Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย

เรื่องวาวล์น้ำครับ......

คือผมก็อ่าน ๆ   และก็อ่าน รวมทั้งศึกษาพูดคุยกับวงการช่าง หรือวงการคนมีรถเกือบทุกยี่ห้อมาพอสมควร  ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันไม่รู้จบ  ว่าด้วยเรื่องระหว่าง
1   เครื่องพังจากการมีวาวล์น้ำแต่ ว่าวล์ไม่ทำงาน ( เสีย )    กับ
2   ถอดวาวล์น้ำออก ( ไม่ใส่วาวล์น้ำ ) แล้วเครื่องพัง....

จำนวนสถิติผลเสีย ( เครื่องพัง ) น่าจะมาจากสาเหตุอันใดมากกว่ากว่ากันครับ...ปล.การใช้งานในเมืองไทยเท่านั้นนะครับ   :Oww:

แต่ที่แน่ๆ ถอดวาวล์ออกเครื่องไม่มีทางพังให้เห็นแน่นอน แต่...อายุการใช้งานจะสั้นกว่าไม่ถอด เพราะความเครียดของโลหะที่ขยายตัวไม่สม่ำเสมอทำให้สึกหรอเร็วกว่าปกติ(ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้และสถานที่) ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนคงไม่มีใครอยากถอดออกหรอกครับ ให้เครื่องมันทำงานที่อุณหภูมิคงที่ตามที่เขาออกแบบดีกว่า ยิ่งถ้าเป็นประเทศที่หนาวมากๆ จะเห็นผลเร็วมากแต่ดีที่บ้านเรามีแค่ 2 ฤดู คือร้อน กับ ร้อนอิ้บหาย ก็เลยยังไม่เห็นผลที่แตกต่างกันมากนัก

ยังไม่เคยพังเพราะวาล์วน้ำครับ แต่เกือบจะพังเพราะปั้มน้ำรั่ว วิ่งวันเดียว น้ำเกือบหมดหม้อน้ำ

ตอนนี้วาล์ว้น้ำพังแล้วครับ ดีว่า มันเปิดค้าง เลยรอดหวุดหวิด ช่วงนั้นเครื่องเย็นผิดปกติ อยู่ที่ 70c กว่าๆเอง
เลยเปลี่ยนใส่ 82c มาแทน


ตัวเลขเชิงปริมาณไม่มี มีแต่เชิงคุณภาพ(ความเห็น)
ผมว่า วาล์วปิดน้ำตาย พังเร็วกว่า ถอดวาล์วน้ำทิ้งครับ
คิดว่า น่าจะสรุปเอาได้ว่า พังเพราะวาล์วน้ำเสียมากกว่า เพราะมันทำให้เครื่องพังได้เร็วกว่ามาก จึงพบเจอบ่อยกว่า

มีวาล์วน้ำ แต่ ถ้ามันไม่เปิด

เสียหาย หนัก และ รุนแรง กว่า มาก


เครื่องฮีทจนดับ รอบเดียว แทบจะไม่ต้องซ่อมกันเลย   :เหนื่อยร้อน: :เหนื่อยร้อน:

เคยมีประสบการณ์ทั้งสองแบบ
โอเปิ้ลคอร์ซ่า วาวว์น้ำไม่เปิดความร้อนขึ้นสุดจนฝาหม้อน้ำเปิดไอน้ำพุ่งกระจาย สรุปเครื่องไม่พังยังใช้ได้ดีอยู่จนปัจุบันผ่านมาสัก ห้าปีได้แล้ว
405GR ก็เคยเหมือนกันวาวล์น้ำไม่เปิดเครื่องก็ไม่พังครับแต่เครื่องน็อคจนดับเอง ก็ใช้มาเกินห้าปีแล้วเหมือนกันไม่เห็นจะเป็นอะไร
405 GR อีกคันเป็นคันแรกที่ได้มาเจ้าของเดิมถอดวาวล์น้ำออก มาวิ่งนอกเมืองความร้อนไม่ขึ้นเลย วิ่งได้แสนกว่าๆ กินน้ำมันเครื่องแล้วสุดท้ายก็โอเวอร์ฮอลเครื่องที่ แสนกิโลนิดๆ
ส่วนเครื่องที่มีวาวล์น้ำทั้งสองคันก็วิ่งทะลุสองแสนกว่าแล้วทั้งสองคันโดยที่เครื่องยังไม่หลวมโดยเฉพาะคอร์ซ่า หนึ่งปีเปลี่ยนน้ำมันเครื่องครั้งเดียวแทบไม่กินน้ำมันเครื่องเลย 405 กินน้ำมันเครื่องนิดหน่อย

ก็เลยเปลี่ยนวาวล์น้ำทุกหกหมื่อนโลครับไม่อยาก Run to fail.
Citroen evasion อีกคันที่ได้มาก็จับเปลี่ยนวาวล์น้ำก่อนใครเลย


สรุป
สำหรับผมรถสองคันที่เครื่องโอเวอร์ฮีตมันไม่พังครับใช้ได้เกินสองแสนกว่าโลยังไม่เป็นอะไร
อีกหนึ่งคันที่ถอดวาวล์น้ำออกเครื่องมันหมดอายุขัยที่หนึ่งแสนสองหมื่อนโลครับ ควันขาวยังกะเครื่องผลิตหมอกเลย

เพิ่งเจอมาเมื่อคืน ขับออกจากที่ทำงานไม่ถึง ๑๐ นาที จอดติดไฟแดง จู่ๆความร้อนพรวดขึ้นไป ๙๘

แล้วไต่ไป ๑๐๐++ เลยเข้าอู่จอดทิ้งไว้ (ทางผ่านพอดี)

รุ่งเช้า ช่างบอกไม่เห็นเป็นไร ความร้อนไม่เห็นขึ้น ก็เลยคิดว่าวาวล์น้ำอาจะเปิดมั่ง ไม่เปิดมั่ง

วาวล์ตัวนี้ใช้มาแสนโลแล้วมั้ง เลยตัดสินใจเปลื่ยนดีกว่า

ความเห็นผมคือควรไส่วาวล์น้ำ แต่ต้องเปลื่ยนทุกๆห้าหมื่นหกหมื่นโดยประมาณ แบบเดียวกับคุณ Gotji ครับ

แต่สวนมากเรามักจะใช้กันจนลืม......   

วาวล์น้ำราคาหลักร้อยบาท  เปลี่ยนมันปีละตัวก็รับได้ครับ  ใส่ไว้มันดีหลายอย่างเลยขอบอกโดยเฉพาะรถติดแก๊ส

ย่างเข้าปีที่หกแล้วได้เวลาเปลี่ยนพอดีเก็บภาพมาฝากนิดหน่อย
ตัวเก่าเริ่มเปิด ที่ 92 องศา C เปิดสุดที่ 100 องศา C
ตัวใหม่เริ่มเปิดที่ 82 องศา  C เปิดสุดที่  97   องศา  C

บางท่านบอกว่า วาล์วน้ำออกแบบสำหรับรถเมืองหนาวป้องกันเป็นน้ำแข็งเข้าห้องเครื่องเลยค่อยเปิด
แต่ผมว่ารถในประเทศไทยที่ออกแบบใช้ในเอเชียบ้านเราเมืองร้อน รถป้ายแดงก็ใส่ทุกคัน
ฉะนั้น มันน่าจะมีเหตุผลมากกว่าเรื่องป้องกันน้ำแข็งในหม้อน้ำเข้าห้องเครื่องแน่ๆ ปัจจุบันยังใช้ วาล์วน้ำอยู่
แต่มีเหตุผลอะไรบ้างกำลังหาคำตอบอยู่  ใครมีความรู้ช่วยเพิ่มเติมหน่อยครับ

เจ๊งกะบ๊งแล้วครับเครื่องผม........ไม่เกี่ยวกับวาวล์น้ำ   แต่เป็นเพราะไอ้ระบบพัดลมมันทำงานบ้าง  บ้างก็ไม่ทำแต่ส่วนมากจะทำข้างเดียว จนเครื่องโอเวอร์ฮีต  น่าจะฝาโก่งซะแล้วเซ็งห่านมากมาย......

ค่าเสียหายงานนี้น่าจะประมาณเท่าไหร่ช่วยประเมินคร่าว ๆ ให้ผมหน่อยครับ.......

1. ไม่มีวาล์ว เครื่องไม่เป็นไร แอคคอร์ด คันที่ 1 ปี 89 (เจ้าของเดิมถอดทิ้ง ไม่บอก กว่าจะรู้ก็ตอนคอท่อตรงปั้มน้ำรั่ว และถอดซ่อม)
2.  มีวาล์ว (แต่มันเป็นอัมพาต)แอคคอร์ด คันที่ 2 ปี 93 เครื่องฮีตบ่อยๆ หาสาเหตุไม่เจอ จนฝาสูบโก่ง เรื้อเครื่องและไล่เช็คถึงได้รู้

เท่าที่ผมเข้าใจ มันจะเกี่ยวกับการรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์ให้ได้ตามที่ออกแบบไว้ครับ คือ
1. เครื่องยนต์จะเผาไหม้ได้ดี มีกำลัง และประหยัด ที่อุณหภูมิช่วงนึง ตามที่ออกแบบไว้
2. การขยายตัวของโลหะ ทั้งเสื้อสูบ ฝาสูบ

เฉพาะข้อ 2 ถ้าน้ำหล่อเย็น เย็นไปเกินไป การขยายตัวของโลหะมันจะแปลกไป
อย่างที่ทางน้ำเข้าก็จะเย็นไป ทางน้ำออกก็ร้อนกว่าหน่อย ตรงใหนเย็นๆก็ขยายตัวน้อย ตรงใหนร้อนก็ขยายตัวมาก
ด้านในกระบอกสูบก็ร้อนจัด ด้านนอกตามทางเดินน้ำก็เย็นเกิน
ทำให้สึกหรอมากกว่าในระยะยาว และมีผลต่อความแข็งแรงของโลหะ แต่กว่าจะเห็นผล คงวิ่งกันเป้นแสนโลนู่น

ส่วนข้อ 1 นี่เจอมากับตัว ตอนที่วาล์วน้ำเสียและเปิดค้าง เครื่องเย็นไป รอบเดินเบาปาเข้าไป 1100 - 1200 เลย ไม่ยอมลง
เพราะ กล่องมันสั่งให้อุ่นเครื่องตลอดเวลา กินน้ำมันมาก เปลี่ยนวาล์วน้ำปุ๊บ หายเลยครับ

มีดีที่สุด
ที่พังๆกันมันอยู่ที่คุณภาพของวาล์วน้ำที่ซื้อมาครับ ไม่ใช่พังเพราะมีหรือไม่มีวาล์วน้ำ
น่าจะตั้งกระทู้ว่า วาล์วน้ำ ยี้ห้อไหน ซื้อที่ไหน ผลิตที่ไหน ดีที่สุด ไม่พังง่าย มากกว่าครับ