ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2024 เวลา 10:22:35

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  มีปัญหา /สอบถาม /ให้คำแนะนำ รถยนต์ peugeot แต่ละรุ่น
| |-+  30X
| | |-+  พัดลมหม้อน้ำ ทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: พัดลมหม้อน้ำ ทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง  (อ่าน 9365 ครั้ง)
guyboyz
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม 2014 เวลา 10:07:49 »


ติดเครื่อง  ความร้อน<70  พัดลม = ไม่ติดทั้ง 2 ตัว
วิ่ง ปิดแอร์  ความร้อน 70-75  พัดลม = ไม่ทราบสถานะ
ติดเครื่อง จอดเดินเบา  ความร้อน 85  พัดลม = ไม่ติดทั้ง 2 ตัว (หลังใช้งานไปแล้ว 20 นาที)
ติดเครื่อง จอดเดินเบา  ความร้อน 93 และขึ้นไปเรื่อยๆ พัดลม = ยังไม่ติดทั้ง 2 ตัว
ติดเครื่อง จอดเดินเบา ความร้อน 95 เปิดแอร์ พัดลม = ไม่ติดทั้งสองตัว

ดับเครื่อง กุญแจบิดไปที่ on  ความร้อน 87 = พัดลมฝั่งคนขับ ทำงาน step 2  พัดลมฝั่งคนนั่งไม่ทำงาน
ดับเครื่อง เอากุญแจออก ความร้อน 86 = พัดลมหยุดทำงานทั้ง 2 ตัว

ใส่กุญแจบิดไปที่ on ความร้อน 85 = พัดลมฝั่งคนขับ ทำงาน step 2  พัดลมฝั่งคนนั่งไม่ทำงาน
ติดเครื่อง จอด ความร้อน 85 = พัดลมทำงานทั้ง 2 ตัว step 2 (บิดสตาร์ทต่อจากจังหวะ พัดลมทำงาน step 2 ข้างเดียวอยู่)
ติดเครื่อง จอด ความร้อน 80 = พัดลมหยุดทำงานทั้ง 2 ตัว
ติดเครื่อง จอด เปิดแอร์ ความร้อน 80 = พัดลมทำงานทั้ง 2 ตัว step 1
วิ่ง ปิดแอร์ ความร้อน <80 = พัดลมทำงานทั้งสองตัว ตามจังหวะควบคุมปกติ  ความร้อนไม่เกิน 80 ขณะใช้งาน จนกระทั่งเลิกใช้งาน สังเกตจากพัดลมทำงาน 2 ตัว จังหวะ 1 ขณะจอดติดเครื่อง

ทำไมบางครั้ง พัดลมไม่หมุน ทั้งๆที่ถึงอุณหภูมิที่ต้องทำงาน แม้จะเปิดแอร์ก็ยังไม่ยอมหมุน  แต่ ดับเครื่องสตาร์ทใหม่ ระบบพัดลมกลับมาทำงานตามปกติ สังเกตุจากเปิดแอร์ พัดลมก็ทำงานเลยแม้อุณหภูมิหม้อน้ำไม่ถึงก็ตาม ไม่ทราบว่าต้องตรวจเช็คตรงไหนครับ
- น้ำไม่หาย ความร้อนเท่ากันทั่วหม้อน้ำ ไม่น่าตัน
- ไล่เช็ครีเลย์ ทั้งในและนอก อยู่ในสภาพปกติ พร้อมฉีดไล่ความชื้น
- ฟิวส์ที่หัวรถไฟปกติ
- เซ็นเซอร์หม้อน้ำที่หลังเครื่องก็แน่นดี แต่ไม่น่าเกี่ยว เพราะแม้เปิดแอร์มันก็ยังไม่ทำงานในบางครั้งเลย
- แปรงถ่านไม่น่าหมด เพราะ พัดลมยังลมแรงดีตอนที่ทำงาน และยังทำงานพร้อมกันทั้ง 2 ตัวได้ตาม จังหวะการควบคุม (ในตอนที่มันอยากปกติ)

รายการสงสัยแต่ไม่สามารถเช็คได้
- รีเลย์ 3 ตัวที่แผงพัดลมหม้อน้ำ เนื่องจากถอดกระจังไม่เป็นครับ (306sr P3 แปลง)
- กล่องควบคุมพัดลม  หาไม่เจอ

 อะไร อะไร อือๆๆ งง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
40 ha
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 958


« ตอบ #1 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม 2014 เวลา 10:58:54 »


รีเลย์เสียตัวนึง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
guyboyz
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #2 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม 2014 เวลา 15:00:36 »


หมายถึงรีเลย์ 3 ตัวที่แผงพัดลมหรือเปล่าครับ  เพราะเท่าที่สังเกตๆ ถ้าดับเครื่องและสตาร์ทใหม่ บางทีก็กลับมาทำงานปกติ พอดับเครื่องสตาร์ทใหม่อีกบางทีก็ไม่ยอมทำงานตามปกติ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
เจ้าตัวเล็ก 205
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 631



« ตอบ #3 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม 2014 เวลา 20:14:24 »


หมายถึงรีเลย์ 3 ตัวที่แผงพัดลมหรือเปล่าครับ  เพราะเท่าที่สังเกตๆ ถ้าดับเครื่องและสตาร์ทใหม่ บางทีก็กลับมาทำงานปกติ พอดับเครื่องสตาร์ทใหม่อีกบางทีก็ไม่ยอมทำงานตามปกติ
ตามนั้นครับรีเลย์เสียเคยเป็นครับเปลียนรีเลย์แล้วหายครับของผม205แปลงพัดลมครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

เริ่่มต้นจากจุดเล็กๆเปอร์โย
205
ศรีเทพ 306
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 215


« ตอบ #4 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม 2014 เวลา 20:53:42 »


รีเลย์อีกเสียงครับ
น่าจะเสียไม่ต่ำกว่า 2 ตัว หรืออาจทั้งสามตัว
เพราะจังหวะ step 1 พัดลมจะทำงาน 2 ตัวแต่รอบต่ำเพราะต่ออนุกรมกันกล่าวคือไฟของพัดลมจะใช้ตัวละ 6 โวล์ การต่อแบบนี้ถ้าพัดลมหรือรีเลย์ตัวใดตัวหนึ่งมีปัญหาพัดลมจะไม่ติดทั้ง 2 ตัว
แต่พอถึง step 2 รีเลย์จะทำงานทั้ง 3 ตัวและไฟที่จ่ายจะแยกอิสระต่อกันจึงเห็นได้ว่าพัดลมทำงานตัวเดียว
รีเลย์ที่ควบคุมฝั่งคนนั่งน่าจะเสียแน่นอน
ส่วนรีเลย์ของฝั่งคนขับอาจเสีย
และรีเลย์ตัวสั่ง step 2 ก็อาจเสีย
การที่ฝั่งคนขับทำงานบ้างไม่ทำงานบ้างก็ต้องดูที่ 2  ตัวล่างที่ว่านั่นแหละครับ
ลองเช็คดูครับทางที่ดีเปลี่ยนหมดเลยดีกว่าครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
40 ha
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 958


« ตอบ #5 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม 2014 เวลา 23:02:11 »


รีเลย์อีกเสียงครับ
น่าจะเสียไม่ต่ำกว่า 2 ตัว หรืออาจทั้งสามตัว
เพราะจังหวะ step 1 พัดลมจะทำงาน 2 ตัวแต่รอบต่ำเพราะต่ออนุกรมกันกล่าวคือไฟของพัดลมจะใช้ตัวละ 6 โวล์ การต่อแบบนี้ถ้าพัดลมหรือรีเลย์ตัวใดตัวหนึ่งมีปัญหาพัดลมจะไม่ติดทั้ง 2 ตัว
แต่พอถึง step 2 รีเลย์จะทำงานทั้ง 3 ตัวและไฟที่จ่ายจะแยกอิสระต่อกันจึงเห็นได้ว่าพัดลมทำงานตัวเดียว
รีเลย์ที่ควบคุมฝั่งคนนั่งน่าจะเสียแน่นอน
ส่วนรีเลย์ของฝั่งคนขับอาจเสีย
และรีเลย์ตัวสั่ง step 2 ก็อาจเสีย
การที่ฝั่งคนขับทำงานบ้างไม่ทำงานบ้างก็ต้องดูที่ 2  ตัวล่างที่ว่านั่นแหละครับ
ลองเช็คดูครับทางที่ดีเปลี่ยนหมดเลยดีกว่าครับ
   การอธิบายอาการละเอียด ทำให้วิเคราะห์ปัญหาได้  ต้องลองเปลี่ยนใหม่หมด 3 ตัวไปเลย (เปลียนทีละตัวนะ จะได้รู้ว่าตัวไหนเสียบ้าง)  .. แต่ การที่รีเลย์มันเสียหลายตัวพร้อมกัน สาเหตุหลักมันไม่ได้อยู่่ที่รีเลย์แล้ว แสดงว่ามีเหตุอื่นอีก เช่น ความร้ัอนในสายไฟ ขั้วรีเลย์หลวม ขั้วฟิวส์  ถ้าเปลี่ยนรีเลย์แล้วยังเสียอีกต้องไล่เปล่ี่ยนให้หมด
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
P peugeot
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,285



« ตอบ #6 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2014 เวลา 00:22:58 »


ของผมคันเก่าเคยสายไฟขาดใน พอไปขยับๆสายแล้วพัดลมถึงจะทำงาน ลองเช็คดูสายด้วยครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
tuy
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 54


« ตอบ #7 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2014 เวลา 06:09:59 »


เปลี่นนชุดสายไฟพัดลม+เปลี่ยนกล่องควบคุมพัดลม จบแน่ๆครับ ไออย๋า ไออย๋า
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
guyboyz
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #8 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2014 เวลา 16:40:53 »


วันนี้ลองสังเกตอาการเพิ่ม จับอาการได้ดังนี้ครับ

1. ถ้า ลองถอดรีเลย์ ในห้องเครื่อง ทั้งหมดที่อยู่ในกล่องข้างแบต (ไม่ใช่ รีเลย์ 3 ตัวที่แผงพัดลม ) แล้วเสียบเข้าไปใหม่ อันที่จริงผมไม่รู้ว่ารีเลย์ตัวไหนเป็นของตัวไหน เลยเหมาหมดไปก่อน (เหมือนรีเซ็ท) หลังจากนั้นบิดสตาร์ทใหม่ระบบพัดลมก็จะกลับมาทำงานตามเงื่อนไขปกติ ทั้ง step 1 และ 2 ไม่ว่าจะดับเครื่องและสตาร์ทใหม่อีกกี่ครั้งก็ตาม (ลองไป 3-4 ครั้ง แต่ต้องไม่ทิ้งช่วงห่างเกินไป) แสดงว่า step 1 และ 2 ของผมยังทำงานปกติหรือเปล่าครับ

2. หลังจากใช้งานภายใต้การทำงานของระบบพัดลมที่ทำงานเป็นปกติแล้ว  เมื่อจอดทิ้งไว้ข้ามคืน  พอเช้ามาจะใช้งานระบบพัดลมกลับไม่ทำงานตามปกติอีกแล้ว  ต้องทำการดึงรีเลย์ในห้องห้องเครื่องออกแล้วเสียบใหม่(ไม่ใช่ รีเลย์ 3 ตัวที่แผงพัดลม ) ตามข้อ 1 ระบบพัดลมก็จะกลับมาทำงานตามปกติอีกครั้ง  ถ้ารีเลย์หลวมขาขยับ ทำไมแค่จอดข้ามคืนโดยห้องเครื่่องไม่สั่นไม่สะเทือนกลับเกิดปัญหาอีก[/color]

3. ในช่วงระหว่างใช้งานที่รถวิ่ง ไม่มีอาการของพัดลมทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง สังเกตจากเข็มอุณหภูมิที่ขึ้นต่อเนื่องแบบเรื่อยๆไม่มีเด้งไปเด้งมา  คือถ้าไม่ทำงานก็จะไม่ทำงานเลยแม้อุณหภูมิจะสูงเกิน 95 หรือจะเปิดแอร์ก็ตาม  แสดงว่าสายขาดใน ขาหลวม ก็ไม่น่าใช่สาเหตุหรือเปล่าครับ  เพราะช่วงใช้งานรถมีการสั่นสะเทือน น่าจะมีอาการทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง

4. ณ ตอนนี้เลยต้องใช้วิธีการเช็คก่อนออกรถ ทดสอบด้วยการติดเครื่องแล้วเปิดแอร์ ถ้าพัดลมทำงานทั้งสองตัว ก็แสดงว่าจะสามารถใช้งานต่อไปได้ตามปกติ ความร้อนจะไม่ขึ้น  แต่ถ้าเปิดแอร์แล้วพัดลมไม่ทำงาน ต้องดับเครื่องแล้วทำตามข้อ 1 ก่อน เพื่อปลุกระบบพัดลมให้ทำงานตามปกติ ก็จะสามารถใช้รถต่อได้ตามปกติ
 
** เพิ่มเติม 26/12/57 **

หลังจากที่ขับรถมาทำงานตอนเช้าแบบ ระบบพัดลมไม่ทำงาน ดีว่าใช้เวลาแค่ 20 นาที ความร้อนเลยอยู่แค่ 95 พอถึงที่ทำงานเสร็จก็จอดทิ้งไว้เลย ก่ะว่าตอนเย็น ค่อยมาจัดการดึงรีเลย์และค่อยเสียบเข้าไปใหม่ตาม ข้อ 1 เพื่อให้ระบบพัดลมกลับมาทำงานและขับกลับบ้าน  พอถึงตอนเย็นก็จะมาสตาร์ทรถปรากฏว่าพบจุดน่าสังเกตอยู่อย่าง ก่อนที่จะมีอาการระบบพัดลมจะมีปัญหา คือก่อนหน้านี้ถ้าบิดกุญแจไปที่ on ยังไม่สตาร์ท ไฟบนหน้าปัดจะโชว์แค่ ไฟแบต / ไฟK / ไฟ ABS (ไม่โชว์ไฟน้ำมันเครื่อง ไฟ STOP) แล้วไฟ ABS จะดับไปเหลือแต่ไฟ K กับ แบต (รถอีกคันไฟหน้าปัดทุกอย่างจะดับต่อเมื่อสตาร์ทแล้ว)  แต่เท่าที่สังเกตุคือช่วงที่ระบบพัดลมเริ่มมีปัญหานั้นตอนที่บิดกุญแจไปที่ on ไฟหน้าปัดจะโชว์ค้างหมดไม่ดับ (แถมมีไฟ STOP / ไฟน้ำมันเครื่อง โชว์เพิ่มขึ้นมาด้วย จากที่ไม่เคยโชว์)  ยกเว้นไฟ ABS ที่โชว์แป๊บเดียวแล้วดับไป นอกนั้นไฟอื่นๆจะดับหลังจากสตาร์ทแล้ว เหมือนกับรถทั่วๆไป แล้วก็เจอว่าระบบพัดลมมีปัญหาตั้งแต่นั้นมา  และมาล่าสุดที่จะขับกลับบ้านวันนี้ปรากฏว่าการบิดกุญแจ on ครั้งนี้ ไฟหน้าปัดกลับไปเป็นเหมือนตอนที่ระบบพัดลมไม่มีปัญหา คือ ไฟโชว์แค่ K กับ แบต แล้วดับไปหลังจากจะสตาร์ท ส่วนไฟ STOP และ ไฟน้ำมันเครื่อง ไม่โชว์ให้เห็น ซึ่งพบว่าระบบพัดลมกลับมาทำงานดังเดิมอีกครั้ง ทดสอบโดยการเปิดแอร์ พัดลมทำงาน STEP 1 สองตัวปกติ  และที่ หม้อน้ำ 80องศา พัดลมทำงาน STEP2 ทั้ง 2 ตัว ตามปกติ

  สรุปเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับไฟ sensor ตอนบิดกุญแจ on ดังนี้นะครับ

ตอนระบบพัดลมผิดปกติ = K + Batt + STOP + น้ำมันเครื่อง โชว์ค้างหมด และดับไปตอนเครื่องติดแล้ว ส่วน ABS โชว์และดับไปก่อนจะสตาร์ท
ตอนระบบพัดลมปกติ = K+ Batt โชว์และดับตอนเครื่องติดแล้ว ส่วน ABS โชว์และดับไปก่อนจะสตาร์ท
ทั้ง 2 เหตุการณ์ ขณะวิ่งใช้งาน ไม่มีไฟใดๆติดขึ้นมาให้เห็น ยกเว้น  ABS ที่ติดบ้าง ไม่ติดบ้าง

ปล. ณ ล่าสุด ระบบพัดลมกลับมาทำงานเหมือนเดิมแล้ว โดยยังไม่มีการไปจัดการหรือยุ่งกับ รีเลย์ 3 ตัวที่แผงพัดลมและ กล่องควบคุมพัดลมแต่อย่างใดครับ

...ตอนนี้เลยงงไปหมดครับ เหมือนจะรีเลย์เสีย แต่ดันมีจุดน่าสังเกตไปเกี่ยวกับไฟ sensor ต่างๆตอน บิดกุญแจ on พอจะชี้ชัดถึงตัวปัญหาได้มั้ยครับ ว่าเป็นที่ตัวไหนกันแน่  อยากแก้จากเบาๆไปก่อนอ่ะครับ กลัวจะกลับมาเป็นอีกครับ  ขอบคุณทุกๆท่านมากครับ


แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
guyboyz
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #9 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 09 มกราคม 2015 เวลา 15:39:06 »


UPDATE  9/1/2015

 ปัญหายังไม่หายครับ คือ ถ้าจอดรถทิ้งไว้นานสักข้ามคืน ระบบพัดลมไม่ทำงานอีกแล้วครับ แต่จะทำงานเฉพาะตอนความร้อนเกิน 80 และต้องดับเครื่อง บิดกุญแจไว้ on เท่านั้น ! ระบบพัดลมจึงจะกลับมาทำงานตามปกติและในการ start ครั้งต่อๆไป (สังเกตจากดับเครื่องแล้วบิดกุญแจกลับมาที่ on พัดลม step2 ทำงานทันที และหยุดเมื่อความร้อนไม่เกิน 80 ซึ่งถ้าถอดกุญแจออกพัดลมก็หยุดตามไม่มีหมุนค้าง)  .........แต่จะหยุดทำงานอีก เมื่อมีการจอดทิ้งไว้เป็นชั่วโมงๆ หรือข้ามคืน !!

*(1) และถ้าไม่อยากรอให้เครื่องร้อนเกิน 80 เพื่อที่จะปลุกระบบพัดลมให้กลับมาทำงาน  ก็ต้องทำการติดเครื่องก่อนแล้วดับเครื่อง หลังจากนั้นดึงรีเลย์คอมแอร์ไปสลับใส่กับรีเลย์ตัวอื่น ถึงจะเป็นการปลุกระบบให้ทำงานอีกครั้งได้  แต่หากสลับรีเลย์คอมแอร์ก่อนโดยที่ยังไม่ติดเครื่องเป็นครั้งแรกหลังจากจอดทิ้งข้ามวันหรือจอดไว้นานๆก็จะไม่สามารถกระตุ้นระบบพัดลมได้ สรุปคือต้องทำการสลับรีเลย์คอมแอร์หลังจากมีการติดเครื่องในสถาวะที่ระบบพัดลมไม่ทำงานอยู่ก่อนเท่านั้น !!

ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับรีเลย์คอมแอร์  แต่!.....ลองไม่ใส่รีเลย์ให้คอมแอร์ ก็มีอาการเหมือนเดิม ถ้าจอดทิ้งข้ามคืนหรือจอดทิ้งไว้นานๆ คือ

ในกรณีที่ระบบพัดลมไม่ทำงานอยู่แล้ว  ลองกดเปิด AC ระบบพัดลมก็ไม่ทำงานตามปกติ คือ เงียบ ทั้ง 2 ตัว หรือถ้าใส่รีเลย์ตัวใหม่ก็เป็นเช่นเดิมไม่มีผลอะไร
ในกรณีที่ระบบพัดลมอยู่ในสภาวะทำงานอยู่แล้ว โดยการกระตุ้นระบบตาม *(1) ถ้าถอดรีเลย์คอมแอร์ออก แต่กดเปิด AC ระบบพัดลมก็ยังคงทำงานตามปกติทุก step ทุกตัว คือ step 1 ทั้ง 2 ตัว และที่ step 2 ก็ทำงานปกติ เมื่ออุณหภูมิถึง 80 แม้คลัชคอมแอร์ไม่ทำงานเพราะถอดรีเลย์ออกไป 

-- ผู้ต้องสงสัยหลัก ---

1. กล่องควบคุมพัดลม <=== สงสัยว่าทำไม แค่จอดรถไว้ข้ามคืนหรือจอดนานๆ กลับมีปัญหา ทั้งๆที่แบตก็ปกติดี ระบบไฟขณะจอดเกิดการผิดปกติเช่นั้นหรือ แล้วทำไมเป็นแต่กับระบบพัดลม ทำไมไม่เป็นกับระบบอื่นๆ 
   
2. Pressure switch ที่ ดรายเออร์  <=== แต่ก็สงสัยว่าถ้ามันเสีย  ทำไมแค่ไปสลับรีเลย์คอมแอร์ ระบบก็กลับมาใช้งานได้  และแม้ปลุกระบบมาได้แล้ว ทดลองไม่ใส่รีเลย์ก็ให้ผลเหมือนเดิม แต่ตอนที่เปิดแอร์ ระบบแอร์ก็เป็นปกติทุกอย่าง ยกเว้นระบบพัดลม

3. Sensor อุณหภูมิที่เกี่ยวข้อง <=== เท่าที่ค้นหาข้อมูลส่วนใหญ่จะเป็นอาการของพัดลมทำงานค้างซะมากกว่าเพราะการส่งสัญญาณที่ผิดพลาด  แต่นี่เป็นอาการพัดลมไม่ค่อยอยากทำงาน 

4. ECU  <=== สังเกตตอนที่ระบบพัดลมไม่ทำงาน แม้จะเปิดแอร์  แม้อุณหภูมิสูงเกิน 80 ก็ไม่ยอมสั่งให้พัดลมทำงาน  แต่มาฉลาดตรวจเจอได้ตอนเครื่องร้อนเกิน 80 หลังดับเครื่องแล้วบิดกุญแจมาที่ on จึงกลับมาสั่งให้ระบบพัดลมมาทำงาน ตามเงื่อนไขของกล่องควบคุมพัดลมอีกครั้ง  จนกว่าจะมีการจอดทิ้งไว้นานๆอีกครั้ง ECU แล้วกลับมานิ่งเฉยอีกครั้งเมื่อมีการ start ครั้งต่อไป

ขอคำแนะนำด้วยครับ.....

ปล. ถอดรีเลย์มาเช็คทุกตัวแล้ว สถาพยังดี การทำงานยังแจ๋ว
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
AB NORMAL
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,299


« ตอบ #10 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 09 มกราคม 2015 เวลา 16:00:45 »


เปลี่ยนกล่องควบคุมดูก่อนครับ มันรวน ไม่ต้องสงสัยมาก อิๆ  กล่องละไม่กี่ร้อยครับ
หรือไม่ก็ไปให้ช่างไล่ระบบให้ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
40 ha
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 958


« ตอบ #11 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 09 มกราคม 2015 เวลา 16:22:28 »


เช็ครีเลย์ไม่ได้หรอกครับ บางทีรีเลย์ไม่ได้เสีย แต่ปลั้กมันเสีย  ต้องมีมิเตอร์เช็คตอนที่มันไม่ทำงาน แล้วค่อยๆ ไล่ ว่าวงจรมันขาดตรงไหนจึงจะรู้จุด   เริ่มจากลองหาวงจรพัดลมมาดู แล้วเช็คดูว่าไฟสั่งการทำงานรีเลย์มันมาตามเสต็ปมั้ย
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
was
สิงห์มัธยม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 194


« ตอบ #12 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 มกราคม 2015 เวลา 12:28:59 »


ถ้าพัดลมตังใดตัวหนึ่งแปลงถ่านหมด..มันก็รวนได้ครับ...เช็คก็ยากคือต้องแกะมอเตอร์เลย
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
tanu
สิงห์มัธยม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107


« ตอบ #13 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 10 มกราคม 2015 เวลา 22:53:04 »


ถ้าเคยมีชน มาบ้างแบบของผม ให้ดู เบ้า พัดลม ครับ พัดลมเปอร์โยต์ จะมีขั้วต่อ สายไฟ เป็น ขั้วยื่น ถ้า ชนมาจะขยับ หรือ ถอย ออกมา ทำให้ ติดบ้างไม่ติดบ้างเหมือนกันครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
guyboyz
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #14 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม 2015 เวลา 17:18:42 »


** update 15/1/58

 จากการสังเกตอาการต่างๆ พอจะตีวงแคบได้ดังนี้ครับ

 สาเหตุจาก สายขาด / ขาไม่แน่น / ปลั๊ก / รีเลย์ / แปรงถ่าน / ฟิวส์  ไม่น่าใช่สาเหตุเพราะถ้ามีสาเหตุมาจากพวกนี้ น่าจะมีอาการทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง ในขณะใช้งาน แต่!... อาการที่พบ ทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง มาจากปัจจัยของการบิดกุญแจ on
ถ้า.. บิดกุญแจ on ไฟเช็คสถานะ sensor ที่หน้าปัด ขึ้นดังนี้
           1.1 ไฟ STOP + ไฟแรงดันน้ำมันเครื่อง  = ไม่โชว์ และดับไปหลังเครื่อง start แล้ว= ระบบพัดลมจะเป็นปกติ  และขณะใช้งานจะไม่มีอาการติดๆดับๆใดๆตลอดการใช้งาน
           1.2 ไฟ STOP + ไฟแรงดันน้ำมันเครื่อง  = โชว์ และดับไปหลังเครื่อง start แล้ว= ระบบพัดลมจะไม่ทำงานในทุกเงื่อนไข  คือไม่ว่าจะเปิดแอร์หรืออุณหภูมิหม้อน้ำถึงก็ตาม   และขณะใช้งานจะไม่มีอาการติดๆดับๆใดๆตลอดการใช้งาน
             
   ส่วนการปลุกให้ระบบกลับมาทำงานตามปกติ ก็ตามที่เคยได้อธิบายก่อนหน้านี้ครับ คือติดเครื่อ่งก่อนแล้วดับเครื่องแล้วดึงรีเลย์แอร์ออกแล้วเสียบใหม่  หรือจะรอให้ร้อนเกิน 80 แล้วดับเครื่องแล้วบิดกลับมาที่ on สตาร์ทใหม่ต่อทันที โดยห้ามดับเครื่องถอดกุญแจทิ้งไว้นานๆ


**  เลยอยากทราบว่า วงจรหรืออุปกรณ์ใดที่ควบคุม ระบบตรวจสอบ sensor ต่างๆที่หน้าปัดก่อน start เครื่องยนต์ครับ   คิดว่าต้นเหตุน่าจะมาจากตัวนี้ที่ส่งสัญญาณเตือนชัดเจน
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
40 ha
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 958


« ตอบ #15 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 16 มกราคม 2015 เวลา 10:13:04 »


ไฟหน้าปัดขึ้นปรกติ / พัดลมจะเสีย
ไฟหน้าปัดเสีย / พัดลมจะปรกติ       แบบนี้รึเปล่าครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
guyboyz
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #16 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 16 มกราคม 2015 เวลา 13:30:33 »


ใช่เลยครับคุณ 40้ha  เพราะตอนพัดลมปกติ ไม่เคยมีไฟเช็ค STOP กับแรงดันน้ำมันเครื่องขึ้นครับ  แต่เห็นรถปกติทั่วไปไฟเช็คสถานะต่างๆมันต้องโชว์ก่อนสตาร์ทอยู่แล้ว ตอนแรกที่ได้รถมาก็ยังนึกว่าสงสัย ตัดวงจร sensor STOP กับ แรงดันน้ำมันเครื่องออกไป  เพราะวางเครื่อง 405sri มาครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
40 ha
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 958


« ตอบ #17 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 16 มกราคม 2015 เวลา 14:11:58 »


จู่ ๆ ก็เป็น    หรือ   มันเป็นมาตั้งแต่.... ได้รถมา... ทำเครื่องมา... ฯลฯ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
guyboyz
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #18 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 16 มกราคม 2015 เวลา 15:45:06 »


จู่ๆ ก็เป็น หลังจากเอาน้ำฉีดล้างแผงแอร์ด้านหน้าตอนล้างรถครับ โดยตอนฉีดน้ำเข้าไปก็ดูแล้วว่าไม่น่าจะไปโดนอุปกรณ์อะไรที่อ่อนไหวต่อน้ำ นอกจากหม้อน้ำกับท่อต่างๆที่ติดหม้อน้ำ เพราะไม่ได้ฉีดแรง ซึ่งล้างเสร็จก็เอารถออกไปวิ่งต่อเลยความชื้นสะสมไม่น่าเกิดเพราะวิ่งระยะทางยาวอยู่  รถก็ยังปกติดีและไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ   แต่หลังจากนั้น 2 วัน อาการไฟเช็ค STOP กับแรงดันน้ำมันเครื่อง โชว์ก่อนสตาร์ทพร้อมระบบพัดลมไม่ทำงานก็เกิดขึ้นครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
40 ha
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 958


« ตอบ #19 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 16 มกราคม 2015 เวลา 16:50:44 »


พวกอาการเป็น ๆ หาย ๆจะเชคยาก บางทีเกิดหลายสาเหตุประกอบกัน อาการจู่ ๆ ก็ติด ๆ ดับ ๆ พวกนี้เดาว่าหนีไม่พ้นความเสื่่อมของทางเดินสายไฟ ขั้วต่อ  ขั้วสวิทซ์กุญแจ ฟิวส์ ขั้วฟิวส์ แบตเตอรี่และไดชาร์จ  บางทีไฟไม่พอมาทำให้รีเลย์ทำงาน (ไฟไม่พอ ขั้วรีเลย์ไม่ดี ฯลฯ) อาการจู่ ๆ ก็เป็น เกิดจากความเสื่่อมมาถึงจุดที่ไม่ทำงาน มันก็เริ่มทำบ้างไม่ทำบ้าง 
การจะแก้เองได้ต้องมีความรู้เรื่องวงจรไฟฟ้าบ้าง พอมันไม่ติด ก็ไล่เช็คว่าไฟตรงไหนไม่มา  ไล่ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็เจอ ถ้าไฟไม่พอก็เดินรีเลย์ช่วย   กรณีไฟหน้าปัทม์ไม่ติดอาจเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็ได้ หรือแบตอาจเสื่อมก็ได้   ที่พูดมานี้เดาเอานะครับ แต่ผมเคยเจอปัญหาพวกนี้แล้ว ผ่านมาหลายช่าง สุดท้ายเดินสายใหม่เองเลย ฟิวส์หัวรถไฟโยนทิ้ง เอาฟิวส์ญีปุ่นตัวใหญ่ ๆ มาใส่  ปัญหาก็จบ (รู้งี้ทำเองตั้งนานแล้ว555)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
guyboyz
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #20 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2015 เวลา 21:51:20 »


update 24 / 1/ 58

จากการลองจับอาการต่างๆ คิดว่าน่าจะมาจากเรื่องระบบของการควบคุม ซึ่งตัวควบคุมพัดลม ก็คือเจ้า Bitron นั่นเอง  แต่เอ๊ะ ทำไมดับเครื่องทิ้งไว้นานๆ จะกลับมาใช้กลับไม่ทำงานซะแล้ว  ต้องไปกระตุ้นด้วยการดึงสะพานไฟต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบควบคุมความร้อน โดยเพียงแค่ดึงรีเลย์คอมแอร์  ดึงฟิวส์คุมแอร์ในห้องโดยสาร  ดึงปลั๊กอุณหภูมิน้ำสีน้ำตาล เพียงตัวใดตัวนึงแล้วเสียบมันกลับเข้าไปใหม่ ระบบก็จะถูกปลุกให้กลับมาทำงานได้  เหมือนบอกว่า .... เฮ้ย! เจ้ากล่อง bitron ตื่นได้แล้ว หน่วยต่างๆพร้อมทำงานแล้ว  แล้วเจ้า bitron ก็จะกลับมาทำงานอย่างขยันขันแข็งในทุกสภาวะ

การทดสอบเพื่อความแน่ใจเริ่มขึ้นด้วยการ ถอดกันชน เปิดบ้าน bitron ใต้คานหน้าซ้าย สตาร์ทเครื่องๆทั้งๆที่ระบบพัดลมไม่ทำงาน ขณะนี้อุณหภูมิอยู่ที่ 85 ซึ่ง พัดลมจังหวะ 2 ต้องทำงานแล้ว แต่ยังเงียบ  จากนั้นถอดกล่อง ฺBitron ออก วัดไฟเลี้ยง 12 V จำไม่ได้ขาไหนบ้าง จิ้มไปมั่วๆ เจอ 2 คู่ มีไฟมา 13.3V แสดงว่า มีไฟมาป้อนเจ้า Bitron อยู่  แต่ กล่อง Bitron เรามันขี้เกียจ และไม่แยแสต่อกระแสไฟเลี้ยงนั้น (ตัวเก็บประจุน่าจะมีปัญหาหรืออะไรก็แล้วแต่) จัดแจงเสียบกล่อง Bitron ตัวใหม่ อะไหล่จากหน้าซื้อขาย แต่เป็นกล่องของ 206 รหัส PPE GF10 ซึ่งน่าจะเป็นรุ่นใหม่กว่า(ของเดิมจะเป็น PP TD30)  แต่ขาเท่ากัน แต่ความลึกของเบ้าเสียบนั้นยาวกว่า ทำให้ปลั๊กเสียบเข้าไปได้ไม่สุด  และมีตุ่มนูนต้องตะไบออก ไม่งั้นเสียบเข้าเบ้าปลั๊กไม่ได้ เมื่อจัดแจงทุกอย่างเรียบร้อย พบว่ามันกลับทำงานได้!  พัดลมจังหวะ 2 ทำงานขึ้นมาทันที ลองดับเครื่อง บิดกุญแจกลับมาที่ on จากเดิมพัดลมจังหวะ 2 จะทำงานเพียงฝั่งคนขับ คราวนี้ ทำงานทั้ง 2 ตัว พร้อมกัน แถมมีไล่ step ทำจังหวะ 1 ให้ก่อนสักแป๊บ แม้ไม่เปิดแอร์ แล้วต่อด้วยจังหวะ 2 เลยเมื่ออุณหภูมิถึง  ซึ่งแต่ก่อน ถ้าอุณหภูมิถึงแล้วปิดแอร์ จังหวะ 2 ก็จะทำงานทันที  ไม่มีไล่จังหวะจาก จังหวะ 1 ก่อน 

หลังจากการทดลองใช้งาน พบว่าดับเครื่องทิ้งไว้นานๆ(ประมาณ 2 ชั่วโมง) แล้วกลับมาใช้งาน ระบบพัดลมก็ไม่ขี้เซาอีกแล้ว ลองเปิดแอร์ จังหวะ 1 ทำงานพร้อมกัน 2 ตัวทันที ไม่มีอิดออด  แต่เดียวลองทิ้งไว้ทั้งคืนดูว่าจะหายมั้ย  เพราะอาการไฟเช็ค sensor ก่อนสตาร์ทเครื่อง ยังคงโชว์ STOP และ แรงดันน้ำมันเครื่องอยู่  ซึ่งตอนที่ยังใช้กล่องเดิมและระบบพัดลมปกติ ไฟ 2 ตัวนี้จะไม่โชว์ขณะบิดกุญแจ on แต่คิดว่าถ้าอาการหาย อาจได้ความปกติของไฟเช็ค sensor กลับมาเพิ่มเหมือนรถคันอื่นๆสักทีและก็ไม่ต้องกังวลเรื่องระบบพัดลม 

เรื่องใส่กล่องไม่ตรงรุ่น  ผมยังไม่แน่ใจว่าจะมีผลเสียอะไรมั้ย เพราะตอนนี้ยังไม่พบความผิดปกติ ฟิวส์ รีเลย์ยังคงปกติ การทำงานของระบบพัดลมละเอียดขึ้น และกล่องน่าจะมีอายุใช้งานนานกว่า PP TD 30 ที่เป็นคู่หูของ 306 405 ที่ผลิตตั้งแต่ปี 87 แต่ PPE GF10 ถูกใช้ใน 206 ที่ผลิตตั้งแต่ปี 98 น่าจะสดใหม่กว่า วงจรลอจิคการทำงานน่าจะไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้า เพราะมันก็แค่เงื่อนไขการระบายความรร้อนของพัดลมตามเงื่อนไขต่างๆซึ่งไม่มีอะไรมาก

ทบทวนการตรวจสอบ
- รีเลย์ เช็คแล้วปกติทุกตัว และตอนระบบมันทำงานได้ พัดลมก็ทำงานได้ปกติที่ จังหวะอย่างถูกต้อง  <== ตัดทิ้ง
- พัดลมทั้งสองตัว หากดูตอนที่ระบบพัดลมทำงานได้  มันก็ทำงานได้ทั้งสองตัว ในทุกจังหวะ <=== ตัดทิ้ง
- ฟิวส์ในห้องโดยสารและห้องเครื่อง เช็คแล้วไม่มีขาด <== ตัดทิ้ง
- สายไฟ จับอาการดูแล้วไม่มีอาการทำงานบ้างหรือไม่ทำงานบ้างขณะใช้งานหรือมีการสั่นสะเทือนจากการแตะไปมาของสายไฟ <=== ตัดทิ้ง
- สวิทต์แรงดันน้ำยาแอร์  ลองไม่เสียบใช้งาน ก็ยังพบอาการเดิม <=== ตัดทิ้ง
- ปลั๊กอุณหภูมิน้ำ ตัวสีน้ำตาล  เสียบแน่นดี และตอนที่ระบบพัดลมทำงานได้ มันก็ทำงานตามอุณหภูมิเมื่อถึงปกติ  <== ตัดทิ้ง
- ECU คิดว่าไม่น่าเกี่ยว เพราะมันมีปัญหาแต่กับระบบพัดลม  ระบบเครื่องยนต์และอื่นๆทำงานปกติ  <== ตัดทิ้ง
- กล่องคุมพัดลม Bitron รอตรวจสอบ.....

หากตัวการเป็นที่ กล่องคุมพัดลม Bitron จริง นี่คงเป็นเคสแรกที่ Bitron มีอการ ขี้เซา แต่ถ้าปลุกเค้าด้วยการกระตุ้นหน่วยส่งสัญญาณต่างๆในระบบคุมพัดลม ก็จะสามารถกลับมาทำงานได้ปกติ  เอ๊ะ! ก็แสดงว่ามันไม่เสียรึเปล่า.... เพราะเท่าที่ค้นหาข้อมูล อาการส่วนใหญ่ ของ Bitron เสีย คือ พัดลมค้างเมื่อดับเครื่อง  พัดลมไม่ทำตาม STEP อยากทำแต่ step 2  หรือบางรายแค่บิดกุญแจ on ก็ทำงานซะแล้ว  บ้างก็แอร์ไม่เย็นแอร์ไม่ทำงาน  ..... ไม่มีกรณี "ขี้เซา" เลย  ยังไงจะมา update อีกทีนะครับ ว่า สามารถปิดเคสนี้ได้ โดยตัวการคือ กล่องคุมพัดลม Bitron ในเคสใหม่ที่ไม่เหมือนใคร
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
Alphajet
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 61


« ตอบ #21 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 26 มกราคม 2015 เวลา 09:16:02 »


ยินดีด้วยครับ
ว่าแต่เจ้ากล่อง Bitron อยู่ตรงไหน ถอดยากใหม แล้ว ของที่ได้มา ราคาเท่าไหร่ครับ
เผื่อไว้
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jod_ryhp
จ๊อด ครับ 0813193708
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,653



« ตอบ #22 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 26 มกราคม 2015 เวลา 09:21:50 »


ยินดีด้วยครับ
ว่าแต่เจ้ากล่อง Bitron อยู่ตรงไหน ถอดยากใหม แล้ว ของที่ได้มา ราคาเท่าไหร่ครับ
เผื่อไว้


หน้าตา มันเป็นแบบนี้ครัช


* P1000270_resize.JPG (46.65 KB, 400x300 - ดู 1457 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

คนเมืองน่าน มา หยะ ก๋าน หยะ งาน อยู่ตี่ ระยอง ฮิ
guyboyz
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #23 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 26 มกราคม 2015 เวลา 11:32:45 »


update 26/1/58

  .. ปิดเคสครับ! ... จากการทดสอบเปลี่ยนกล่องคุมพัดลม Bitron ใหม่ (ไม่ตรงรุ่น) ผลออกมาคือ ระบบพัดลมกลับมาเป็นปกติแล้วครับ  จอดทิ้งไว้นานข้ามคืนกลับมาใช้งานระบบพัดลมไม่ขี้เซาแล้ว  ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยแนะแนวทางและข้อมูลมากครับ  ส่งเคสนี้ไว้เป็นฐานข้อมูลให้ผู้อื่นที่อาจจะเจอปัญหาเดียวกันไว้ ณ ที่นี้ครับ

สรุปการแก้ไข

- ใช้กล่องคุมพัดลม Bitron PPE-GF10 แทน PP-TD30 ได้ครับ ดัดแปลงขาเบ้าเสียบกับปลั๊กนิดหน่อย โดยการตะไบเอาตุ่มนูนๆทั้งหลายออก (ในระยะยาวไม่ทราบ)

 :หวัดดีค่ะ: :ยินดี อุอุอุ: ถูกต้องแล้วครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!