Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย

หมวดหมู่ทั่วไป [ General topics ] => พูดคุยทั่วไป ได้ทุกเรื่อง => ข้อความที่เริ่มโดย: Jad ^_^ ที่ วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2011 เวลา 12:07:47



หัวข้อ: ความปลอดภัยของยางรถ : ประโยชน์ของการตรวจเช็คลมยางและอุณหภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: Jad ^_^ ที่ วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2011 เวลา 12:07:47

ล้อรถมีบทบาทสำคัญในการควบคุม การขับเคลื่อน และการเบรคของยานยนต์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นรถ RV, SUV, รถฉุกเฉิน หรือรถที่ใช้ในการพาณิชย์ ล้อรถเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สัมผัสถนน เป็นที่ชัดเจนว่าล้อรถนั้นเป็นอะไรที่มากกว่าแค่สิ่งที่ยานพาหนะวางไว้อยู่บน แต่ยังเป็นความปลอดภัยของรถและคุณโดยรวมด้วย การปฏิบัติตามหลักความปลอดภัยของยางรถขั้นพื้นฐาน ไม่เพียงทำให้คุณขับขี่อย่างปลอดภัยขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของล้ออีกด้วย

สิ่งที่ผู้ผลิตยางต่างเห็นด้วย
เป็นที่เห็นตรงกันโดยทั่วไปว่าสาเหตุที่ทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วก็คือลมยางอ่อน ลมยางอ่อนไม่เพียงทำให้เกิดความร้อนในยางมากเกินไปซึ่งทำให้เกิดภาวะการขับที่อันตรายเท่านั้น แต่ยังทำให้อายุของยางสั้นลง ความร้อนที่ไม่เป็นที่ต้องการจะเร่งการสึกหรอของดอกยางและกระทั่งสามารถทำลายส่วนของยางที่มีการหล่อดอกยางและทำลายยางนอก มากถึง 90% ของความเสียหายของยางเป็นผลโดยตรงจากลมยางอ่อน

ปัญหาลมยางอ่อน
ลมยางอ่อนเป็นเรื่องทางความปลอดภัยที่ต้องใส่ใจอย่างจริงจัง เพราะมันทำให้แก้มยางมีความยืดหยุ่นมากเกินไป ความตึงตัวที่เพิ่มขึ้นในยางรถทำให้เกิดความร้อนภายในมากขึ้น เป็นผลให้เกิดอันตรายแฝงที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้และทำให้ยางหมดสภาพก่อนเวลาอันควร งานวิจัยของคณะบริหารความปลอดภัยและการจราจรแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา แสดงไว้ว่า หนึ่งในสามของรถยนต์หรือรถบรรทุกที่ขับโดยมีล้อหนึ่งล้อที่ลมยางอ่อน ล้อที่ลมยางไม่เหมาะสมนี้จะสึกไวเพราะมีแรงลากบนถนนมากขึ้น (แรงเสียดทานในการหมุน) และยังส่งผลให้เปลืองน้ำมันมากขึ้นอีกด้วย นั่นเป็นสิ่งที่เจ้าของรถทุกคนไม่ว่าเป็นตัวบุคคลหรือบริษัทต่าง ๆ ควรจะต้องหลีกเลี่ยง

ความดันมีผลต่อการสึกหรอของดอกยาง
การรักษาระดับลมยางให้เหมาะสมจะเพิ่มอายุงานดังระบุต่อไปนี้
? อายุงานของล้อจะลดลง 30% ถ้าลมยางอ่อนลง 20%
? ลมอ่อนทุกๆ 10 PSI (pounds per square inch) ทำให้เปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น
 
ผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง
ลมยางมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง เพราะลมยางอ่อนจะทำให้เปลืองน้ำมันมากขึ้นเพราะแรงเสียดทางการหมุน กรมพลังงานของสหรัฐแนะนำว่าล้อรถทำให้ประสิทธิภาพของการใช้เชื้อเพลิงต่างกันถึง 3.3% การศึกษาของกรมขนส่งแสดงให้เห็นว่า สหรัฐสามารถประหยัดน้ำมันได้กว่า 4.2 ล้านแกลลอนต่อวัน เพียงแค่รักษาลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม!

การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับล้ออาจสูงถึง 36% ของค่าบำรุงรักษารถ แต่ในขั้นตอนการบำรุงรักษาที่จำเป็น การเช็คลมยางเป็นประจำ ซึ่งหลายคนอาจบอกว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดที่จะทำได้อย่างสม่ำเสมอ แม้แต่ในโปรแกรมการบำรุงรักษาที่ดีที่สุดก็ยังพบว่าคนขับรถบรรทุกและแม้แต่ช่างซ่อมบำรุงมักจะลัดขั้นตอนเพื่อประหยัดเวลา ในบางกรณีบางล้อไม่ได้รับการตรวจเช็ค โดยมีข้อสันนิษฐานว่า ถ้าล้อหนึ่งดี ล้อที่เหลือก็น่าจะดีด้วย บางทีก็ละเลยไปทั้งหมด ด้วยว่าโดยปกติล้อรถเป็นค่าใช่จ่ายในการซ่อมบำรุงที่แพงที่สุด จึงทำให้มีเจ้าของรถหลายคันที่มองข้าม ไม่ยอมจ่ายค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงยางรถได้

.ตรวจเช็คให้เป็นนิสัย
.เพื่อประกันอายุการใช้งานที่ยืนยาวของล้อ ควรรักษาลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตลอดเวลา สำหรับรถเล็กที่ขับแถวบ้าน ควรเช็คลมยางเดือนละครั้ง ถ้าคุณขับเป็นระยะทางไกล ควรเช็คลมยางบ่อยขึ้น ถ้าคุณเป็นพนักงานขับรถบรรทุกซึ่งชินกับการตรวจสอบด้วยการใช้นิ้วกดล้อ คุณควรยอมรับว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่น่าเชื่อถือและไม่ปลอดภัย ลมยางอ่อนไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า หรือใช้นิ้วกด การใช้วิธีนี้ ก็เท่ากับยอมรับให้ รอเวลาที่จะให้อุบัติเหตุเกิดขึ้น ดังนั้น อย่าเดา อย่ากด  ให้วัดด้วยเกจวัดที่มีคุณภาพ หรือวัดด้วยระบบตรวจสอบล้อ

.จัดการกับยางคู่
.สำหรับยานยนต์ประเภทล้อคู่ เมื่อมีล้อสองล้ออยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ก็จะมียางล้ออันหนึ่งอยู่ด้านนอกเข้าถึงและตรวจสอบได้ง่าย และมียางล้ออีกอันที่อยู่คู่กัน ซึ่งจะอยู่ด้านใน (ยางที่อยู่ที่ตำแหน่งด้านใน) ซึ่งยางด้านในนี้จะเข้าถึงได้ยากและง่ายต่อการถูกละเลย การเช็คลมยางด้านในเป็นสิ่งที่จำเป็น และเวลาที่ยางด้านในแบน มันจะได้รับการพยุงจากยางด้านนอก ทำให้มองดูเหมือนว่ามันมีระดับลมยางที่เหมาะสม ในกรณีที่ล้อหลังด้านในแบน ซึ่งมองดูเหมือนว่าลมยางปกติ ภาระทั้งหมดจะตกอยู่กับล้อด้านนอก ผลก็คือล้อมีความเสี่ยงที่จะมีความร้อนสูงเกิน ปริ หรือถ้ามีการหล่อดอกยาง ก็มีโอกาสที่หน้ายางจะหลุดออกจากกรอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่นำไปสู่อุบัติเหตุหลักบนถนนได้

.เครื่องเช็คลมยางแบบไร้สาย
.ในกรณีของยานยนต์ที่มีหลายล้อ เช่น รถบรรทุก รถอาร์วี รถดับเพลิง และรถฉุกเฉิน จะมีล้อจำนวนมากให้ตรวจเช็ค ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้เวลามาก ทั้งล้อรถพวกนี้ต้องตรวจเช็คบ่อย โดยธรรมชาติของรถเหล่านี้ จะมีการใช้เป็นประจำ และขับในระยะทางไกล ในสิ่งแวดล้อมและพื้นที่ที่แตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า ระบบควบคุมลมยาง หรือที่เรียกว่า TPMS จะช่วยเหลือในเรื่องการดูแลล้อให้คุณได้ โดยใช้เซ็นเซอร์แบบไร้สาย (ซึ่งเป็นเกลียวครอบกับระบบวาล์ว หรือเสียบลงไปในยาง) ติดบนแต่ละล้อของรถทำให้ตรวจเช็คได้ในระยะเวลาอันสั้น และระดับของลมยางและความร้อนจะปรากฎที่หน้าปัดภายในหัองโดยสาร

.ถ้าคุณสนใจจะลงทุนใช้ระบบ TPMS อย่างน้อยควรมองหาลักษณะและความสามารถเหล่านี้

.? เตือนเมื่อลมยางอ่อน

.? เตือนเมื่อลมยางมากเกิน

.? เตือนเมื่ออุณหภูมิในล้อสูงเกิน (ความร้อนจะทำลายยาง)

.? เตือนคนขับทั้งด้วยภาพและเสียง

.? สามารถควบคุมตรวจสอบได้ทั้งในยานพาหนะและรถลาก

.สิ่งอื่นที่ควรพิจารณาเมื่อตรวจประเมินการแก้ปัญหาของ TPMS
 
.? ตัวเซ็นเซอร์ที่ล้อเป็นแบบภายในหรือภายนอก
.เซ็นเซอร์แบบครอบด้านนอกจะติดตั้งได้ง่าย และเอาออกง่ายเมื่อมีการเปลี่ยนยาง และสามารถย้ายไปติดที่ยางอะไหล่ได้ถ้าต้องการ ยิ่งมีจำนวนล้อมากขึ้นเท่าไรก็จะประหยัดได้มากขึ้นเท่านั้น

.? ระบบจะตรวจเช็คล้ออย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่ารถจอดอยู่หรือไม่
.ลมยางจะวัดได้อย่างถูกต้องมากที่สุดเมื่อยางเย็น ก่อนที่รถจะเคลื่อนที่ การรู้ระดับลมยางก่อนออกเดินทางไกลสามารถป้องกันความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนนได้

.? การเตือนระดับอุณหภูมิและลมยางสามารถปรับได้โดยผู้ใช้งานหรือไม่
.การตั้งระดับการเตือนได้นั้นเป็นข้อได้เปรียบสำหรับรถที่บรรทุกน้ำหนักไม่แน่นอน เช่น รถบรรทุก/รถพ่วง รถบางประเภทยางจะเป็นสุญญากาศหลังจากมีการเปลี่ยนน้ำหนักบรรทุก ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดความต่างระดับและสึกหรอมากขึ้น

.? ระบบตรวจเช็คอุณหภูมิของล้อหรือไม่
.สำหรับเหตุผลทางด้านความปลอดภัย การรู้อุณหภูมิภายในล้อเป็นสิ่งสำคัญมาก ยางอาจมีระดับลมยางต่ำกว่ามาตรฐาน 30% และยังคงดูเป็นปกติ (ความเสียดทานในการหมุนทำให้ความร้อนเพิ่มขึ้น และขยายตัวภายในยาง) นี่เป็นเหตุผลเดียวกันว่าทำไมเราตรวจวัดลมยางเมื่อยางเย็น

.คำแนะนำด้านความปลอดภัยทั่วไปของล้อรถ
.? ทำตามคำแนะนำในการรักษาระดับลมยางตามที่ระบุอยู่บนแก้มยาง ขณะที่มั่นใจว่ายางรถสามารถพยุงได้มากกว่าน้ำหนักทั้งหมดของรถ

.? รถบรรทุก รถพ่วง และรถอาร์วี ต้องการเครื่องอ่าน (ของน้ำหนักบรรทุกสูงสุด) ที่มีความถูกต้องเพื่อรักษาระดับลมยางที่เหมาะสมกับน้ำหนักบรรทุกนั้นๆ รถประเภทนี้ตามปกติจะมีการชั่งเพื่อให้ทราบค่าน้ำหนักที่ถูกต้อง

. ? ตรวจเช็คลมยางของทุกล้อ รวมทั้งรถลาก รถพ่วง และรถอื่นๆ

. ? ตรวจเช็คลมยางเมื่อยางเย็น ก่อนขับรถออกจากบ้าน

. ? เปลี่ยนยางทุกสามถึงห้าปี (โดยไม่คำนึงถึงระยะทางวิ่ง)

. ? ตรวจเช็คความสมบูรณ์ของล้อรถด้วยตาเปล่า ดูว่ามีรอยสึกที่ไม่เท่ากันและดูระดับลมยาง อย่างน้อยเดือนละครั้งด้วยการตรวจเช็คยางรถของคุณอย่างสม่ำเสมอ จะสามารถเพิ่มอายุการใช้งานของยาง ลดความสิ้นเปลืองน้ำมัน และเพิ่มความปลอดภัย

...เห็นว่าคงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับสมาชิกครับผม..เลยนำมาฝากกัน ..  :มอบดอกไม้:
 



หัวข้อ: Re: ความปลอดภัยของยางรถ : ประโยชน์ของการตรวจเช็คลมยางและอุณหภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ มหาชัย ที่ วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2011 เวลา 12:18:02
พี่เจษแล้วยางเดิมขอบ 185 - 65 - R14 ควรเติมซักเท่าไรดีครับ เพราะตั้งแต่ที่ผมเปลี่ยนยางยังไม่เคยเติมเลย ล้อคู่หน้า กับ ล้อคู่หลัง ต้องเติมไม่เท่ากัน หรือเท่ากันครับ


หัวข้อ: Re: ความปลอดภัยของยางรถ : ประโยชน์ของการตรวจเช็คลมยางและอุณหภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: ATP89. ที่ วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2011 เวลา 12:45:47
ขอบคุณครับพี่เจษสำหรับข้อมูลดีๆๆ
ส่วนของผม SRI ล้อหน้า 32 ล้อหลัง 30 ส่วนเจ้า D9 ผมเติม 32 ทั้ง 4 ล้อครับ.

ATP89.


หัวข้อ: Re: ความปลอดภัยของยางรถ : ประโยชน์ของการตรวจเช็คลมยางและอุณหภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: Jad ^_^ ที่ วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2011 เวลา 13:14:16

เห็นแปะ ไว้ข้างรถ หน้า 32 หลัง 32 อ่ะเต้
ปล. เครื่องเติมลมที่เป็นดิจิตอลตามปั้ม ที่เป็นตัวเลข เคยเช็คหลายๆ ปั้มแล้ว เติม 32 พอวัดจริงได้แค่ 30


หัวข้อ: Re: ความปลอดภัยของยางรถ : ประโยชน์ของการตรวจเช็คลมยางและอุณหภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: Jad ^_^ ที่ วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2011 เวลา 13:17:26

แสดงว่าไม่ได้ติดแก๊สแน่เลย..อิอิ  ส่วนใหญ่รถเครื่องจะหนัก เลยมักจะเติมลมยางหน้ามากกว่ากัน 2 ปอนด์ แต่พอหลังๆ บ้านเราก็ติดแก๊สกันเยอะ ก็เติมเท่ากันครับ
มีทั้ง SRI มีทั้ง D9 เลย ขับกันสนุกสนานไปเลยซิครับ


หัวข้อ: Re: ความปลอดภัยของยางรถ : ประโยชน์ของการตรวจเช็คลมยางและอุณหภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: Thawatpra ที่ วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2011 เวลา 13:36:42
ยาง 195/60/15 ส่วนผมเติม 40 PSI ..อาศัยความรู้สึกในการขับขี่ครับว่า OK และมั่นใจเวลาเข้าโค้งแต่ก็ยังเงียบแบบพอรับได้อยู....ใช่ว่าจะดีนะครับ....ผมเลือกยางผิดประเภทไปหน่อยครับ.......ตอนซื้อนึกอย่างไรไม่รู้เลือกยางประหยัดน้ำมันของ maxxis....ยังงงกับตัวเองอยู่เลย

 :What: :What: :What:

คุณเจษ....คุณอัฐ( ATP89 )อยู่ในหมู่บ้านไทยออย...Rhino บางพระใกล้ๆ บ้านคุณเจษนะครับ



หัวข้อ: Re: ความปลอดภัยของยางรถ : ประโยชน์ของการตรวจเช็คลมยางและอุณหภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: Jad ^_^ ที่ วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2011 เวลา 16:55:59

อ้าวเหรอ..คุณอัฐ เมื่อก่อนย้ายมาอยู่บ้านแสน ผมก็อยู่บ้านไร่ดินแดง
ในหมู่บ้านไทยออย ก็คุ้นเคย พี่สาวเคยอยู่ในนั้น
สมัยเด็กๆ ผมเข้าไปดูหนังที่เค้าฉายตรงสนามเด็กเล่น บ่อยๆ  ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า
คงไม่มีแล้วละมั้ง


หัวข้อ: Re: ความปลอดภัยของยางรถ : ประโยชน์ของการตรวจเช็คลมยางและอุณหภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าชาย อสูร ที่ วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2011 เวลา 05:45:41

อ้าวเหรอ..คุณอัฐ เมื่อก่อนย้ายมาอยู่บ้านแสน ผมก็อยู่บ้านไร่ดินแดง
ในหมู่บ้านไทยออย ก็คุ้นเคย พี่สาวเคยอยู่ในนั้น
สมัยเด็กๆ ผมเข้าไปดูหนังที่เขาฉายตรงสนามเด็กเล่น บ่อยๆ  ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า
คงไม่มีแล้วละมั้ง

พี่เจษ ครับ พี่เจษ มันจะไม่บ่งบอกถึงความแก่ไปหน่อยเหรอ ....หนังกลางแปลง ว่าซั้น....... :Shame: :Shame: :Shame: