Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย  40X

Pages: 1

เจ้าสิงห์405 GRI ของผมเนี๋ยเวลาที่ผมเช็คระดับน้ำในหม้อน้ำในตอนเช้า� สิ่งที่ผมมักจะเจอด้วยก็คือเจ้าสนิม� เป็นก้อนๆ� สีน้ำตาลเข้ม(ใช่สนิมหรือป่าวหว่า?)� แต่พอเอามือปาดออกขับอีกสักวัน สองวันเจ้าสนิมก็ขึ้นมาใหม่� คำถามก็คือ เจ้าตัวสนิมเนี๋ยจะมีผลอะไรบ้างครับ� ณ ระดับความร้อนของเครื่องยนต์ตอนกลางวัน� เมื่อขับด้วยความเร็ว� 130+ (กลางวันอากาศร้อน)� ความร้อนของเครื่องจะขึ้นมาที่ประมาณ 90� นี่ปกติไหมครับ� แต่ในความคิดผมว่ารถยนต์วิ่งด้วยความร็วขนาดนั้นแรงลมที่ปะทะน่าจะเข้ามาระบายความร้อนในเครื่องได้ดีดังนั้นก็น่าจะทำให้ความร้อนเครื่องอยู่ที่ประมาณ 80 แบบคงที่(ทึกทักเอาเองหรือป่าวหว่า ?)� �ปล.1.รถกิน LPG Gas ครับ วิ่งมาประมาณ 222,xxx Km� � OverHaul� ตอนประมาณ 19x,xxx km� �2. ระดับน้ำในหม้อน้ำไม่หาย� หรือหายน้อยมากกกก� 3.รถกินน้ำมันเครื่องนิดหน่อยๆประมาณ 10,000 Kmต่อ1/2lite�
เจ้าสนิมนี่ถ้าไม่สนใจมันขับต่อไปเรื่อยๆจะเป็นอะไรไหมครับ ?(คอยปาดออกเอา)
ตอนนี้น้ำในหม้อน้ำเป็น� น้ำประปา� ถ้าผมเปลี่ยน เป็น Oil Coolant การระบายความร้อนจะดีกว่าเดิมไหมครับ ?

---

วิธีการถ่ายน้ำในหม้อน้ำนี่ทำอย่างไร ครับ 
เราสามารถเปิดน้ำแล้วเอาสายยางสอดเข้าไปในหม้อน้ำแล้วให้น้ำมันล้นออก  วิธีนี้ผิดหลักการหรือไม่ครับ?  ขณะทำต้องติดเครื่องยนต์ไหมครับ ?

---

ผมจะถ่ายน้ำออกจากหม้อน้ำก่อนตอนเครื่องเย็นนะครับ เพราะกลัวว่าถ้าเครี่องร้อนน้ำจะออกจากฝาสูบทำให้อาจมีปัญหาถ้าเราเติมแล้วมันไม่เข้าไปที่ฝาสูบ จากนั้นก็ใช้ผงซักฟอกใส่ไป 1ช้อน แล้วก็เติมน้ำกรองจนได้ระดับโดยต้องไล่ลมด้วยครับ ปิดฝาหม้อน้ำแล้ววิ่งไป 3 -4 วัน ก็ถ่ายออก แล้วเติมน้ำกรองลงไปอีกแล้วก็วิ่งไป พอเครื่องเย็นก็ถ่ายน้ำอีก ทำไปจนเห็นว่าไม่มีผงซักฟอกแล้วก็เติม coolant   ของผมจะเห็นสีสนิมออกมาจากการถ่ายเยอะมากครับ

---

ทำเหมือนซักผ้าเลย... แล้วมีผลเสียอะไรหรือป่าว ครับนี่ ถ้าไม่มีจะลองทำบ้าง อิอิ

---

ช่างแนะนำให้ผมทำครับ ใช้มาเป็นอาทิตย์แล้วครับ อีกอย่างน้ำประปาบ้านเรามักมีตะกอนสนิมครับ ใช้น้ำกรองดีกว่า รถผมเป็น 306 ปี 98 วิ่งมา 70000 โล ครับ เผื่อเป็นข้อมูลว่าข้างในมันมีสนิมมากน้อยแค่ไหน

---

แนะนำผงซักฟอก Sa8 ไม่ทำให้เครื่องซักผ้าเป็นสนิมคับ..ฮิๆ 

---

ดูให้แน่ใจก่อนนะครับ ว่าเป็นตะกอนสนิมจริงๆหรือเป็นครีมสีชานมเย็น ถ้าเป็นอย่างหลังแสดงว่ามีการรั่วไหลของน้ำหล่อเย็นปนเข้าไปในห้องเผาไหม้แล้วครับ ควรรีบตรวจสอบ สถานเบาก็เป็นเพียงปะเก็นฝาสูบรั่วซึม สถานหนักก็ฝาโก่งหรือผุเป็นตามดครับ

โชคดีนะครับ

---

พอคุณฤทธิ์  พูดแบบนี้เลยไม่มั่นใจเลยว่าตกลงมันเป็นสนิมหรือว่าน้ำหล่อเย็นที่รั่วเข้าไป   งั้นผมขอถามต่อว่าในกรณืที่แย่สุดๆคือน้ำหล่อเย็นที่รั่วเข้าไปในห้องเผาไหม้เนี๋ยจำเป็นไหมที่จะทำให้ระดับในหม้อน้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัด  เช่น ว่าประมาณ 1 อาทิตย์น้ำในหม้อน้ำหายครึ่งลิตร ....

---

ถ้าดูดน้ำออกมาใส่ในถัง  แล้วปล่อยไว้ถ้ามันตกตะกอนได้ แยกกันระหว่างน้ำกับตะกอนว่างั้นเถอะ  ผมว่ามันก็น่าจะเป็นตะกอนสนิมนะครับ
เพราะว่าตะกอนสนิม(เหล็ก) ไม่ละลายในน้ำ

---

ถ้าไม่มั่นใจว่าเป็นอะไร ลองตรวจดังนี้ครับ ดูที่ก้านวัด นมค. ครับ ถ้าอาการน้ำเข้าห้องเครื่องมาก นมค.จะมีสีกาแฟครับ ต้องรีบซ่อมด่วน  ถ้ายังใสอยู่ก็เบาใจ แต่ลองตรวจดูว่ามีฟองอากาศปุดๆหรือไม่ โดยเติมน้ำให้เต็มหม้อน้ำครับจะได้สังเกตง่ายแล้วติดเครื่องเปิดฝาหม้อน้ำไว้ ถ้าน้ำลดลงก็เติมไปเรื่อยๆจนไม่ลด แล้วดูว่ามีอากาศหรือไม่ครับ ถ้าไม่มีก็ปิดฝา นำรถไปวิ่งจนร้อนปกติ พอเย็นลงก็ลองเปิดฝาดูอีกทีถ้ามีแรงลมดันออกมามากก็น่าจะต้องเช็คฝาสูบดูครับ แต่โดยทั่วไปถ้าฝาสูบมีปัญหาก็มักจะทำให้ส่วนอื่นมีอาการเช่น ท่อทางน้ำรั่วซึม หม้อน้ำร้่วเป็นตามด เพราะแรงดันที่ออกมาจากเครื่องครับ ผมเคยเจอมาครับคือน้ำหายไม่มาก ก็เปลี่ยนฝาหม้อพัก จากนั้นท่อน้ำก็ซึมที่รอยต่อแล้วก็แตก เปลี่ยนท่อเสร็จ หม้อน้ำก็รั่ว พอปะหม้อน้ำเสร็จ ก็ไม่หาย เลยเปิดฝา พบว่าฝาผุนิดหน่อย วาล์วร้าว 3 ตัว ทนใช้มา 2-3 ปี เพราะคิดว่าช่างที่ยกฝาครั้งแรกทำไปแล้ว แต่เนื่องจากแกขันน๊อตฝาสูบไม่ได้มาตรฐาน ตอนเปิดครั้งที่สองผมไปทำอีกที่เปลี่ยนช่างเพราะตอนที่ทำมาก็รู้สึกว่ามันยังไม่หายแต่ช่างคนเดิมแกก็ไม่ค่อยรับผิดชอบ แกก็แก้ที่อื่นแล้วก็ให้มาใช้ก่อนเอากาวมาพอกตรงที่มีน้ำมันรั่วบ้าง พอเปลี่ยนที่เห็นเลยว่ามีน็อตฝาสูบขันไม่แน่น 1 ตัว เป็นbenz 300 e ไม่ใช่ peugeot ครับ

---

ขอบคุณ คุณ Sailom 306 และคุณ Mo 306 ครับเดี๋ยวจะลองทำตามดูครับ  แต่จากการเช็คที่ก้านน้ำมันเครื่องแล้ว  นั้นน้ำมันเครื่องยังใส อยู่ครับ กลัวเป็นแบบคุณ sailom306 ที่ว่าขันน๊อตฝาสูบไม่ได้มาตรฐานจัง  เฮ้ออออออ....

---

ถ้ามีน้ำมันเครื่องรั่วเข้าไปในห้องเผาไหม้ จะพบคราบครีมสีน้ำตาลอ่อน คล้ายๆครีมขัดสีรถยี่ห้อ Carglo บริเวณคอของถังพักน้ำครับ ลองเอานิ้วบี้จะเนียนนิ้วเลยครับ ส่วนถ้าเป็นตะกอนสนิมจะสากนิ้วจนรู้สึกได้ครับ ส่วนเรื่องน้ำหล่อเย็นซึ่งเป็นระบบปิด ตามทฤษฎีต้องไม่มีการสูญหายเลยนะครับ ทางปฏิบัติมีบ้างแต่น้อยมาก สังเกตรถใหม่ๆใช้เป็นเดือนๆ น้ำหล่อเย็นยังไม่ยุบไปไหนเลยครับ ถ้ามีอาการยุบผิดปรกติแบบที่คุณว่าอาทิตย์ละครึ่งลิตร แสดงว่ามีความผิดปรกติแล้วครับ ควรรีบนำไปตรวจสอบ เดี๋ยวจะบานปลายไปกันใหญ่ครับ

---

เอาซะแล้วสิ  ที่คอพักน้ำรถผมมันเป็นครีมๆ  สีน้ำตาลอ่อนแล้วก็เนียน  นิ้วอย่างที่คุณ ฤทธิ์ว่าไว้เลย  แต่ผมสงสัยว่าทำไม  น้ำในหม้อน้ำจึงยังหายน้อยอยู่ครับ ถ้าเกิดในกรณีที่น้ำเกิดรั่วเข้าไปในห้องเผาไหม้ ครับ :'(

---

การรั่วของน้ำหล่อเย็นเข้าห้องเผาใหม้เป็นการรั่วทีละน้อยแบบเป็นสเปรย์เนื่องจากแรงดันน้ำหล่อเย็นในระบบปิดที่มีอุณหภูมิสูงขณะเครื่องยนต์ทำงานครับ ไม่ได้รั่วแบบท่อน้ำแตก ถ้าเป็นอย่างนั้นรถคงวิ่งไม่ได้แล้วครับ
ตอนเครื่องเย็น ลองเปิดฝาถังพักน้ำแล้วเอานิ้วกลางล้วงควานลงไปบริเวณขอบคอด้านในถังแล้วยกขึ้นมาดูสิครับ ว่ามีครีมสีน้ำตาลเกาะอยู่หรือเปล่า ถ้ามีก็ควรเอารถไปตรวจสอบครับ

---

เป็นครีมแบบที่คุณ ฤทธิ์  ว่าจริงๆ ด้วย...  เฮ้อออออต้องเสียเงินอีกแล้ว  ทั้งๆที่พึ่ง Over haul ไปเมื่อปีที่แล้วเองยังวิ่งไม่ถึง 30,000 กิโล เลยครับ

---

ลองเช็คความตึงของน๊อตฝาสูบ ผมไม่แน่ใจว่าหลังจากยกเครื่องมาสักระยะควรจะกวดน๊อตอีกครั้งหรือไม่เพราะปะเก็นอาจจะยุบตัวไม่เข้าที่ ท่านอื่นที่รู้ช่วยตอบหน่อยครับผมจะได้เตรียมทำไว้ก่อนเพราะรถ Benz ผมเพิ่งทำมายังวิ่งได้แคพันกว่าโลเองครับ

---

วันนี้รีบตื่นแต่เช้าๆๆๆๆๆๆ  รีบบึ่งไปอู่อากะว่าจะต้องไปคิวแรกๆให้ได้  กลัวรถคิวเยอะ  พอไปถึง  ก็ให้ช่างหน่อยกะช่างแดงดู  ครีมๆที่คอหม้อน้ำ  ช่างแดงก็เอามือมาปาดแล้วก็บอกว่ามันเป็นสนิม  ไม่ใช่น้ำมันเครื่องหรอก  แล้วก็บอกว่า  ถ้าเป็นน้ำมันเครื่องมันครีมที่เอามือป้ายออกมามันจะไม่แห้งแต่  ครีมนี้มันแห้งติดมือ  แสดงว่าน่าจะเป็นสนิม  โล่งอกๆๆๆ  ไม่ต้องเสียเงินค่าซ่อมเครื่องอีก     แต่ตอนนี้มันมีปัญหาอยู่ที่ว่าพัดลมสเตปสอง  นี่ทำงานบ่อยมากๆๆ  เฮ้อๆๆๆๆ  สงสัยสุดท้ายแล้วคงต้องเปลี่ยนหม้อน้ำ  ใครเคยเปลี่ยนหม้อน้ำบ้างครับ  ราคาประมาณเท่าไรเหรอครับ

---

พัดลมเสต็ปสองทำงานบ่อย ลองเช็คก่อนนะคะ อาจจะเป็นเซ็นเซอร์พัดลม หรือ แรงดันแอร์ ลองสลับดูจากคันที่แน่ใจว่าไม่เสียแน่ๆ แต่จากประสบการณ์ของตัวเองพบว่าเป็นเพียงแต่น้ำยาแอร์มีความชื้น ต้อง vac ใหม่เท่านั้น ลองดูก่อนว่าเวลาวิ่งเร็วๆ ลมวิ่งผ่าน ความร้อนจะลดลงมั๊ย ถ้าลงและเซ็นเซอร์ไม่เสีย ก็น่าจะเป็นจากน้ำยาแอร์ก็ได่ค่ะ โดยเฉพาะรถที่ใช้มานาน

---

ถ้าสงสัยว่าเป็นที่แรงดันน้ำยาแอร์ ให้ดูตรง senser ของมันที่อยู่ตรงดรายเอ้อ (สะกดไม่ถูก ) ครับ
เวลาตรวจสอบ ในขณะที่พัดลม step2 ทำงาน ให้ลองถอด senser ตัวนี้ออก....
ถ้าพัดลมเปลี่ยนเป็น step 1   ก็แสดงว่าอาจเป็นที่แรงดันน้ำยาแอร์แบบที่คุณ Mai405 บอกครับ
ถ้าไม่เปลี่ยนก็ลองเช็คที่ เซ็นเซอร์พัดลม???

*** ผิดถูกประการใดรบกวนพี่ๆ แก้ให้ด้วยนะครับ

---

ขอบคุณครับ คุณ ใหม่405 และ คุณ MO306  เดี๋ยวผมลองถ่ายหม้อน้ำดูก่อน ว่าระบบระบายความร้อนจะระบายดีขึ้นหรือไม่ครับ 
ใครมีวิธีถ่ายหม้อน้ำอย่างละเอียดบ้างครับ ถ้ามีรูปด้วยยิ่งดีครับ  ขอบคุณทุกคนครับ

---

SMF Archive Funded by SMF For Free Free Forum Hosting
SMF Hacks