405 GR ปี 91 กู่ไม่กลับแล้ว By: TI
วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 20:30:30
อีกแล้วค่ะ เอาอีกแล้ว เจ้าลูกชายเกเรอีกแล้วค่ะ เมื่อตอนเย็นขากลับบ้าน รถติดอยู่บนเนิน แถมเป็นวงเวียนด้วย อยู่ดีๆ คุณชายเธอก็ดับมันซะเฉยๆ เลย ดับแบบไม่มีอาการสั่น หรืออาการผิดปกติอะไรเลย พอสตาร์ทรถมันก็ติดนะคะ แต่พอจะออกตัวก็ดับอีก ดับไปรถก็ไหลไป คันหลังก็บีบแตรไล่ สตาร์ทอีก ก็ติดนะคะ แต่พอเข้าเกียร์ D ก็ดับอีก เหมือนมันรอบตกวูบลงมาเลย แล้วก็ดับ สตาร์ทไปหลายครั้งมากๆ มันก็ยอมติดนะคะ แต่ดับทุกครั้งที่เข้าเกียร์ รถหลังติดเต็มเลย บีบแตรไล่กันสุดฤทธิ์ แต่ที่เจ็บใจที่สุดคือตำรวจจราจรใจร้ายมาก เดินมาเป่านกหวีดไล่รถเราใหญ่เลย ขนาดเปิดกระจกบอกว่ารถเสียมันยังไม่หยุดเป่า ไม่มาช่วยแถมมารยาทแย่อีก ทำหน้าทำท่าทางประมาณเราเป็นพวกขยะสังคมมาก โธ่! ใครมันอยากจะรถเสียฟะ สตาร์ทอยู่ประมาณเกือบสิบครั้ง แล้วรอบเครื่องเหมือนเริ่มนิ่ง ปล่อยคันเร่งเข้าเกียร์ได้ แต่รถติดมาก ก็ค่อนข้างกลัว สงสัยรถเราจะกลัวโดนรุมประชาทัณฑ์ เลยไม่ดับ ประคองขับจนถึงบ้านได้ในที่สุด
คันนี้ปีที่ผ่านมาซ่อมไปเยอะมากแล้ว แต่ก็ขยันมีอาการอยู่เรื่อยเลย สงสัยมันคงถึงอายุขัยของมันแล้วใช่ไหมคะ รถก็อายุเยอะแล้ว รู้สึกเหมือนว่าเราก็พยายามดูแลอย่างที่สุดแล้ว แต่มันก็คงไม่ไหวแล้วมั้ง ไม่รู้รถใครเคยมีอาการนี้ไหมคะ เห็นพ่อโทรไปถามช่างเหมือนกับว่าปรอทอะไรซักอย่างมันต้องปรับ หรือเปลี่ยนอะไรเนี่ยแหละ
เหนื่อยคะ เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ แถมยังเหนื่อยกระเป๋าอีกด้วย
Re: 405 GR ปี 91 กู่ไม่กลับแล้ว By: niranam
วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 20:49:31
คาร์บิว อย่างเดียวครับ หาอู่เก่งๆ แก้จบครับ
** อยู่แถวไหนครับ ผมพอรู้เรื่องคาร์บิว พอสมควรครับ ถ้าไม่ไกลยินดีไปดูให้ครับ
405 GR ปี 91 กู่ไม่กลับแล้ว By: tone405GRI
วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 08:21:04
ผมเป็น 1 คนที่เคยประสบกับเหตุการณ์อย่างนี้ แต่ก็แก้ไขโดยเปิดไฟฉุกเฉิน และลงจากรถมายืนหลังรถ โบกให้รถแซงไป จนคันหลังรู้ สักพัก ก็เข็นรถตัวเองเข้าข้างทางและเช็ก ณ ตอนนั้น เน้น ตอนนั้นทันทีนะครับ
ต้องพยายามหาที่จอดที่ไม่กีดขวางทางรถให้ได้ หากไม่มีจริงๆ ก็รอซักพัก และลองสตาทดูนะึครับ อาการที่ผมเป็น
และค้นพบมี ผู้ต้องสงสัย 3 ตัว
1. กรองน้ำมัน (เบนซิน) (สปกรกน้ำมันขึ้นไมสะดวกก็เป็นไปได้สูง หรือน้ำมันใกล้้หมดถังแล้ว ตะกอนที่ถังน้ำมัน
ก็ขึ้นมาทำให้ไหลเข้ากรองไม่ดีก็เป็นได้อีกเช่นกัน) วิธีเช็ก ก็เปิดดูที่ห้องเครื่องดูที่กรองมีน้ำมันไหมนั่นเอง
2. ปั้ม AC (อาการของผมก็ยังคงเป็นอยู่ ตราบจนทุกวันนี้ นานๆ นะครับ อาจเป็นเพราะผมเจอของที่ไม่ดีกระมัง คือ
เห็นเขาว่า ปั้ม ac ของ วาลิโอี หลังๆ มีล๊อตที่มีปัญหานะครับ ผมดันไปเปลี่ยนมาก่อนแล้วนะครับ รู้งี้ซื้อเบิกของห้างก็ดี (เบิกห้างอีกยี่ห้อนะครับ)) วิธีตรวจเช็ก ดูที่พักน้ำมันเบนซิน ก่อนเข้าคาบิวนะครับว่ามีน้ำมันมาไหม หากไม่มีก็สันนิฐานเบื้องต้นว่าปั้มไม่ดูดน้ำมัันมา และเหตุที่ไม่มาเพราะอะไร ก็ย้อนไปดูที่กรองเบนซินว่ามีน้ำมันขึ้นมาไหม หากไม่มีก็เป็นปัญหาที่ ข้อ 1 หากมี ก็ลองเช็กโดยครายน๊อตที่สายที่ต่อมาจาก ปั้ม ACกรองเบนซิน
3. คลอย (ซึ่งไม่น่าใช้เพราะเท่าที่เคยทราบมาหากเสีย หรือเริ่มมีอาการ เวลาร้อนเครื่องจะดับ และจะสตาทได้อีกครั้งต้องเครื่องเย็นลงก่อน) วิธีเช็ก หากอยากลอง หากเครื่องร้อนและดับ และสตาทไม่ติดอีก
และเมื่อเย็นติด ให้ลอง ณ ขณะเิกิดอาการ ให้เอาผ้าชุบน้ำและโป๊ะที่ คอยให้เย็น และลองสตาทดูหากติดก็คงใช้นะครับ
405 GR ปี 91 กู่ไม่กลับแล้ว By: tone405GRI
วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 08:27:32
ขอโทษครับ ผิดไม่เสร็จเผลอโดนปุ่มส่งนะ
2. ปั้ม AC (อาการของผมก็ยังคงเป็นอยู่ ตราบจนทุกวันนี้ นานๆ นะครับ อาจเป็นเพราะผมเจอของที่ไม่ดีกระมัง คือ
เห็นเขาว่า ปั้ม ac ของ วาลิโอี หลังๆ มีล๊อตที่มีปัญหานะครับ ผมดันไปเปลี่ยนมาก่อนแล้วนะครับ รู้งี้ซื้อเบิกของห้างก็ดี (เบิกห้างอีกยี่ห้อนะครับ)) วิธีตรวจเช็ก ดูที่พักน้ำมันเบนซิน ก่อนเข้าคาบิวนะครับว่ามีน้ำมันมาไหม หากไม่มีก็สันนิฐานเบื้องต้นว่าปั้มไม่ดูดน้ำมัันมา และเหตุที่ไม่มาเพราะอะไร ก็ย้อนไปดูที่กรองเบนซินว่ามีน้ำมันขึ้นมาไหม หากไม่มีก็เป็นปัญหาที่ ข้อ 1 หากมี ก็ลองเช็กโดยครายน๊อตสายที่ต่อมา กรองน้ำมัน เข้า ปั้ม AC และดูดน้ำมันให้เข้าปากเลยยิ่งดี (พูดเล่นนะคร้ับ) และก็เมื่อมีน้ำมันไหลแล้วก็ให้ใส่สายกลับเข้าที่ ตัวปั้ม AC ไขกลับให้แน่นนะ และลองสตาทดู จะมีน้ำมันเข้ามาที่
ที่พักน้ำมันเพื่อเข้าคาบิวแล้ว ก็แสดงว่าปั้ม AC อาจเริ่มไม่ดีแล้วก็เป็นไปได้นะครับ แต่ทุกวันนี้ผมยังคงใช้อยุ่นะครับ
ถ้าดับ ผมก็ดูดน้ำมันเหมือนกันเช่นนีตลอดครับ
ลองดูนะครับ คงเป็นประโยชน์บ้างนะครับ เพราะผมก็ใช้ 405GR ออโต้ ใช้น้ำมันอย่างเดียว ขอบคุณครับ
Re: 405 GR ปี 91 กู่ไม่กลับแล้ว By: niranam
วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 09:02:21
คุณ tone405GRI ครับ ที่ว่า "405GR ออโต้ ใช้น้ำมันอย่างเดียว " ไม่ทราบว่าจะพอรู้ไหม ครับ ว่า งวงช้างของคุณ เป็น เบอร์อะไร แล้ว นมหนู 1 กับ 2 เบอร์ อะไร ครับ ขอบคุณครับ
405 GR ปี 91 กู่ไม่กลับแล้ว By: tone405GRI
วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 17:42:55
ขอโทษจริงๆ นะครับ คือ ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ คือแบบว่ารู้เท่าที่เคยเสียและกล้าทำนะครับ
รายละเอียดลึกๆ ไม่ค่อยกล้ายุ่งนะครับ
Re: 405 GR ปี 91 กู่ไม่กลับแล้ว By: niranam
วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 18:21:08
ม่ายเป็นไร คร้า บ บ บ บ
Re: 405 GR ปี 91 กู่ไม่กลับแล้ว By: old-big
วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 09:32:50
ผมเคยใช้รถอายุขนาดรถคุณครับประมาณ 16 ปี ผมใช้ Citreon CX 20 แบบเดียวกันครับ คือรถหมดอายุจริงๆ ซ่อมอย่างเดียวเอาไม่อยู่ครับ ต้องเปลี่ยนอะไหล่ใหม่อย่างเดียว แต่การเปลี่ยนอะไหล่ใหม่จะใช้เงินเยอะ และจะไล่เปลี่ยนไปเรื่อยๆเกือบทุกชิ้น ยกเว้น ตัวเครื่องพวกลูกสูบเสือ้สูบ ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องปกติใช้ได้นานมาก แต่ระบบไฟฟ้าทั้งหลายนี่เปลี่ยนและจ่ายจนเหนื่อย เอารถเข้าศูนย์ เดือนเว้นเดือนครับ
เข้าใจความรู้สึกเจ้าของรถเลย
ตอนนี้ก็กำลังจ่ายกับ มอร์เตอร์ไซต์อายุ 19 ปี จ่ายมาสองปีเกือบ 6 หมื่นบาทแล้ว เปลี่ยนทุกชิ้นเหลือระบบลูกสูบซึ่งอีกนานเพราะถอดออกมาดูขาวจั๊วมันวับ แสดงว่าอีกนาน แต่ร้านที่ญี่ปุ่นบอกขายทิ้งเหอะ เขาก็เบื่อการหาอะไหล่ใหม่ให้เราแล้วมันหายากมากขึ้นเพราะเลิกผลิตไปนานแล้ว เลยด่ามันเพิ่งมาบอกตอนนี้เปลี่ยนไปจนเกือบครบแล้ว เท่ากับอายุรถมัน Reset ไปนับหนึ่งเหมือนเกือบป้ายแดงแล้ว เลยต้องอยู่กับเราไปอีก 10 ปี พอดี จะขายก็เสียดายสร้างวีรกรรมด้วยกันไว้เยอะ
รถคุณเป็น Gr ที่ไม่ใช่หัวฉีดใช่ไหม
ถ้าไม่ใช่หัวฉีดน่าจะเป้นน่ามาจาก
1. ระบบ จ่ายน้ำมัน เช่น กรองเบ็นซินตัน คาร์บูตัน หรือ มีปัญหาที่แวคคัม
2. ระบบจุดระเบิดพวก คอล์ยจุดระเบิด หรือ หัวเทียน
สุดท้ายผมว่าคาร์บูนี่แหละน่าจะเป้นสาเหตุที่ดับไปเฉยๆ ไม่ใช่แค่การปรับจูนไอดี แต่มันน่าจะมีไอดีรั่ว หรือ ไม่มีกำลังดูดไอดี
CX 20 ผมเคยดับแบบนี้ครังหนึ่งแบบขับถึงหน้าบ้านแล้วดับเลย สตาร์ทก็ติดได้แต่สั่นและเดินไม่เรียบ ผลก็คือคาร์บูมีปัญหา
ถ้ารถเป็นระบบหัวฉีดและมีระบบ ECU น่าจะดูเรื่องปั๊มน้ำมัน(ปั๊มติ๊กครับ) และ ECU ด้วย มันอาจเสีย
Re: 405 GR ปี 91 กู่ไม่กลับแล้ว By: TI
วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 13:37:55
ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกๆ คำแนะนำค่ะ จะมาเพิ่มเติมว่ารถคันนี้เคยมีทั้งสตาร์ทไม่ติด อาการเบาดับ เวลาเข้าเกียร์ D และเวลาเหยียบเบรคค้างไว้ ให้ช่างดูอาการ และซ่อมหลายเยอะเลย ทั้งเปลี่ยนคอล์ย เปลี่ยนจานจ่ายและอีกจิปาถะ พอเดือนต่อมาเบาดับก็ไปล้างปีกผีเสื้อ ยังไม่หายเลยต้องล้างคาร์บูทั้งหมด ก็เหมือนเครื่องจะดี อาการก็ปกติด อีกซักเดือนต่อมาคราวนี้ดับกลางทางเลยค่ะ ปรากฎว่าสายพานราวลิ้นขาด แต่มันขาดก่อนกำหนดเยอะเหมือนกันค่ะ เพราะจากที่ช่างเขียนในรายการซ่อมที่ต้องทำระยะยาว มันเหลืออีกตั้งเกือบ 40,000 กิโล ต้องลากไปซ่อม เปลี่ยนทุกอย่าง และเลยถือโอกาสให้ช่างตรวจสภาพใหญ่ ก็มีรายการซ่อมอีกเพียบ โดนไปหมื่นกว่าบาท พอออกมาจากอู่ประมาณซัก 2 อาทิตย์ก็มีอาการเวลาจอดรถทิ้งวันไม่ได้ใช้งานซัก วัน2วัน ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะมีอาการสตาร์ทแล้วคันเร่งค้าง ต้องดับเครื่องสตาร์ทอีกครั้งก็จะมีอาการสั่นๆ มากๆ เครื่องเดินไม่เรียบเลย มีควันดำออกมาจากท่อไปเสียเยอะมากๆ พอขับๆ ไปซักพักจะดีขึ้น แต่หลังจะบางทีก่อนดับเครื่องจะสั่นมากๆ แล้วดับไปเองเลย ถ้าพักเครื่องซักชั่วโมง พอสตาร์ทอีกทีก็สั่นๆ แล้วถอยหรือเดินหน้าเมื่อไหร่จะดับทันที เป็นอาการประมาณนี้หลายครั้งมากๆ รอบถึงนิ่งแล้วขับกลับไปได้ พอวิ่งระยะยาวๆ ก็จะเริ่มนิ่ง แล้วอาการก็เหมือนจะหายไป เอาไปให้ช่างดูก็ประมาณว่าต้องตั้งปรอทหรืออะไรใหม่ เพราะเหมือนเวลาเครื่องเย็นแล้วรถทำงานไม่เต็มสูบ แต่พอขับไปจนถึงอู่ อาการมันก็หายไป ช่างก็ไม่รู้จะซ่อมตรงไหน เพราะไม่มีอาการ เลยปรับแต่งไฟให้นิดหน่อย ก็เหมือนอาการจะดีขึ้น และก็มามีครั้งนี้ที่มาดับกลางทาง พอขับไปให้ช่างดูมันก็ไม่มีอาการอีก ก็เลยไม่ได้ซ่อม
ยอมรับว่าเซ็งค่ะ กลัวถ้ามันเสียกลางทางอีก คิดว่าจะเก็บเงินซื้อรถใหม่ แต่ขอโทษที่อาจจะไม่ได้ขับ Peogeot แล้วล่ะคะ เหนื่อยเหลือเกิน คงซื้อรถญี่ปุ่นซิตี้คาร์ทั่วๆไป คงต้องปรับตัวอีกเยอะที่จะมาขับรถที่สมรถะนะต่างกับ Peugeot เหลือเกิน แต่ลองคิดค่าซ่อมแล้วคงต้องเปลี่ยนค่ะ แต่ยังไงก็คงจะรัก Peugeot เหมือนเดิม เพราะเป็นรถประจำครอบครัวจริงๆ หัดขับรถคันแรกก็คันนี้ พ่อกับน้องชายก็ใช้ Peugeot 405 เหมือนกัน ยังจะเป็นแฟนคลับตลอดไปค่ะ
ทุกคนในนี้น่ารักมากๆ เลย
Re: 405 GR ปี 91 กู่ไม่กลับแล้ว By: rd
วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 14:07:33
ลองสืบเสาะหาอู่ที่เขาเก่งๆเถอะครับ เชื่อว่าช่างคนนี้ไม่เก่ง ซ่อมไปก็เจอปัญหาใหม่ไปเรื่อยๆ หรือถ้าเบื่อคาร์บิวก็เอาไปติดแก๊สสิครับ ทุกวันนี้ผมลืมปัญหาคาร์บิวไปเสียสนิท เพราะวิ่งแก๊สอย่างเดียว