทือนแล้วไฟ stop
บางทีก้อแดงขึ้นมา  แต่เครื่องใช้งานได้ปกติ เกจความร้อนไม่ขึ้นนะครับ สักพักมันก้อดับเอง
เข้าเช็คดูเป็นที่ปลัีกหลวมนะครับ

 :love love: :อะหา อะหา: สวัสดีครับ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาแรกที่ซื้อมือสามมาใหม่ ขับมาดีๆไฟสต๊อปมันขึ้น ก็เอาเข้าอู่ซับของเปอร์โยแถวหน้าเยื้องตั้งฮั้วเสง(ตอนนี้เจ้งไปเรียบร้อยแล้ว) ปรากฎช่างบอกว่าไดร์ชาจ์เสีย และเขาบอกจะเอาของญี่่ปุ่นใส่ให้ราคา 4000กว่าแต่ต้องมาดัดแปลงตัดหูน๊อตหน่อยหนึ่ง ผมไม่รู้อะไรก็บอกว่าได้เลย แล้วอาการก็หายไปเลยตั้งแต่บัดนั้น แต่มารู้ราคาที่หลังมัน 1000กว่าบาทเอง ก็ไม่เป็นไรซื้อความรู้ ถ้าความร้อนไม่ขึ้นก็โอเคครับ ลองฟังท่านอื่นด้วยครับ  :มอบดอกไม้:

ผมก็ชอบรถเก่า สู้ตาย ซ่อมไปจนปัจจุบันแพงกว่าราคาซื้ออีก ทั้งจ้างช่าง เข้าศูนย์ และทำเอง มันมาก รถใหม่ก็เสียเหมือนกัน เรื่องความร้อนต้องระวังฝาสูบโก่ง รถยุโรปส่วนใหญ่ร้อนทั้งนั้น ต้องแก้หลายอย่าง 1.ขยายหม้อน้ำ 2.ตีฝาครอบหม้อน้ำ 3.เปลี่ยนพัดลมเอาญี่ปุ่นมาใช้ 4.ทำพัดลมสเตปสองเมื่ออุณหภูมิเกิน 90 องศาโดยติดเซ็นเซอร์อุณหภูมิเมื่อความร้อนถึงพัดลมสเตปสองจะทำงานไล่ความร้อนเวลารถติด ข้อคิดถ้าวิ่งแล้วไม่ร้อนแต่ร้อนเฉพาะรถติดแสดงว่าพัดลมไล่ความร้อนไม่พอ ถ้ายิ่งวิ่งยิ่งร้อนหม้อน้ำตันหรือฝาสูบโก่ง  การต่อพัดลมไฟฟ้าต้องผ่านรีเลย์ ไม่งั้นไหม้แน่นอน ยังไงก็สู้ต่อครับ

 :love love: มาเล่านิทานต่อจากประสบการณ์ คันที่ 2  ซื้อปี 48 คราวนี้หลานอยากได้บ้าง ก็รีบไปหาซื้อคันที่สองมาก็ด้วยไม่มีประสบการณ์หรือมีความฉลาดน้อย(โง่มากกว่า)เปิดเวปฯหาซื้อเลย พอเฉอะเห็นมีกาบใหญ่เออๆสวยดี ก็ไปติดต่อซื้อไปเห็นรูปก็เข้าท่าบอกราคา เก้าหมื่นกว่า พอดีรู้จัดพ่อเขา ก็ต่อรองกันไปมาเหลือ หกหมื่นห้า ก็โอเค พอซื้อมาแล้วเจ้าพระคุณเอ๊ย มาเปิดพรหมดูรถเป็นสนิมครึ่งคันแสดงว่าคงจอดจมน้ำไว้แน่ๆตอนน้ำท่วม ควันก็ดำกินน้ำมันยังกับอูฐกินน้ำ ก็เอาเข้าอู่ที่ทำประจำทำไป ตอนก่อนเข้าอู่เห็นเอาพัดลมติดเสริมด้านในหม้อน้ำไว้อีกตัว ก็คงจะเป็นความร้อนนั้นแหละ ก็เปลี่ยนอะไหล่ไปหลายอย่าง ควันดำก็ไม่หายกระตุ๊กและคลางด้วย แก้เท่าไรไม่จบก็หมดไปหลายกะตังเงินที่เขาลดให้ก็หมดไปเลย สุดท้ายก็ตัดสินใจเปลี่ยนไอ้ตัวร้าย "เซ็นเซอๆๆๆๆๆๆ" ทุกอย่างจบ พัดลมที่เขาเสริมมาก็เอาออกวิ่งฉิวนิ่มนวล ความร้อนก็ไม่ขึ้นปกติ แต่ก็ต้องหมั่นดูแลหม้อน้ำและอย่างอื่นด้วย เพราะรถก็เก่า เมียก็แก่เป็นเป็นธรรมดา สวัสดีครับ :มอบดอกไม้: :Lucky:  

 :okok:เพื่อนของเราเขาก็ถอดใจค่ะ 406 L5 เนื่องจากรถไปเสีย ขณะที่พาลูกค้าชาวต่างชาติไปประชุมที่พัทยา แล้วหาที่ซ่อมไม่ได้

ปล่อยเขาไปเถอะถ้าเลี้ยงดูเขาไม่ไหวสิงห์ขจะกัดเราตาย

มีเพื่อนในนี้แหละบอกว่า มีสิงห์ไว้ซ่อม ผมเห็นด้วยจริง ๆ แต่ผมก็ยังใช้เปอโยต์นะ แต่เป็นคันนี้ เปอโยต์ 204  อายุ 46 ปี เกิดปี 2511 ครับ

 :correct: คนใช้สิงห์ยกขา มีอยู่หลายประเภท เช่น
                 1.ประเภทเงินน้อยได้ใช้ของถูก ใช้แล้วติดใจ แต่มีคุณภาพ ไม่ต้องลงทุนผ่อนส่ง ขับไปซ่อมไป  เหมือนกับซื้อของใหม่ทีละชิ้น และอยากเป็นช่างซ่อมด้วย :555:
                 2.ประเภทท่านที่มีเงินมาก แล้วเคยใช้และรักและคิดว่ามีคุณภาพ ก็ยังคิดซื้อหามาใช้อยู่    :สุดยอด:
                 3.ประเภทซื้อมาใช้แล้วทนไม่ไหว ใจไม่สู้ กับการซ่อมต่อไป มองแล้วมืดมน ก็ต้องลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :เอิ๊กๆๆๆ:
                 4...................นึกไม่ออก :devil:

ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและคำแนะนำ ขอบคุณคุณเต้ย ขอบคุณพี่เชษฐ์ ที่ช่วยเหลือทางเทคนิคอย่างละเอียดครับ

คงจะสู้ต่อไปอีกซักตั้งครับ

อยากบอกว่า อย่าไปคาดหวังอะไรมากกับรถเก่า ว่ามันจะสมบูรณ์เหมือนรถใหม่ มันเหมือนคนป่วยคนแก่ที่ตองการดูแล แต่ๆๆๆๆๆๆๆ มันต่างจากคนนิดเดียว คือ มันมีอะไหล่เปลี่ยนทุกชิ้นและสามารถที่จะทำให้มันฟื้นคืนชีพได้ไม่อยาก แค่ๆๆๆๆๆๆ เข้าใจมัน และรู้ปัญหาที่แท้จริงของมัน บวกกับ มีปัจจัย ที่พอจะดูแล เท่านี้ก็เอาเขาอยู่แล้วครับ ต้องเชื่อใจในแม่ย่านางของรถ แล้วเขาก็จะเป็นรถที่พร้อมจะพาคุณไปไหนๆได้แบบ ปลอดภัยถึงบ้านทุกครั้งครับ

เสียดายคับ

ถ้ามันไม่ไหวก็ขายเถอะครับ ทิ้งไว้ราคาก็จะตกลงไปอีก เราซ่อมก็เงินของเราไม่มีใครช่วยออกให้ ถอยมาตั้งหลักแล้วหารถคันใหม่ที่ดีๆมาใช้ครับ  :เหนื่อยร้อน: :เหนื่อยร้อน: :เหนื่อยร้อน:

 :correct:  ที่จริงเจ้าตัวจ้อย 205 ถ้าเครื่องสมบูรณ์ไม่ต้องยกเครื่องน๊ะ หัวใจที่แพงจริงก็คือ เจ้าชุดเซนเซอร์ๆๆๆๆ :Mad: เท่านั้นที่แพงจริงซ่อมไม่ได้ นอกนั้นก็อะไหล่ที่หมดอายุตามอายุไขรถมันเก่าราคาก็ปกติ อะไหล่บางตัวถูกกว่าของญี่ปุ่นอีก ยกตัวอย่างของถูกน๊ะก้านไฟเลี้ยวราคาพันกว่าบาท ของโตโยต้าสามพันกว่าบาทหลอดไฟหน้าบางรุ่นหลอดละสี่พันกว่า :เอิ๊กๆๆๆ:  เล่าสู่กันฟังเฉยๆ :555: