Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย  พูดคุยทั่วไป ได้ทุกเรื่อง
Pages: 12
Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: suchin
วันพุธที่ 25 กรกฎาคม 2007 เวลา 22:02:55
คุณชาติชาย ที่พูดถึงคือคนที่มี Mi16 4คัน (เห็นว่าอาจจะมีเพิ่มอีกคัน แต่เปลี่ยนใจไม่เอา) 406 2คัน  เครื่อง Mi16 3 เครื่อง และอะไหล่อื่นๆอีกเพียบ และบ้านอยู่แถวมหาชัยใช่ไหมครับ  ถ้าเป็นคนเดียวกันยอมรับว่าแกรักจริงกับเปอร์โย   Afro Afro
Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: Webmaster
วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม 2007 เวลา 09:08:47
คุณชาติชาย ที่พูดถึงคือคนที่มี Mi16 4คัน (เห็นว่าอาจจะมีเพิ่มอีกคัน แต่เปลี่ยนใจไม่เอา) 406 2คัน  เครื่อง Mi16 3 เครื่อง และอะไหล่อื่นๆอีกเพียบ และบ้านอยู่แถวมหาชัยใช่ไหมครับ  ถ้าเป็นคนเดียวกันยอมรับว่าแกรักจริงกับเปอร์โย   Afro Afro
คนเดียวกันครับ มี 406 V6 ในครอบครองอยู่ด้วยอีกคันครับ 55555
นับแล้วคงมี สิงห์อยู่ในบ้าน  7 คัน และบ้านญาติ มี ฝูง 505 7 คัน วิ่งได้ 5 คัน 2 คันเป็นอะไหล่ครับ

สุดยอดไหมละครับ 5555 รวมแล้ว 12 คันจ้าๆๆๆๆ Tongue
Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: Webmaster
วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม 2007 เวลา 09:09:08
มาถึงตัวแรงอีกตัว 306 S16 จริงแล้วมีตัวแรงกว่าคือ 306 Gti6 ครับแต่เมืองไทยไม่มีจำหน่าย แต่มีคนวางเครื่องตัวนี้ครับ คันนั้นเจ้าคือน้อง AkeS16 ครับ ส่วนคันที่จะกล่าวถึงนั้น น้องก้องผู้ครอบครอง306 S16 ต่อจากพี่ใหม่ และจาก Aim motorsport

306 S16 เป็นเครื่อง XU10J4  ซึ่งมีเพียง 155 ม้าเท่านั้นเองครับ แรงบิดมี 19.0/3500 (kg.m/RPM) มารอบต่ำกว่า Mi16 แต่ม้าน้อยกว่า แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างไรในการที่มันจะเป็นรถแรงคันหนึ่ง

เนื่องจาก S16 (ขอเรียกสั้นๆแล้วกันครับ) ได้เปรียบตรงที่รูปร่างหน้าตาออกมาใหม่กว่า และโดดเด่นด้วย รูปลักษณ์ 3 ประตู จึงทำให้สามารถครองใจผู้พบเห็นได้โดยไม่ยากนัก จริงมี 2 โฉมนะครับ เมืองไทยจะเป็นโฉมแรก ซึ่งคนที่เล่นสวยใหญ่ก็อยากโฉม 2 กันนะครับ เพราะสวยจริงๆ ครับ

แต่ S16 ก็มีจุดใหญ่ที่นักเล่นหลายคนต้องบ่นเหมือนกัน โดยเฉพาะตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นท่อไอดีที่ทำออกมาแล้วเหมือนลวกๆ ต้องมาค่อยนักตะไบออก ลบเหลี่ยมออกบ้าง และยังมีอีกหลายจุด ใครอยากรู้ไปถามคนใช้ S16 เอาแล้วกัน ผมไม่อยากปล่อยไก่ (ฮา) แต่นั้นก็ไม่ได้เป็นจุดใหญ่อะไรที่ทำให้ S16 ไม่แรง เพราะถ้าทำหลายจุดนั้นแล้ว ก็คงได้มาอีกสัก 2-3 ม้าเป็นแน่แท้  ไม่ได้หมายรวมถึงขัดพอร์ทนะครับ แต่ถ้าเวลาเหลือเยอะ ถอดมาทั้งท่อไอดี ไอเสีย มาขัดสักหน่อย ก็คงได้ความลื่นอีกเยอะครับ

ความเร็วและแรงของมันก็ทำให้ mini จ้อยไปได้เหมือนกันครับ ส่วน mini รุ่นไหนคงต้องไปถามน้องก้องนะ เพราะน้องเค้าสอย mini ซ่าส์ ร่วงไปคันนะครับ เรียกว่าคนขับ mini มองหน้าครับ หนีกันไม่ออก

ตอนนั้นเคยไปทานข้าวกันขากลับก็เจอน้องก้องไล่บี้ วันนั้นผมเอา Jazz ไป IDSI เกียร์ธรรมดา ไล่บี้กับน้องก้องครับ อืมๆ ต้องใช้คำใหม่ถึงจะถูก โดนน้องก้องไล่บี้ที่ความเร็ว 170 ทั้งนี้ Jazz มันก็ได้เท่านี้แหละครับ เริ่มจากออกตัวก็ไล่เกียร์กันไปนะครับ อัตราเร่งคงไม่ต้องพูดถึงครับ iDSI 0-100 10.8 วินาทีเห็นจะได้ ซึ่ง S16 ก็กินได้ไม่ยากนัก ดีนะที่แฟนผมไม่ได้ไปด้วย ไม่งั้นโดนด่าแน่ๆ แต่การไล่บี้ครั้งก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีนะครับ เพราะเกือบจะเกิดอุบัติเหตุเพราะผมไม่รู้ทาง
ตอนนที่วิ่งอยู่ 170 ต้องรอดใต้สะพานข้ามคลองเล็กๆ ผมแค่แตะเบรกเล็กน้อย  แต่เบรกก็เฟส แล้วนะครับ คิดว่าเป็นเลนเดียว แต่ที่ไหนได้เป็นเลนสวน เกือบประสานงาแล้ว  ดีว่ามีช่องว่างเหลืออยู่ประมาณ 2 ช่วงคันรถ ถ้าไม่มีช่องเหลือผมก็คงเจ็บหนักแน่ๆ อันนี้เป็นตัวอย่างไม่ดีเลยครับ

ลองคิดกันเล่นๆ S16 กับ Mi16 มาออกจากจุดหยุดนิ่ง คันไหนละที่จะได้เปรียบ....... ลองคิดกันดูนะครับแล้วจะมาเฉลยต่อ........

Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: Webmaster
วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม 2007 เวลา 21:17:16
คำตอบสำหรับคราวที่แล้วนะครับ คือ S16 กับ Mi16 เดิมๆ ใน ( S16 เครื่อง 2000 XU10J4 กับ Mi16 เครื่อง 1900 XU9J4 ) จากจุดหยุดนิ่ง Mi16 ชนะแค่  0.1 วินาทีครับ 555 แต่ในความเป็นจริงแล้วแทบไม่ต่างกันเท่าไรนัก

S16 ได้เปรียบแน่ๆ เรื่องแรงบิดที่มาเร็วกว่าพอควร ทำให้มีแรงฉุดกระฉากได้ดีกว่า แต่ม้าที่น้อยกว่านั้น 5 ตัวก็เป็นจุดที่หักล้างกันไป แต่ไง เครื่อง S16 (Mi16 V2) ก็โมแต่งได้เยอะกว่า (ในเมืองนอกโน้นนะ)

เอาละเรามาดูรถที่เรียกว่าตำนานอีกคัน (“ตำ” “นาน” นี่แสดงว่าเกิน 10 นาที 555) 306Gti6 จริงๆ แล้ว 306Gti6 ไม่ได้มีจำหน่ายในประเทศไทยหรอกนะครับ ไม่ทราบด้วยเหตุผลอันใด  สิ่งที่ทำให้แตกต่างอย่างชัดเจนที่สุดคือ มี 6 เกียร์ครับ และกำลังเครื่องที่มากขึ้น ตอบสนองดีขึ้น (ใครอยากอ่านให้จุใจก็ไปอ่านใน
http://www.306gti6.com นะครับ)

ด้วยแรงม้า 167 ม้า แรงบิด 197 นิวตันเมตร ที่ 5500 รอบต่อนาที ก็ทำให้ 306 ทะยานจาก 0-60 mph ด้วย 7.9 วินาที (คำนวณเอาเองนะ อิอิอิอิ) และ วิ่ง 0-402 เมตร ใช้เวลา 16.4 วินาที แรงพอไหมครับ

น้องเอก เป็นคนหาเครื่องตัวนี้มาลงใน 306 ในตอนวางแรกๆ ปรากฎว่าโดย Mi16 กิน เลยทำให้น้องเค้าซีเรียสไปพักใหญ่ แต่เมื่อได้สอบถามกับเมืองนอกว่า “รถ 306 Gti6 โดย Mi16 บี้” (จริงๆ เป็นภาษาอังกฤษเนอะ) ก็โดนตอบมาว่า “สงสัยเครื่องคุณพังหรือเปล่า” นี่เป็นเหตุทำให้น้องเอกเครียดไปหลายวัน หลังจากนั้นก็พบสาเหตุครับ (ขอไม่บอกแล้วกันครับ แต่สาเหตุแค่นิดเดียวจริงๆๆ 5555) ก็ทำให้น้องเอกยิ้มออกนะครับ เพราะคร่าวนี้ ทิ้งไกลเลยครับ อิอิอิอิ ทั้งนี้เอียชาติชาย เคยบอกไว้ว่า “เสียงเปลี่ยนเกียร์นั้น ทำให้รอบเครื่องต่อเนื่องและหวานจริงๆ”

ดูรูปกันสักหน่อยนะครับ

Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: Webmaster
วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม 2007 เวลา 21:18:28
ดูอีกนะครับ
Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: wasin
วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม 2007 เวลา 22:19:58
ถ้าพี่ปอนด์ซื้อให้สมาชิกได้ขับทุกคน    กระทู้นี้ จะดีกว่านี้ครับ 55++
Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: Webmaster
วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม 2007 เวลา 15:01:34
เงินใครเงินเค้า (เงินใครเงินมัน 55555)
Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: Webmaster
วันจันทร์ที่ 06 สิงหาคม 2007 เวลา 08:45:31
อะละครับมาคุยเรื่องมันกันต่ออีกสักนิดของ Mi16
ขออนุญาต นำเนื้อความของพี่ Woody จาก เว๊บ mygarage.pantown.com สักหน่อยนะครับ
เขียนสวยงามทั้งภาษาและเนื้อความครับ ขอเกริ่นสักนิดหน่อยเกี่ยวกับพี่ woody นะครับ เป็นคนหนึ่งที่ชอบพอ Mi16 ไม่ใช่น้อย (ผมอ้อนพี่เค้าบ่อยๆๆ นะครับ เรื่อง Mi16) ดังนั้นการทำซ่อมบำรุงและแต่งสวยนั้นก็เป็นเรื่องหนึ่งในตำนานเมืองไทยก็ว่าได้ว่า Mi16 สวยๆ นะแบบนี้นะครับ


■ Peugeot 405 รถยนต์ที่ผสานการใช้งานที่อย่างลงตัว ประสิทธิภาพ และตอบสนองการขับขี่เป็นไปอย่างมั่นใจขณะใช้ความเร็วสูง ความประทับใจเริ่มจากรูปลักษณ์ที่เน้นเรียบง่ายแต่กลมกลืนอันเป็นผลจากการออกแบบร่วมกันระหว่าง Peugeot กับ Pininfarina แห่งอิตาลี รูปทรงที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความปราดเปรียวยามเมื่อได้สัมผัส ความเร้าใจในพละกำลังกับประโยชน์ในด้านการใช้งานอย่างเต็มที่ เป็นการผสมผสานได้อย่างพอดี

Peugeot 405 เริ่มเข้ามาในประเทศไทยในปี ค.ศ. 1989 ในรุ่น GRและ Mi16 ยังมีรุ่น GRi และ SRi ตามมาในปี 1992 จนปลายปี 1999 อาจมีหลงข้ามถึงปี 2000 บ้างก็ไม่มาก
■ Mi16 เป็นรุ่น Top ขนาดความจุ 1905cc 16วาล์ว หัวฉีดมัลติพอยท์ BOSCH ML4.1 เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ 160 แรงม้า ความเร็วปลายที่ประมาณ 220 Km/H ด้วยรูปทรงเหลี่ยมและการออกแบบของ Pininfarina ประกอบกับสมรรถนะของเครื่องยนต์รหัส XU9J4 ทำให้ Mi16 ยังเป็นที่หลงไหลของกลุ่มคนรัก Peugeot ในหลายๆประเทศ รวมทั้งกลุ่มคนรัก Peugeot ในประเทศไทยด้วย


Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: Webmaster
วันจันทร์ที่ 06 สิงหาคม 2007 เวลา 08:49:01
■ ความเป็นมา:
จากความคิดแรกในปี 2000 ที่เริ่มสนใจหาข้อมูลเพียงเพื่อประกอบการตัดสินใจในการหาซื้อมาลองใช้สักคัน ประมาณปี 2001 ก็ได้มาสมใจ ในตอนนั้นตั้งใจว่าจะใช้สักพัก กลายเป็นความคิดที่จะบูรณะกลับสู่สภาพเดิม เวลาว่างถูกแบ่งมาเพื่อจุดมุ่งหมายที่ตั้งใจไว้ จนถึงวันนี้กับประสพการณ์ที่ผ่านมาบอกได้ว่ามีทุกอารมณ์ปนกันไปในทุกช่วงเวลา จึงอยากเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาเพื่อเป็นแนวทางสำหร้บคนที่ใชู้่อยู่และเป็นข้อมูลประกอบการต้ดสินใจสำหรับคนที่คิดจะหามาใช้ ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลและประสพการณ์ของสมาชิคชมรม vlovepeugeot ที่เป็นส่วนหนึ่งในการบูรณะและำบำรุงรักษาเจ้าสิงห์ัคันนี้
■ พบครั้งแรกเป็นประกาศขายใน website เลยติดต่อไปตามเบอร์ที่ลงไว้ เสียงผู้ชายตอบกลับมาแบบมีอารมณ์นิดๆว่า “ วันนี้คุณเป็นคนที่ 5 แล้วที่โทรมา ของผมมีคันหนึ่งแต่ไม่ใช่ Mi16 สนใจไหม “ ได้แต่ขอโทษแล้ววางสายไป นึกในใจคนจะขายนี่ก็แปลก ไม่ตรวจดูความถูกต้องก่อนจะประกาศ ที่สำคัญเป็นเบอร์ติดต่อเสียด้วย กลับไปดูที่บอร์ดอีกที เห็นมี e-mail address เอาละไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลอง mail ไปและทิ้งเบอร์โทรไว้ ได้ผลครับระหว่างทางจะกลับบ้านในเย็นวันนั้น เบอร์คล้ายๆเบอร์ที่โทรไปตอนเช้าแต่สลับตำแหน่งนิดหน่อย โทรเข้ามาครับ เข้าข้างทางจอดรถเลย ได้ความว่าเจ้า Mi16 ตอนนั้นอยู่ใกล้ๆและเป็นทางผ่านที่จะกลับบ้านพอดี ไม่รอช้านัดดูตัวเลยดีกว่า “ อีก 20 นาทีเจอกันนะครับ “
ไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลาเล็กน้อย สักพักก็สังเกตุเห็นใช่คันนี้แน่เลย แว็บแรกที่เห็น ดูขรึมดี หลังจากเปิดโน่นดูนี่ ไม่ประทับใจครับ ทรงดีครับแต่สีจะให้สวยต้องทำ ห้องเครื่องพอทนแต่ฝาครอบวาวส์เริ่มหมดสภาพ ภายในเดิมๆพอใช้ เอาไงดีหละเรา ! จะถอยก็ใช่ที่ ขอลองขับเลยจะได้รู้กันไป ว่าแล้วขึ้นทางด่วนหนึ่งรอบลงมาเดินวนรอบรถอีกที “ พรุ่งนี้ไปโอนกัน “ กลับถึงบ้านยังงงๆ ลองดูสักยกอย่างมากก็ขายต่อ กลับกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์มากมาย
วันถัดมาบ่ายแก่ๆ ผมก็ได้ครอบครองสมาชิคใหม่ของผมเป็นที่สมอารมณ์หมาย สภาพภายนอกโดยรวมก็เป็นอย่างในภาพ ขรึมๆ เป็นสันเป็นเหลี่ยม แต่มีงานที่รออยู่มากน้อยในตอนนั้นยังไม่ได้คิดไปไกลถึงไหนเลย แค่พาไปขัดสีเคลือบเงา ตามด้วยซักเบาะซักพรมแล้วอย่างอื่นค่อยว่ากันไปตามหน้างานสำหรับภายนอก คิดว่าใช้ไปสักระยะก่อน ตอนนี้พาไปวัดไปวาตอนสายๆได้สบายมาก
■ ภายใต้ฝากระโปรงที่อัดแน่นด้วยฝูงม้า 160 ตัวจากโรงงาน จวบถึงวันนี้ วันที่มาอยู่กับผม ผมไม่แน่ใจว่าม้าจะหนีออกจากคอกไปกี่ตัวแล้ว บวกกับสังขารที่ร่วงโรยตามวันเวลาที่ผ่านไปคงต้องเริ่มทบทวนอีกครั้ง ตอนโอนรถเจ้าของเดิมเอาบิลและรายการที่ซ่อมมาให้ด้วยเรียกว่าแถมประวัติเก่ามาให้เป็นแนว รวมๆแล้วปีกว่าๆเฉพาะอาหลั่ยใหม่ที่เบิกห้างตัวเบ่งๆก็หลายตัวอยู่ ดูแล้วสบายใจในระดับหนึ่งแต่ต่อไปมันจะเป็นบิลของผมล้วนๆเลย เริ่มต้นจากเปลี่ยนสายพานราวลิ้น สายพานหน้าเครื่อง เปลี่ยนของเหลวทั้งหมด ตรวจเช็คช่วงล่างเบื้องต้นเพื่อความสบายใจ แค่เบื้องต้นแค่นี้ยนตรกิจก็ต้อนรับผมด้วยบิล 1 ชุดใหญ่ค่าอาหลั่ยไม่ต่างจากพี่ยุ่นมากนักยกเว้นค่าแรง แพงไปหน่อยสำหรับค่าดูแลม้าเทศ !!
■ ความร้อนที่เกิดจากห้องเครื่องที่แน่นไปด้วยอุปกรณ์มากมายเพื่อรีดกำลังจากฝูงม้า ประกอบกับสภาพอากาศร้อนชื้นบ้านเราทำให้เกิดความร้อนสะสม ฝาครอบวาวส์ที่ทำจาก Magnesium เริ่มผุกร่อนตามสถาวะแวดล้อมและลักษณะการใช้งาน น้อยคันนักจะอยู่ในสภาพดี คันนี้ก็หนีไม่พ้นสำคัญขออย่างทะลุก็แล้วกัน อาหลั่ยต่างของ Peugeot รุ่นนี้มีครบแทบทุกชิ้นถูกบ้างแพงบ้างแล้วแต่ชิ้น สำคัญขอให้มีเบิกเถอะ จุดนี้ขอชมครับ Smiley สำหรับคนที่งบน้อย อาหลั่ยสิ้นเปลื่องบางชิ้นสามารถหาของเทียบได้สำคัญคุณภาพกับราคาจะไปทางเดียวกัน หรืออาจเลือกคบหาอาหลั่ยมือสองได้ไม่ยากตามแหล่งขายอาหลั่ยเก่า(เชียงกง)

Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: Webmaster
วันจันทร์ที่ 06 สิงหาคม 2007 เวลา 08:52:22
ซ่อมบำรุง

■ หลังจากใช้งานไปได้พักใหญ่ประกอบกับมีความคิดที่จะจับม้าที่หนีออกจากคอกกลับมาให้ได้มากที่สุด งบประมาณ การเตรียมการณ์ต่างถูกรวบรวมและเริ่มลงมือทำอย่างจริงจัง
อันดับแรก ทำหล่อก่อนเลย ส่งเข้าอู่ทำสีทั้งคัน คิ้วโครเมี่ยมกันชนหน้าหลังเปลี่ยนใหม่หมดจะได้ไม่หรอกตา หมดเวลาไปเดือนกว่าๆแต่ค้มค่ากับการรอ สีออกมาสมใจครับ หลังจากวิ่งโฉบเชี่ยวได้พักใหญ่ รายการถัดไปหนักหนากว่ามาก เริ่มจากยกเครื่องออกมาแล้วรื้อมาเปลี่ยน ตรงไหนขัดได้ก็ขัดไป ตรงไหนต้องเปลี่ยนอย่าเสียดายงานนี้ไม่ได้ทำบ่อยๆ เปลี่ยนไปเยอะครับ แต่ส่วนประกอบหลักๆภายในเครื่องยนต์ยังอยู่ในสภาพดี เปลี่ยนแหวน บดวาส์ว ชาร์ฟอก ชาร์ฟก้าน อื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งระบบสายไฟและจุดเชื่อมต่อภายในห้องเครื่องก็ถูกจัดการให้เป็นระเบียบ
ระบบส่งกำลัง: ชุดครัชใหม่ทั้งชุดถูกแทนที่เพื่อรองรับกำลังจากม้าฝูงใหม่รวมถึงสายครัชที่มักเป็นสาเหตุหนึ่งของครัชแข็งก็ถูกเปลี่ยนเพื่อความนุ่มนวลยามเปลี่ยนเกียร์
■ ระหว่างรื้อประกอบเครื่องยนต์ ก็ส่งหัวฉีดไปที่ร้านเช็คหัวฉีด เพื่อเช็คล้างเปลี่ยนใส้กรองในหัวฉีด ค่าใช้จ่ายไม่แพง ถ้าเอาไปส่งเองใช้เวลาทำประมาณ 2 ชั่งโมงนั่งรอรับได้เลยถ้าช่างว่างทำให้แถมได้ดูทุกขั้นตอนด้วย(ถ้าชอบ)
■ ไฮดรอริควาวส์ 16 ตัวพร้อมลูกถ้วยจำนวนเท่ากัน ถูกล้างทำความสะอาดรอเวลากลับเข้าประจำการ
■ หลังจากนอนยาวอยู่ในอู่มาระยะหนึ่ง ชิ้นส่วนบางชิ้นที่ส่งไปขัด ไปชุบ บางชิ้นทำขึ้นใหม่ และอุปกรณ์เสริมบางตัวถูกนำกลับมาและประกอบเข้าสู่ตำแหน่งที่ควรจะอยู่ ม้าฝูงใหม่ก็พร้อมรออยู่ในคอก
■ ฝาครอบวาวส์มือสองที่ถูกนำมาทำสีใหม่ด้วยสีดำด้านกันความร้อนและเพิ่มสีสันด้วยการเพิ่มแถบสีแดงและแผงสแตนเลสครอบแนวรางสายหัวเทียนเน้นความเรียบง่าย

ท่อร่วมไอดีเดิมถูกส่งไปปัดเงาเพื่อความสวยงามและที่สำคัญ ง่ายต่อการทำความสะอาด

มาตรวัดถูกต่อพ่วงเข้าในระบบจ่ายเชื้อเพลิงในห้องเครื่องเพื่อแสดงแรงดันของปั๊มและง่ายต่อการตรวจสอบระบบส่งเชื้อเพลิงและความผิดปกติของปั้มแรงดันสูง

ท่อไอเสียเดิมถูกแทนที่ด้วยท่อขนาด 2 นิ้วครึ่ง รวมถึงท่อพักทั้ง 2 ใบ ยกเว้นเฮดเดอร์แบบ 8(4+4)-1-1จากโรงงานที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวเพื่อรับและระบายไอเสียจากวาวส์ไอเสียทั้ง 8 ตัว โดยจะเริ่มส่งเสียงหวานๆเมื่อได้รอบที่ต้องการ เป็นการสร้างบรรยากาศได้เร้าใจจริงๆ
■ ล้อตามสเปคเมืองนอกเป็นลาย 5 แฉก ขอบ 15 นิ้ว แต่ยนตรกิจบ้านเราให้มา 14 นิ้วลายนี้เหมือนรุ่น GR ถูกนำไปทำสีและปัดเงาขอบใหม่ ข้อดีของขอบ 14 นิ้ว คือความนุ่มนวลเวลาใช้งานได้ดีในเมืองและประหยัดค่ายาง ส่วนในขณะใช้ความเร็วสูงเวลาเข้าโค้งคงเป็นรองขอบ 15 นิ้วที่ใช้ยาง195/55 หรือ 195/50 แต่คงไม่มากนัก(ยังไม่เคยลอง)

Lowering Spring ตรงรุ่น ถูกนำมาแทนที่ Spring เดิม เพื่อลดความสูงลง 2.5 ซ.ม. ทำให้ซุ้มล้อดูเต็มและหนึบขึ้นอีกหน่อย

ช๊อคอัฟใหม่ทั้ง 4 ตัว ตามสเปคโรงงานที่เน้นความนุ่มนวลในการใช้งานประจำวันและให้ความมั่นใจยามใช้ความเร็วสูง


คัดลอกมาจาก http://mygarage.pantown.com/
Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ 605 406 V6 กัน By: Webmaster
วันอังคารที่ 28 สิงหาคม 2007 เวลา 21:48:59
มาพูดกันเรื่อง 605 V6 และ 406 V6 กันต่อนะครับ
605 V6 นั้นต้องเล่าเรื่องราวสักเล็กน้อยนะครับ

วันหนึ่งจำไม่ได้แล้วครับว่าวันไหน ต้องไปเปิดบันทึกดู แต่ช่างเถอะเอาเป็นว่าวันหนึ่งแล้วกัน
ผมได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสนิทท่านหนึ่งบอกว่า มี 406 V6 3.0 จะขาย ด้วยความอยากดูก็เลยต้องไปดูสักหน่อย (ปัจจุบันคันนี้อยู่ที่เอียชาติชายนะครับ) จากการสอบถามข้อมูลจากพี่เมธี เป็นรถของฝรั่งที่กลับต่างประเทศ เป็นเทคนิคของ Peugeot แล้วเสี่ย Boat ซื้อไว้นะครับ

ตอนนั้น 406 คันนี้ยังไม่ได้ใส่เบรค bermbo นะครับ ยังเป็นเบรกมาตรฐานอยู่ครับ ตอนนั้นก็อยากได้นะครับ แต่เจ้าของไม่ขายครับ (ถึงขายก็ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหรือเปล่านะครับ)

ก็เลยได้ความว่า 406 ยังไม่ขาย แต่มี 605 V6 3.0 ขายเอาไหม เราก็เลยไปดูสักหน่อย ปรากฎว่าชอบครับ
เป็นเรื่องละสิครับทีนี้ วันรุ่งขึ้นเลยต้องเอาเช็คไปจ่าย ตอนนั้นปิด คนในเว๊บที่รู้มีแค่ 2 คนเท่านั้นเอง นอกนั้นปิดเงียบครับ ทั้งนี้หลังจากนั้นก็เพิ่งทราบว่า ผมตัดหน้าเฮียชาติชายไปแค่ช่วงเช้ากับสาย แค่นั้นเองครับ เพราะเอียชาติชายก็เล็งไอ้เจ้าคัน 605 ไว้เหมือนกัน หน่อย คันนี้ผมแทบไม่ได้ขับเลยครับ เปลี่ยนยาง 1 ชุด และซ่อมจุกจิกนิดหน่อย ใช้ไปได้แค่ 8000 โลเองเห็นจะได้ 2 ปี ใช้ 8000 โล ฟังเหมือนรวยนะครับ แต่เปล่าละครับ 5555

อะเกริ่นไปสะตั้งนาน มาคุยเรื่องความสุดยอดของ 605 V6 3.0 กัน ด้วยน้ำหนักตัวประมาณเกือบ 1.6 ตัน กับม้า 167 ม้า แรงบิดมหาศาล 235 ที่ 4600 รอบต่อนาที เครื่องยนต์ระดับนี้พา จากจุดหยุดนิ่งไป ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 9.7 วินาที และทะยานไปแตะที่ 222 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างสบายๆ จริงๆ แล้วผมขับได้ที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และไม่ขับต่อแล้วครับ ไม่ใช้ว่ารถไม่พร้อมนะครับ แต่คนนะไม่พร้อมครับ 55555
จริงแล้ว 605 มี ตัว V6 3.0 24 valves 200 ม้า จาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 8.6 วินาที Mi16 ก็หนาวนะครับ แต่ตัวนี้ไม่มีจำหน่ายในเมืองไทยนะครับ

คันนี้ได้ออกทริปกับ vlovepeugeot.com ไประยองนะครับ ผมไปเช้า แล้วกลับค่ำๆ ไปกับคุณต้นนะครับ
ตอนไป คุณต้นอยากลองขับ ก็เลยให้ขับสนุกสนานครับ ส่วนตอนกลับไล่บี้กับแคมรี่ 2.4 จริงๆ แล้วแซงได้นะครับ แต่เนื่องจากทางมืด เราก็ไล่จี้ไปเรื่อยๆ ขับสบายกว่าครับ แทบไม่น่าเชื่อความที่ความเร็วสูงๆ 150-160 แทบไม่ได้ยินเสียงลมเข้ามาภายในห้องโดยสารเลย และที่สำคัญมันสบายมากๆ ความเหนื่อยล้าจากการขับรถ แทบไม่มีเลยครับ ที่นั่งเบาะด้านหน้านั่งสบายจริงๆ ครับ เปรียบเทียบแล้ว ขับเจ้า 405 กับ 605 มันช่างแตกต่างเรื่องความสบายมากๆๆ ยิ่งตอนที่ขับไปหัวหิน ยอมรับจริงๆ ครับ ขับได้นิ่มๆ สบายๆ จริงๆ ครับ แรงก็แรง ขับสบายดีจริงๆ

แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้คิดหนักเสมอเวลาเดินทาง นั้นคือ น้ำมันครับ น้ำมันเฉลี่ยต่างจังหวัด 10 กิโลต่อลิตรเห็นจะได้
เข้าเมืองละสิครับ 4-5 กิโลต่อลิตรเชียว อึ๋ยๆ นี้เป็นข้อเสียข้อเดียวของ 605 V6 ละครับ  Angry
Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: korn
วันพุธที่ 29 สิงหาคม 2007 เวลา 21:40:32
 Afro Afro Afro Afro

สุดยอดเลยครับผม
Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: 405spec C
วันเสาร์ที่ 01 กันยายน 2007 เวลา 14:01:28
งงมั่ก ว่าทำไมต้องเอาตัวแรงไปเทียบกับรถจ่ายกับข้าว1500ccดีเด่นรางวัลนับสิบ(fit)ด้วย ไม่ไปเทียบกะซีวิคไทองไทอาร์ บี16รุ่นเก่าๆนู่นหรือเอ็ม3อี30 ยังดูถูกคู่หน่อย หรือรุ่นไหนก้อด้ายที่มันเป็นตัวแรงเหมือนกัน ไม่เข้าใจง่ะ
ส่วนวี6 3000กะอี2.4 ไม่วี6เนี่ย มันยังงัยก้อกะดูกคนละเบอร์ แต่ถ้าอี2.4มันเล่นด้วยก้ออาจทำให้วี6ต้องเหนื่อยเหมือนกัน ละมั้ง คับ คือจะประลองกะใครหรือลองยังงัย ก้อให้สมน้ำกันหน่อย มันทำให้รู้สึกว่าสิงแก่แกล้งเด็กละคร้าบ
Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: ong
วันเสาร์ที่ 01 กันยายน 2007 เวลา 15:15:36
อ่านตำนานแล้วสุนกสนานมั่กๆคั่บ

ยอดๆๆ เย้
Re: มาคุยเรื่องรถแรงๆ ของ Peugeot กันบ้างดีกว่า By: Webmaster
วันเสาร์ที่ 01 กันยายน 2007 เวลา 21:14:51
งงมั่ก ว่าทำไมต้องเอาตัวแรงไปเทียบกับรถจ่ายกับข้าว1500ccดีเด่นรางวัลนับสิบ(fit)ด้วย ไม่ไปเทียบกะซีวิคไทองไทอาร์ บี16รุ่นเก่าๆนู่นหรือเอ็ม3อี30 ยังดูถูกคู่หน่อย หรือรุ่นไหนก้อด้ายที่มันเป็นตัวแรงเหมือนกัน ไม่เข้าใจง่ะ
ส่วนวี6 3000กะอี2.4 ไม่วี6เนี่ย มันยังงัยก้อกะดูกคนละเบอร์ แต่ถ้าอี2.4มันเล่นด้วยก้ออาจทำให้วี6ต้องเหนื่อยเหมือนกัน ละมั้ง ครับ คือจะประลองกะใครหรือลองยังงัย ก้อให้สมน้ำกันหน่อย มันทำให้รู้สึกว่าสิงแก่แกล้งเด็กละคร้าบ
ถ้าเทียบม้าแล้ว ไม่แตกต่างกันมากเท่าไรครับ แต่ 605 ได้เปรียบเรื่องแรงบิดครับผม กับเครื่อง V จ้า
คงไม่ได้แกล้งหรอกครับ แค่ขับสนุกๆๆ อาศัยเค้านำทางนะครับ 5555