พิมพ์หน้านี้ - 406สตาร์ทติดยากหลังจากติด แก็ส

**** 406 D8 หลังจากไปติดตั้ง แก็สมาแล้วใช้งานได้ระยะเดือนเศษ พบว่าเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ตอนอุณหภูมิปกติ(เช่นจอดรถข้ามคืน)กว่าเครื่องจะติดได้ต้องสตาร์ทกันยาวถึง3ครั้ง กว่าจะติด แล้วพอเครื่องติดรอบเครื่องก็ค่อยๆขึ้นนนนน ไปอยู่ที่ 1150 รอบ แล้วก็ลงมาที่ 1000 รอบ จนมาที่ 950 รอบ ความร้อนที่เริ่ม 70 องศา แต่ถ้าดับเครื่องยนต์แล้วสตาร์ทใหม่ จะติดทันที
**** แต่เมื่อลอง สตาร์ทด้วย แก็ส เลย เครื่องก็ติดง่ายทันที

**** มีใครเป็นแบบผมบ้างหละ

บังเอิญหาเจอในเว็บอื่นเขาพูดถึง ลองดูนะครับ

ปัญหาคือ สตาร์ทติดยาก แต่ถ้าเครื่องร้อน สตาร์ทติดง่าย

ต้นของเหตุน่าจะมาจาก หัวฉีดรั่วครับ

คุณจะต้องมีคำถามว่า ทำไมหัวฉีดรั่ว จึงไปเกี่ยวกับเวลาสตาร์ทเย็น (ต่อไปเวลาเครื่องยนต์เย็นตัวแล้วสตาร์ท ผมจะเรียกว่า "สตาร์ทเย็น"นะครับ)

เวลาที่เราดับเครื่องยนต์แล้ว ระบบทุกอย่างจะดับหมดครับ แต่ว่า ระหว่าง ปั๊มติ๊ก ผ่านกรองเบนซิน ไปที่ท่อร่วมปรับแรงดันน้ำมัน มาที่หัวฉีด จะยังมีแรงดันน้ำมันอยู่ครับ ถ้าหัวฉีดรั่ว แรงดันน้ำมันก็จะดันน้ำมันเข้าหัวฉีดรั่วเข้าไปในกระ บอกสูบครับ กว่าเครื่องจะเย็นตัวสนิท ก็ใช้เวลา 3 - 4 ชม. เป็นอย่างต่ำ ระหว่างช่วงนี้ น้ำมันก็หยดเข้ากระบอกสูบไปเรื่อยๆ จนกว่าท่อน้ำมันจะหมดแรงดัน เวลาคุณสตาร์ทเย็น จึงเกิดอาการสตาร์ทติดยาก (ถ้าเป็นระบบคาบิวเรเตอร์ เขาเรียกกันว่า น้ำมันท่วม) หัวเทียนก็คงเปียก จึงสตาร์ทติดยากเข้าไปใหญ่ แต่ก็คงเป็นเพราะว่า หัวฉีดรั่วยังไม่มากเท่าไหร่ครับ จึงติดได้ในไม่กี่ครั้ง เพราะช่วงสตาร์ทไปเรื่อยๆ ลูกสูบมีการทำงานขึ้นลงตามไดสตาร์ท วาล์วมีการเปิดปิด หัวเทียนหัวอื่นๆ ก็มีการจุดระเบิด จึงเกิดความร้อน ทำให้น้ำมันเบนซินส่วนหนึ่งระเหยออกมา จนได้ระดับที่พอจะติดได้ เครื่องจึงติด แต่เพราะว่าในกระบอกสูบยังมี น้ำมันคงค้างอยู่ที่เผาไหม้ไม่หมด ถูกลูกสูบขับดันออกมาท่อไอเสีย จึงทำให้เกิดควันดำครับ

และที่เวลาเครื่องร้อนทำไมจึงไม่เกิดปัญหา ก็เพราะว่า หัวฉีดรั่วยังไม่มากจนถึงขั้นวิกฤตไงครับ หัวเทียนยังทำงานสมบูรณ์อยู่ น้ำมันก็รั่วหยดไม่มากในเวลาสั้นๆ ระบบเผาไหม้จึงทำงานต่อเนื่องไปได้ครับ แต่ต้องรู้ไว้ว่า รถคุณเริ่มกินน้ำมันเชื้อเพลิงแล้วนะครับ อัตราการกินน้ำมันจะมากขึ้นโดยคุณไม่รู้ตัวครับ

Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย