อาจจะมาแปลก กว่า คนอื่น อยากจะบอกว่า ถ้าเพิ่งเริ่ม ทำงาน แบะ ยังไม่มีเงินเก็บมากพอ ยังไม่ควร มี รถ ครับ ควร จะ ทำงานไปสักระยะก่อน ควรวางแผน ก่อนว่า จะทำอะไร ระยะสั้น กลาง ยาว ว่า จะต้องทำอะไร ก่อน เช่น กรณีนี้ มีรถมือสอง มา สมมุติ ราคา ซื้อมา 60,000 บาท
ต้องมาเปลี่ยนอะไหล่ เพื่อความปลอดภัยของเครื่อง และ คน ก็ น่าจะประมาณ 1-20,000 บาท ก่อน ( เช่นเปลี่ยน สายพานไทม์มิ่ง ลูกรอก น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์และ อื่นๆ ) รวมถึงเปลี่ยนยาง ( ถ้ามี ) ช่วงล่าง ทำความสะอาดเบาะ รวมๆ แล้ว ก็ น่าจะประมาณ
100,000 บาท มีติดแก๊ส ก็ประมาณ
15,000 - 20,000 บาท
Maintenance cost : ค่าแก๊ส ก็ประมาณ 2,000 บาทต่อเดือน ( ใช้ไม่เยอะนะครับ )
ค่ายาง 10,000 บาทต่อ 4 ปี ก็ ปีล่ะ 2,500 บาท เดือนละ 200 บาท
ค่าน้ำมันเครื่อง ถ้าวิ่งปีละ 20,000 โล ก็ เปลี่ยน นมค 2 ครั้ง ก็ ตกปี ละ 4000 บาท
อะไหล่เครื่องยนต์ อื่นๆ ก็ อาจจะมีบ้าง เผื่อๆ ไว้ ปีละ 10,000 - 15000 (น่าจะได้นะ )
ภาษี + ประกันชั้น 3
รวมๆ แล้ว ก็ น่าจะประมาณ 3, - 4,000 บาท ต่อเดือน ถามว่า มันหนักไปไหม ครับ สู้ว่า เอาเงิน ที่จะใช้ จ่ายตรงนี้ เก็บไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า อาจจะแย้งว่า ถ้านั่งรถเมล์ หรือ รถ ตู้ ก็ พอๆ กัน อันนี้ ก็แล้ว แต่ พิจารณา นะครับ แต่ โดยส่วนตัวยังเห็นว่า ควรตั้งเป้าหมาย จะใช้เงิน แล้ว
เริ่ม มีวินัยในการเก็บเงิน ดีกว่า นั่งรถเมล์ ( ร้อน ) แล้ว มีตังค์ เก็บ เป็นล้าน บาท ดีกว่า มีรถเก๋ง ขี่ แล้ว กระเป๋าแห้งนะครับ แล้วในอนาคต ถ้ามันพอมี ก็ ค่อย หาทางขยับขยาย ต่อไป ครับ

