ท่านใดเคยใส่กรองเปลือยให้ 406D9 บ้างครับ By: toetoe
วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2008 เวลา 23:07:05
กำลังคิดอยู่ว่าแบบที่ใส่แทน Filter หรือเป็นกรองเปลือยไปเลยดีกว่าครับ
แต่แบบกรองเปลือยเห็นว่าควรตีห้องเพื่อกันความร้อนเข้ามาด้วย อีกอย่างเสียงมันจะดังมากไหมครับ
ผมไม่แน่ใจว่าแบบแทน Filter สามารถถอดล้างได้ไหม ราคาถูกกว่ากันเยอะไหมครับ
Note ผมเล็ง K&N ไว้เพื่อนๆ คิดว่าเป็นไงบ้างครับ
Re: ท่านใดเคยใส่กรองเปลือยให้ 406D9 บ้างครับ By: wasin
วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2008 เวลา 23:54:21
ทั้ง 2 อย่างที่ว่ามาถอดล้างได้หมดครับ
K&N ผมก็ใช้อยู่ครับ
เคยดูการทดสอบกรองเปรือยของเมืองนอก
ทดสอบเริ่มการเพิ่มแรงม้าและการดักจับฝุ่น
K&N ได้ที่ 2 เพิ่มมาน่าจะ 13 แรงม้า
BLITZ (สะกดถูกเนาะ?) ได้ที่ 1 เพิ่มมาน่าจะ 13.5 แรงม้า
แต่การดักจับฝุ่นของ Blitz ดีสุดครับ
Re: ท่านใดเคยใส่กรองเปลือยให้ 406D9 บ้างครับ By: old-big
วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2008 เวลา 08:20:50
ผมเคยใช้กรองเปลือยกับ 406 D9 ตอบได้ว่ากรองเปลือยไม่เหมาะกับเมืองไทยครับ อากาศเมืองไทยร้อนมาก มีความชื้นสูง ยิ่งหน้าฝนโอกาสมันจะดูดฝนเข้าเครื่องมีสูงมาก กรองเปลือยแบบไม่มีตัวชิวล์กันความร้อนหรือกล่องกักอากาศ และ RAM AIR ดูของ 405 Sri ก็ได้ครับมี แรมแอร์ 406 D9 V1 มีแรมแอร์ อยู่ใกล้ๆแบ๊ตเตอรี่ แต่แหน่งต่ำใกล้ซุ้มล้อโอกาศเจอน้ำมีสูง 406 D9 V2 ช่างยนตกิจหนีน้ำให้ แต่พาด RAM Air แบบ OTOP ผ่านทางหลังหม้อน้ำเลย โดนความร้อนเต็มๆ ซึ่งตรงนี้เจ้าของรถทำเองได้ครับ ย้ายปลายท่ออากาศมาทางด้านท่อแอร์ใกล้ๆกับแบ๊ตเตอร์รี่ก็ได้ครับ เวลาสอดท่ออากาศก็ระวังท่อแอร์หน่อย เข้าได้พอดี ให้ปลายท่ออยู่ที่ขอบฝากระโปรงรถสูงพอที่น้ำจะไม่เข้า
กรองเปลือยแบบไม่มี RAM AIR ไม่มีเพิ่มแรงม้ามีแต่ลดแรงม้า ถ้าใช้ที่เมืองไทย ปัญหามันอยู่ตรงนี้
ถ้าคุณไม่มี ชิวล์กันความร้อนกับ RAM AIR และกล่องดักและกักอากาศ ที่เหมาะสมนะครับ
1. ตำแหน่งของกรองของ 406 D9 มันอยู่ใกล้หม้อน้ำมาก มันดูดความร้อนโดยตรงจากหม้อน้ำเข้าไปเลย อากาศร้อนกับสมรรถนะรถมันสวนทางกันครับ รถไม่ชอบอากาศที่ร้อนเกินไป ถ้าติดตั้งเขยือบเข้าไปด้านในก็โดนไอร้อนจากเครื่องและจากหม้อน้ำอยู่ดี
2. ถ้าติดตั้งแบบไม่มีกล่องกักอากาศ น้ำฝนจากล้อหรือจากกระจังหน้าจะดูดเข้าได้ง่าย หน้าฝนผมต้องถอดออก ใช้ของติดรถแทน
3. ที่รอบสูงๆ เครื่องต้องการอากาศปริมาณมาก แต่กรองเปลือยแบบไม่มีกล่องกักอากาศ และ แรมแอร์ จะดูดอากาศเร็วและแรง แต่ปริมาตรา (หรือ ความหนาแน่นของอากาศ) ไม่ได้ครับ ดังนั้นถ้าอยากลองจริงๆ ก็ลองติดดูครับ แล้ววิ่งสุดๆเลยรอบสูงแรงมาเอื่อยมากครับ แต่รอบต้นนี่ดีกว่าเดิม ถ้าเกิน 5000 รอบ มาแบบรอรอบเลย มีแต่เสียงรถไม่วิ่ง
ถ้าอยากให้อากาศไหลเข้าจริงๆ ต้องหากรอง แบบมี ชิวล์ กันความร้อน และ มี RAM Air ที่ดูดอากาศเย็นจากนอกตัวรถเข้าไป และ Remapping ECU ครับ ได้ม้าแน่ๆ 15-20 ตัว กรองเปลือยอย่างเดียววิ่งทดสอบในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้เรื่องความร้อนและปริมาตรอากาศ ได้ไม่เกิน 4 ตัวแน่นอน และที่สำคัญจะได้ผลกับรถบางรุ่นด้วยครับ รถที่ออกแบบแย่ๆ ปรับปรุงเรื่องพวกนี้จะดีขึ้น แต่ออกแบบดีอยู่แล้วไม่มีผลเลยครับ ของพวกนี้ มีแต่จะแย่ลง ยิ่งมาใช้ในสภาพแวดล้อมแบบเมืองไทย ได้แต่ความรู้สึกครับ เสียเงินเปล่าๆ
ถ้าสนใจเรื่อง RAM AIR มีผลอย่างไรกับความแรงดู ฝรั่งทดสอบกับมอเตอร์ไซต์ ซึ่งไม่ต่างกับรถยนต์ มอเตอร์ไซต์ยิ่งต้องการเทคโนโลยี่ที่สูงกว่ารถยนต์รอบเครื่องสูงกว่าและไม่มี เทอร์โบ อัดอากาศ ความจุก็น้อยกว่าแต่เครื่องแรงกว่ารถยนต์หลายเท่า การออกแบบเรื่องอากาศเข้าจึงสำคัญ ลองดูครับ
http://www.sportrider.com/tech/146_9910_ram/index.html