หัวข้อ: ประสพการณ์กับหม้อ....น้ำ เริ่มหัวข้อโดย: jiratt ที่ วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2011 เวลา 23:14:32 ** พรุ่งนี้เป็นวันตัดสินว่า SRI ที่เพียรซ่อมมาเดือนกว่า จะออกหัวหรือก้อย ค่อยโล่งอกหน่อย (ตามกระทู้ ไปกันใหญ่ครับ SRI วอร์มเครื่องทิ้งไว้แล้วดับไปเฉยๆ ) เลยเอาประสพการณ์อื่นมาเล่าให้ฟัง
** สมัยใช้โคโรลล่า AE101 เครื่อง4AFE 1600CC (มือ2) อยู่กท.ขับทำงานวันละ 3-5ชม. (แล้วแต่รถติดมาก หรืออภิมหาติด ...ขนาดออกจากบ้านไม่เกินตี5ครึ่ง เพราะต้องแวะส่งลูกด้วย) ขับทางไกลเฉลี่ย3เดือน2ครั้งก็ไปที่ จ.สุพรรณ (มากที่สุด 100กม/เที่ยว), อ.จอมบึง (140กม./เที่ยว) และ อ.มวกเหล็ก (170กม/เที่ยว) ใช้แบบนี้มา4-5ปี วันหนึ่งต้องไปเยี่ยมแม่ยายที่พังงา เดินทาง จนอีกสัก20กม.จะถึงที่หมาย ควันโขมงห้องเครื่อง ปรากฏว่าจุกอุดท่อน้ำฉีก(เหมือนกับในรูป(เครื่องPG) จำไม่ได้ว่าของ Toyota จะอยู่ตำแหน่งเดียวกันไหม) จึงโทรให้เพื่อนเขยซื้ออะไหล่มาเปลี่ยน ตามประสาคนแก้ปัญหาโดยใช้ช่าง-และอะไหล่จากร้านอะไหล่ ถ้าขาด2อย่างก็คือกินข้าวข้างทาง พอบอกต้นเหตุ เขาบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวจัดการเอง พอมาถึงเขาก็ตัด+เหลาไม้ขนาดครือๆกับขนาดท่อ ตอกอุดไว้เลย (แก้แบบลูกทุ่งผมเจอที่นี่บ่อย ..เช่นผ่าเครื่องก็ใช้ปฏิทินแข็งเป็นปะเก็น) ผมก็ใช้จนกลับกท. จึงเปลี่ยนและซื้อตุนอีกอัน ** อีกสักครึ่งปีต้องไปเชียงใหม่ ถือโอกาสพาลูกเมียไปเยี่ยมถิ่นเก่าจึงขับรถไป พอถึงหน้านิคมอุตสาหกรรม อาการเดิม แต่คราวนี้ฝาหม้อน้ำ(เป็นพลาสติกแข็ง) แตกเป็นริ้ว จึงลากไปร้านหม้อน้ำแถวริมปิง ถอดหม้อออกมาทะลวง..ตะกรันเพียบ แล้วเปลี่ยนฝาบนเป็นทองเหลือง หมดไปเกือบ2พัน ช่างบอกว่าขับทางไกล้ๆหม้ก็ทนแรงดันได้ แต่การขับทางไกลความร้อนมันสะสม เมื่อความร้อนกระโชกก็ทนไม่ไหว ** เป็นข้อคิดกับคนที่ใช้แบบผมคือขับทางไกล้ๆ เป็นเวลานาน, อายุรถเยอะ, ไม่เคยทะลวงหม้อน้ำ เมื่อขับทางไกล(กว่าเดิม)มาก ให้คำนึงข้อนี้ด้วยครับ ของผมโชคดีที่เกิดไกล้ถึงที่หมาย และเวลายังไม่มืด หัวข้อ: Re: ประสพการณ์กับหม้อ....น้ำ เริ่มหัวข้อโดย: SODA 405 ที่ วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม 2011 เวลา 08:21:59 ....เจอชุดอุปกรณ์ป้องกันที่น่าใช้ครับเอามาบอกต่อครับ http://www.gasthai.com/boardsale/Question.asp?ID=12087 หัวข้อ: Re: ประสพการณ์กับหม้อ....น้ำ เริ่มหัวข้อโดย: เปี๊ยก&Snow ที่ วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม 2011 เวลา 10:03:14 มีประสบการณ์กรณีขับทางไกล รถไม่ติดแล้วอุณภูมิเพิ่มขึ้น
แสดงว่าหม้อน้ำเริ่มตันควรให้ร้านฝ่าล้างทะลวงตะกัน หัวข้อ: Re: ประสพการณ์กับหม้อ....น้ำ เริ่มหัวข้อโดย: WAT_7229 ที่ วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม 2011 เวลา 11:15:29 มีประสบการณ์กรณีขับทางไกล รถไม่ติดแล้วอุณภูมิเพิ่มขึ้น แสดงว่าหม้อน้ำเริ่มตันควรให้ร้านฝ่าล้างทะลวงตะกัน ตามนี้ครับ ส่วนอันนี้ " ช่างบอกว่าขับทางไกล้ๆหม้ก็ทนแรงดันได้ แต่การขับทางไกลความร้อนมันสะสม เมื่อความร้อนกระโชกก็ทนไม่ไหว " ไม่ได้อวดเก่ง แต่ขอบอกว่า มั่วครับ ที่บอกว่ามั่วนั้น เพราะ การขับทางไกล ความเร็วรถก็จะสูง การไหลวนของน้ำในระบบก็เร็วและคงที่ ประกอบกับ ลมที่ผ่านกระจังหน้าเข้ามาช่วยระบายความร้อนของรังผึ้งหม้อน้ำอีกทางทำให้ความร้อนระบายเร็วขึ้น ความร้อนจึงไม่ควรสูง แต่หากมันสูงยิ่งเหยียบยิ่งสูงนั่นแสดงว่าหม้อน้ำตัน หรือ วาวล์น้ำเปิดไม่สุด หรือไม่เปิด หรือ ปั๊มน้ำมีปัญหาใบผุจนหมดสถาพปั่นน้ำหรือไม่ปั่นน้ำให้วนในระบบได้ดีเท่าที่ควร หัวข้อ: Re: ประสพการณ์กับหม้อ....น้ำ เริ่มหัวข้อโดย: jiratt ที่ วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม 2011 เวลา 20:58:08 *** ผมเองไม่รู้จนวันนี้นะครับว่าถูกช่างมั่วมา ตอนช่างกำลังซ่อมผมก็เล่าเรื่องที่เกิดขณะที่เกิดขึ้นเมื่อไปพังงา แล้วช่างก็เอ่ยประโยคนั้นขึ้นมา ผมคิดในใจว่าเออถ้าจะจริง และคิดว่าตอนไปพังงา ถ้ายางอุดท่อน้ำเป็นของใหม่ ฝาหม้อน้ำแตกแทน
** ในการเดินทางไกลผมใช้ความเร็วเฉลี่ยในช่วง 120-130 กม./ชม (ขับช้าเหม่อ สมาธิอยู่2ข้างทางแทนทางข้างหน้า เกิดอุบัติเหตุ2ครั้งที่ประมาณ80กม./ชม) พักที่ประมาณกลางเส้นทาง ถ้าไปคนเดียวก็ กาแฟ1กระป๋อง บุหรี่1-2มวน ก็เดินทางต่อ (ถ้าลูกเมียไปด้วยก็จะกินข้าวทำให้นานกว่านั้น) ระหว่างการขับรถ ถ้าถามว่าบ้านเมื่อกี้สวยนะ รถคันที่สวนมาสีตลาดนะ ละก็ ผมไม่รู้เรื่องเพราะส่วนใหญ่ สมาธิอยู่ที่เส้นทางข้างหน้ามากกว่า พออีกสัก20กม. จะถึงที่หมายก็จะปิดแอร์ เปิดกระจก(มีคนบอกว่าก่อนดับเครื่องสัก2-3นาทีให้ปิดแอร์ก่อน..จำไม่ได้ว่าถนอมเครื่อง หรืแอร์ แต่ก็ทำประจำ) ขับที่ความเร็ว 80-100 เป็นการคลายเครียด ** ตอนไปพังงาพักไหว้กรมหลวง กินข้าว ขับต่อแล้วเกิดเหตุที่ก่อนถึงที่หมายประมาณ20กม. ...ไปเชียงใหม่ แวะกินข้าวที่ทางแยก อ.ขาณุ (กำแพงเพชร) แล้วเกิดเหตุก่อนถึงที่หมายสัก15 กม. ก่อนเกิดเหตุทั้ง2ครั้งก็ทำแบบที่เคยทำคือ ปิดแอร์, ขับช้า ดังนั้นเมื่อฟังช่างบอก ผมคิดในใจว่าเออถ้าจะจริง เพราะช่วงขับมา รถมีความเร็ว ระบบปั๊มน้ำส่งน้ำฟันฝ่าตะกรัน ทั้งหลายไปได้ แต่ความร้อนย่อมสูงกว่าระบบที่สมบูรณ์ +ลมปะทะหม้อน้ำ +พัดลมแอร์ทำงาน ทำให้คุมความร้อนได้ พอขับช้า, ปิดแอร์ อุณหภูมิน่าจะสูงพอทำให้แรงดันในหม้อน้ำก่อเหตุดังกล่าวได้ ** เรื่องคนไม่รู้ กับช่าง สมัยคุมช่าง มีลูกค้าโทรมาต่อว่า ว่าลูกน้องทำงานค้างไว้2วัน ไม่มาทำต่อ ผมถามว่าช่างบอกไหมว่าอะไรเสีย เขาตอบว่าช่างบอกว่า อาเซนอนเสีย ผมถามต่อว่า กัฟเวอร์เนอร์ ใช่ไหม เขายืนยันว่าอาเซนอน ...เมื่อถามช่างมันรับว่า กลางคืนดูบอลล์หลายคู่ คู่สุดท้าย อาร์เซนอลล์ แข่งแล้วแพ้ด้วย มันทำงานแล้วง่วง จะไปหาที่นอน นึกไม่ออกว่าจะอธิบายอาการเสียให้ลูกค้าเข้าใจอย่างไร จึงบอกว่า อาเซนอนเสีย (ลูกค้าเชื่อลูกน้องผม เหมือนผมเชื่อช่างหม้อน้ำ..ไหมเนี่ยะ) ** ขอบคุณในความเห็นครับ |