Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย  พูดคุยทั่วไป ได้ทุกเรื่อง

Pages: 1, 2

ตอนนี้ไฟตัว K ขึ้น ส่วนมากก็จะอ้างถึง O2 Senser กันเป็นอันดับแรก
แล้วทีนี้เราจะตรวจเจ้าแพะ (O2 senser ) นี้ได้อย่างไรว่าเสียจริงมั้ย หรือแค่เกือบเสีย......
เพราะว่ามันแพงอยู่เหมือนกัน

---

O2 Sensor ของเปอโยต์ เป็นแบบ Zirconium Type ครับ เป็น Active Device ที่จะมีการสร้างโวลเทจขึ้นมาอยู่ในช่วง 0.2 - 0.8 VDC ขึ้นอยู่กับปริมาณออกซิเจนที่เหลืออยู่ในไอเสียเทียบกับค่าออกซิเจนภายนอกบรรยากาศครับ ไม่สามารถใช้โอห์มมิเตอร์วัด Continuity แบบอุปกรณ์ Passive Device ทั่วไปได้ครับ การวัดการทำงานของ O2 Sensor จริงๆต้องใช้ Storage Scope ค่อนข้างยุ่งยาก จากนั้นนำค่า Voltage Transition Waveform จากการเปลี่ยนแปลงค่าความหนาบางของส่วนผสม มาอ่านค่า Response Time ครับ ถ้าค่า Response Time สูงกว่า 300 ms ถือว่าเสื่อมสภาพแล้วครับ อีกอย่าง ในการวัดการทำงานของ O2 Sensor จะต้องวัดที่อุณหภูมิทำงานของมัน ที่ประมาณ 350 C เป็นต้นไปครับ ไม่สามารถถอดมาวัดโดดๆได้ครับ

O2 Sensor เป็นอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งาน โดยที่การใช้งานตามปรกติจะมีอายุขึ้นแสนโลอยู่แล้วครับ ยกเว้นแต่มีการใช้งานไม่ถูกต้อง เช่น การถอดมาล้างด้วยน้ำมันเบ็นซิน, น้ำยาหล่อเย็นรั่ว, ใช้ปะเก็นบางชนิดที่ไม่ใช่ O2 Sensor Safe, เดินเครื่องไม่เต็มสูบบ่อยๆ ก็จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลงกว่าที่ควรเป็นมากครับ การทำความสะอาดเพยงใช้แปรงขนอ่อนปัดคราบเขม่าหรือผลึกคาร์บอนที่เคลือบปลาย Sensor ที่เป็น Ceramic สีขาวตรงไส้ใน ก็เพียงพอแล้วครับ โดยห้ามใช้สารละลายใดๆนะครับ

การเสียของ O2 Sensor เอง จะส่งผลโดยตรงเป็น Fault Code ของ O2 Sensor Fault ใน ECU หรือทางอ้อมในลักษณะส่วนผสมผิดพลาด ที่เป็น Fault Code นึงใน RAM ของ ECU ครับ สามารถใช้ Fault Code Scanner สแกนออกมาดูได้ครับ

---

ถ้าเสียหรือเริ่มมีอาการเสีย ลองดมท่อไอเสียจะเหม็นน้ำมันกว่าปกติครับ จะกินน้ำมันเพิ่มขึ้น เวลาเร่งอาจจะมีอาการสะดุดได้ เครื่องเดินไม่เรียบ อาการจะรุนแรงจนไฟเคโชว์ พอไฟเคขึ้นนี่อาการหายนะ ตลกดี

---

ตอนนี้อาการมันเป็นแบบนี้ครับ
1. ตอนสตาร์ทเครื่องใหม่ๆ(เครื่องเย็น) ไฟ K ยังไม่ติด
2. พอเครื่องอุ่นๆซัก 70-80 C ไฟ K ติด
3. พอวิ่งไปได้ซักพักไฟ K ก็ดับอีก??
4. พอรถติด เครื่องร้อนซัก 89-90 C ไฟ K ก็ติดอีก???

แบบนี้คิดว่า O2 senser เสียมั้ยครับ
*** 1. ปลายท่อไอเสียดำ
     2. รถมีอาการกินน้ำมันเครื่อง (20W50) ตอนนี้ใช้ยูโนแคล
     3. ลองก๊าซโซฮอล95 กับ 95 แล้วก็เปลี่ยนปั๊มน้ำมันแล้ว

---

                 คุณอ๊อด ลองถอดออกมาแล้วใช้แปรงขัดที่หัว sensor ดูก่อนสิถ้าอาการเหล่านี้หายก็แสดงว่ามาจากตัวนี้ แล้วก็ใช้ไปได้อีกสบายๆ รถกินน้ำมันเครื่องดูว่ามีควันสีขาวออกที่ท่อหรือเปล่า อาจมาจากยางตีนวาวล์รั่วทำให้น้ำมันเครื่องผ่านไปห้องเผาไหม้

---

O2 senser ถออดออกมาทำความสะอาดแล้วครับ (ขัดๆ ถูๆ ไม่ได้ล้าง) ไม่หายครับ
ส่วนควันสีขาว มีบ้างไม่บ่อยครับ???  จะเห็นได้ชัดช่วงอากาศเย็นๆ หรือฝนตก
แต่ไม่น่าจะใช่ไอน้ำ เพราะไปอังแล้วไม่ควบแน่นเป็นหยดน้ำครับ

---

ถ้าเคยมีไฟรูป K ขึ้น และยังไม่ได้รีเซท ECU หรือเคลียร์ Fault Codes ไปซะก่อน แนะนำให้ไปสแกนหา Fault Code ก่อนครับ ต้องมีแน่ๆ แล้วค่อยมาดูอีกทีว่าเสียที่ตัวไหน ถ้าเป็นที่ O2 Sensor จะมี Fault Code เฉพาะ หรือเกี่ยวข้องเช่น Incorrect Air/Fuel Ratio ครับ จะได้แก้ไขให้ตรงจุด

ส่วน O2 Sensor ถ้าหมดอายุจากการใช้งานตามปรกติแล้วก็ต้องเปลี่ยนสถานเดียวครับ จะถอดมาขัดถูอย่างไรก็ไม่ฟื้นครับ

---

ถ้าเช็คโค้ต จะเจอโค้ต 52 นะครับ แลมด้าเซ็นเซอร์ครับ แต่อาการอุณหภูมิ แปรปวนแล้วไฟเคโชว์ ผมเดาว่าเป็นที่เซ็นเซอร์อุณหภูมิท้ายเครื่องครับ เช็คโค้ตจะเจอประมาณ 14 หรือไงเนี่ยครับ

---

ของผมตอนน้ไฟK ติดตลอดไม่เคยดับเลยครับ ลองไปเข้าเครื่อง pps แล้วมันบอกว่าอัตราส่วนน้ำมันและอากาศมันไม่สมดุล แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะว่าอู่ pg เข้ายังไม่สามารถทำให้ได้เพราะต้องใส่ถังดักไอน้ำมันเครื่องก่อน จึงจะไปขั้นตอนต่อไป ไม่ไว้ครับชุดนึง 5000 กว่ายังไม่คิดค่าแรง แต่บริการดีครับ ที่บรรทัดทอง

---

พอจำได้แล้วครับก่อนเสียผมใช้น้ำยาล้างหัวฉีดใส่ถังน้ำมันเชื้อเพลิง

จะลองถอดมาล้างดูก่อนว่าเป็นยังไง

---

เย้ ถอดออกมาแล้ว ปัดด้วยแปรงสีฟัน แล้วล้างด้วยน้ำสอาด ร่องรูมันตันอ่ะครับ

ติดเครื่องปุบดับปั๊บเลย

โชคดีมาก ๆ ทำเสร็จฝนตกพอดีเลย ตอนทำเริ่มมีลมแรงแล้ว แต่ก็รอดมาได้ อิอิ โชคดี ๆ

---

ภาพ O2 Sensor ของ 406 D8 ครับ วันนี้ถอดออกมาขัด ๆ ๆ เสร็จแล้ว กลินน้ำมันปลายท่อหายเป็นปลิดทิ้ง 

---

ทดลองจำลองการทำงานโดยจ่ายไฟ 12 volts ให้  heater element
เพราะมันจะวัดค่าได้แม่นยำก็ต่อเมื่อมันร้อนเกิน 300 องศา C
ใช้โวลท์มิเตอร์วัดแรงดันของ Oxygen sensor element
แรงดันเมื่อไม่มีการเผาใหม้วัดได้ 0 volts
จำลองการเผาใหม้โดยใช้ไฟแช๊กแก็สทำการเผา Probe ของ  Oxygen senosor element
แรงดัน วัดได้อยู่ระหว่าง 0.01- 1.0 volts
แรงดัน 0.01 Volts ส่วนผสมจะบาง
แรงดัน 1.0 Volts ส่านผสมจะหนา
โดยปกติ ECU จะทำการควบคุมอยู่ที่ 0.45 Volts ค่า Lamda = 1.0
Switching frequency ประมาณ 1 Hz คือใน 1 วินาที แรงดันจะเป็น Cycle
อยู่ระหว่าง 200mv-800mv จำนวน  1 ลูกคลื่นเหมือนแรงดันไฟกระแสสลับ
หลุดจากนี้รถยุโรปส่วนมากจะโชว์ Engine alarm รถญี่ปุ่นย่านกว้างกว่า
จะไม่แสดงค่าตัวนี้

---

หยุดเผาก็เหมือนส่วนผสมบางแรงดัน 0.027 volts

---

เอาแก๊สเผาใหม่เหมือนส่วนผสมหนาแรงดัน 0.91 volts
 

---

นอกจากนี้ต้องเช็คค่า CO ของท่อไอเสียหากไม่เกินก็ แสดงว่ายังใช้งานได้ดี

---

ไม่แน่ใจว่าจะเหมือน205หรือเปล่าน่ะเพราะว่าของพี่เสียควันดำปี๋เลยสามารถปลดออกได้เลยแล้วก็Reset ECUใหม่ก็จะวิ่งโดยData ในRamแต่จะเปลืองน้ำมันกว่าเดิมเล็กน้อยไม่เกิน0.5โล/ลิตร

---

ช่วยบอกวิธีต่อสายทดสอบด้วยครับ

---

มี 4 เส้นครับ แต่ละคู่ออกมาเป็น socket อยู่แล้วครับ

สีขาว ที่เป็น socket เป็นไฟ 12 Volt เลี้ยงเผาหัวครับ

สีเทา ดำ เป็น socket วัดค่าเป็น mv  ไม่เกิน 1 volt ครับ

---

mทดสอบแล้ว เผาหลายครั้ง เวลาต่างกัน จ่ายไฟ 12V
แรงดันที่วัดได้ ต่างกันไป แต่สูงสุด วัดได้แค่ 0.7V
ไม่สูงกว่านี้เป็นได้หรือไม่ว่ามันเสื่อมแล้วเพราะแปลได้ว่าแรงดันไม่ถึง 1V
ทำให้ECU จ่ายน้ำมันมากกว่าปกติเพราะคิดว่ามันจ่ายน้ำมันบางมาโดยตลอด
และยังมีกลิ่นเบนซินออกทางท่อไอเสีย
ส่วนปั้มปรับแรงดันที่รางหัวฉีดเช็กแล้วปกติ

---

SMF Archive Funded by SMF For Free Free Forum Hosting
SMF Hacks