Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย

เครื่องอุปกรณ์การล้างหัวฉีดแบบบ้าน ๆ ตามประสาช่างวันหยุดครับ

ที่ผมล้างหัวฉีดวันนี้เป็นเครื่อง 8 วาล์ว 2000 ของ SRI ที่อยู่ในร่างของรถซีตรอง ZX2.0นะครับ
เครื่องตัวเดียวกับ 405 SRI ที่ผมวางใน 405  GR ของผมไม่เคยใช้่เครื่อง 1800 แต่น่าจะคล้ายกัน
อาจจะต้องล้างหัวฉีดบนรางหัวฉีด เพราะลักษณะการวางหัวฉีดไม่เหมือนกัน
ผมไม่แน่ใจว่าเหมือนกันหรือเปล่า

สาเหตุที่หัวฉีดตันแล้วทำไมมันกินน้ำมัน
ก็เพราะว่าหัวฉีดตันคือหัวฉีดสกปรก สิ่งสกปรกมันอุดบ่าหัวฉีด จากความเก่าและบางที
ก็เกิดจากการใช้แก๊ส หรือคราบสกปรกจากการใช้งานปกติมาเป็นเวลานานติดที่บ่าหัวฉีด
ทำให้น้ำมันไหลกระปริบประปรอยแล้วไหลเป็นหยด ๆ ไม่ไหลเป็นฝอย ไหลเรื่อยเปื่อย
ไม่ถึงจะหวะไหลก็ไหลออกมาเพราะบ่าวาล์วไม่เรียบวาล์ว(Nozzle) ปิดไม่สนิท
เปลืองน้ำมันแล้วแถมรถไม่วิ่งด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าเปลืองน้ำมันแล้วรถวิ่ง
ล้างหัวฉีดซะจะได้สะอาดประหยัดน้ำมันครับ



(http://images.temppic.com/20-12-2010/images_vertis/1292843175_0.88892900.jpg) (http://"http://www.temppic.com/img.php?20-12-2010:1292843175_0.88892900.jpg")



เครื่องอุปกรณ์การล้างหัวฉีดแบบบ้าน ๆ ตามประสาช่างวันหยุดครับ

พูดถึงการล้างหัวฉีด

แล้วทำไมต้องล้างหัวฉีด

สำหรับคนไม่เคยอย่างผม ก็ว่ายากเหมือนกัน
สาเหตุที่ต้องมีการล้างหัวฉีัดคือใช้น้ำมันแล้วเครื่องสั่น

เครื่องสั่น ซึ่งอาการนี้มาจากหลายสาเหตุ

1.กรองอาจจะตัน  ตรวจสอบแล้วไม่ตัน และเพิ่งเปลี่ยนมาไม่นาน

2.แรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงอาจจะไม่ได้่มาตรฐาน คือแรงไม่พอ ตรวจสอบแล้วแรงดันประมาณ 3.0 บาร์ (ปั้มติ๊กของฮอนด้าแอ๊คคอร์ด)

3.เหลือผู้ต้องหาตัวสุดท้าย คือหัวฉีด สกปรกหรือที่เรียกภาษาชาวบ้านว่าหัวฉีดตัน


ผมเลยจะลองล้างหัวฉีดดู เผื่อฟลุ๊คจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนหัวฉีดมือสอง 2,000.-บาทสำหรับหัวฉีด 4 หัว
ความยากง่ายของการทำงานนี้ไม่ยาก อยู่ที่ความใจกล้าและความประณีต ใช้แรงน้อยๆ ความประณีตมากๆเพราะจับตรงไหน
แรง ๆ มีแต่แตกแต่หัก  ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ในการทำงานแต่ขั้นตอนย่อ ๆ มีดังนี้

1.ถอดขั้วลบ แบตเตอรี่ ถ้าเครื่องยังร้อนรอจนเครื่องเย็น อย่าทำตอนเครื่องร้อน
2.ใช้ไขควงถอดท่อลมจากฝาครอบวาล์วและปากท่อไอดีออก คือมองดูแล้วกันครับว่าอะไรเกะกะการทำงานก็รื้อออกเท่านั้นเองครับ
3.ถอดสายไอน้ำมันที่ขัดขวางการทำงานไม่สะดวกออก
4.ใช้ปะแจบล๊อกเบอร์ 10 ถอดตัวยึดรางหัวฉีด 3 ตัวออก
5.ใช้ไขควงปากแบนไขน๊อตยึดแคล้มรัดท่อน้ำมันเข้า-ออกคืนถัง ที่รางหัวฉีดออก ตรงนี้ต้องเบามือที่สุดอย่าออกแรงเดี๋ยว
   ท่อแตกคามือ มันกรอบมากเพราะเก่ามากแล้ว
6.ใช้ไขควงเล็กๆ แงะคลิปล๊อกหัวฉีดที่ยึดติดกะรางหัวฉีดออก
7.ใช้ไขควงเล็กๆ แงะคลิปล๊อกปลั๊กสายไฟที่หัวฉีด ทำมาร์คไว้ให้ดี หัวไหนเป็นหัวไหน
8.ตอนนี้และสุดยอดแห่งความระวัง ดูลักษณะให้ดี ว่าควรดึงรางหัวฉีดตรงไหน ค่อย ๆ บรรจงดึงเอารางหัวฉีดออกมาจากหัวฉีด
ปล่อยหัวฉีดไว้ที่ตัวท่อร่วมไอดี ตอนนี้แหละสำคัญ ดึงด้วยแรงช้างละก็รางอาจจะแตกหักได้ โอริงกระเด็นหายไปไหนไม่รู้ด้วย
9.ตอนนี้รางหัวฉีดออกมาแล้ว ค่อยๆ ดึงหัวฉีดตรงๆ ขยับไปขยับมาเบา ๆ จนกว่าจะเอาออกมาจากท่อร่วมไอดีได้
ตอนนี้หัวฉีดทั้ง 4 หัวออกมาอยู่ในมือเราแล้ว เอาไปล้่างเบนซินซะหน่อย เอาแปรงสีฟันขัดให้สะอาด แต่ไม่มีผลอะไรกะการล้าง
หัวฉีด การล้างหัวฉีดให้สะอาดในการใช้งานต้องล้างภายใน ตรงนี้ล้างเพื่อความสบายใจเท่านั้นเองครับ

10.หาอุปกรณ์เตรียมไว้ตามรูป


     10.1.สายยางใสๆขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 1 1/2-2 หุน  (1/4 นิ้ว)  หรือที่เสียบเข้าท่อน้ำมันที่หัวฉีดแล้วกระชับพอแน่นๆ พอดี ยาวราว 40 ซม.

     10.2.ปลั๊กแบบเดียวกะที่เสียบหัวฉีด ไปหามาจากไหนแล้วแต่วิธีของแต่ละคน ต่อสายยาวให้ถึงแบตเตอรี่สะดวก ยาวเท่าไรคำนวณดูครับ

     10.3.ปั้มลม หรือ ถังลม

    10.4.น้ำยาสเปรย์ล้างคาร์บูเรเตอร์ ผมหาซื้อไม่ได้ เลยใช้น้ำยาล้างคอนแทคอุปกรณ์อีเล็คโทรนิกส์
     อันนี้ไม่รับรองผล จะให้ตรงรุ่นต้องใช้  Carb Cleanner นะครับ Carb Cleanner เคยซื้อกระป๋องละ 400 บาท
     ที่เซ็นทรัลแผนกรถยนต์    ผมไม่รับรองความปลอดภัยของน้ำยาคอนแทคคลีนเนอร์ที่ผมใช้
      ว่าจะมีผลข้างเคียงอะไรต่อไปนะครับเพราะยังไม่เคยทำเหมือนกัน น้ำยาที่ซื้อมาวันนี้กระป๋องละ 380.-บาท
       จาก HOME WORK

จะให้ดีหาผู้ช่วย 1 คนไว้ช่วยต่อไฟกับแบตเตอรี่ หรือทำคนเดียวก็หาสวิทกด-ปล่อยมาช่วยก็ได้ สำหรับผมให้เจ้าของรถช่วยตรงนี้


11.เอาหัวฉีดทั้ง 4 หัว เรียงไว้ให้เป็นระเบียบ   เอาสายยางพลาสติกเสียบรูน้ำมันเข้าของหัวฉีดที่ 1
12.เสียบปลั๊กไฟเข้าหัวฉีดที่ 1
13.ยกปลายสายยางให้สูงขึ้นลอยพ้นพื้น ฉีดน้ำยาคอนแทคคลีนเนอร์หรือ คาร์บคลินเนอร์เข้าไปในสาย(ที่ยาว 40 ซม.ราว 30ซม.
     คือให้น้ำยาล้างเข้าไปขังในสายยางราว 30 ซม.)
14.เอาท่อลมเสียบปลายสายยาง ที่ตอนนี้มีน้ำยาคาร์บคลีนเนอร์บรรจุไว้แล้ว
15.อัีดลมเข้าไปในสายพลาสติกให้มีแรงดันน้ำยาล้างไปออกที่ปลายหัวฉีด
16.ปล่อยไฟ 12 โวลต์ฺจากแบตเตอรี่เข้าไปในหัวฉีด กด/ปล่อย เร็วจำลองการทำงานของหัวฉีด ราว 100-150 ครั้ง ต่้อการล้าง 1 รอบ
17.ตอนนี้จะใช้เวลาราว 1-2 นาที ตอนแรกน้ำยาคอนแทกคลีนเนอร์จะออกมาเป็นเส้นก่อน แล้วจะเป็นฝอยภายหลัง
18.ดำเนินการดังนี้จนครบ 4 หัว รอบที่ 1
19.ทำซ้ำรอบที่ 2 ทั้ง 4 หัวในลักษณะเดียวกัน

20.ถ้าเห็นว่าสะอาดแล้วพอใจ ก็ทำ 2 รอบ ถ้ายังไม่พอใจ ก็ทำ 3 รอบ 4 รอบก็ตามใจ และสบายใจ

21.ถ้าพอใจก็ประกอบอุปกรณ์กลับ เสร็จแล้วครับ

22.ไหนๆ ก็ทำมาขนาดนี้แล้ว ก็ล้างมอเตอร์เดินเบาซะด้วยดีไหม วิธีการอย่างที่เคยทำแหละ ไม่ของฉายซ้ำแล้วกัน

23. Reset ECU คือหลังจากใส่ขั้ว ลบ แบคเตอรี่ ขันแน่นแล้ว ยังไม่สตาร์ท บิดกุญแจ ON เหยียบคันเร่งค้าง 30 วินาที ปล่อย
     คันเร่ง แล้วสตาร์ทตามปกติ


สำหรับผลการทำงานวันนี้เป็นที่น่าพอใจของเจ้าของรถและของผมที่เพิ่งลองล้างหัวฉีด

ด้วยตนเองเป็นครั้งแรกเครื่องเดินเรียบเร่งนิ่มอย่างเห็นได้ชัด รอดไปไม่ต้องเสียตังค์เปลี่ยนหัวฉีด

 2,000.-บาทไม่มีกระปุ้กกระปั้กให้ปวดหัวเหมือนตอนแรกเลย ระวังโอริงหายนะครับมันมีเหมือนกัน

  8 ตัวถ้าถอดออกมาแล้วเก่ากรอบบี้แบนก็เปลี่ยนซะด้วยนะครับ เดี๋ยวหัวฉีดรั่วอีก

 ใครหัวฉีดตันลองทำดูนะครับ ไม่ยาก ถ้าใจกล้าและอย่าใช้แรงช้างครับ

..เป็นความรู้ที่ดีมากๆ ผมเคยพาเจ้า คัน 405 Sri ไปล้างถึงหาดใหญ่จ่ายไปพันกว่าบาท..คราวหน้าจะลองทำเองครับ..
 :ยินดี อุอุอุ:

 :สุดยอด:
ผมมีหัวฉีดอยู่ 2 ราง แปดหัว สงสัยต้องลองล้างไว้สำรองซะแว้วครับ

 :สุดยอด: ยอดเยี่ยมครับ

หาซื้อเครื่อง อุลตร้าโซนิค ที่เค้าไว้ล้างเครื่องประดับ น่าจะประมาณ 800 - 900 บาท หรืออาจจะ พันนิดหน่อย  เอาอัลกอฮอล์ ล้างเครื่องมือแพทย์ ใส่ให้ท่วมหัวฉีด ตั้งเวลา สัก2 นาที เปิดเครื่องให้มันทำงาน  ก็จบครับ  ทำคนเดียวได้  เครื่องก็ใช้ได้ตลอดจนเครื่องเสีย  อัลกอฮอลเช็ดแผลขวดละ ไม่เกิน 50 บาท ล้างได้ 2 เที่ยว 

ไม่มีปั๊มลม เลยทำแบบนี้ คล้ายๆกัน  แต่ใช้ปั๊มลมน่าจะล้างมันส์กว่า

http://www.youtube.com/watch?v=VFJlTfHyrUk


ใช่ครับผมเคยเห็นเพื่อนใช้เครื่องล้างอัลตร้าโซนิคตัวเล็กๆ มาล้างหัวฉีด ก็ได้ผลดี   ตอนนั้นราคาแปดเก้าร้อย ซื้อแถวบ้านหม้อ