Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย  40X

Pages: 1, 2

 


สงสัย ผมจะได้เครื่องตัวใหม่ ไว กว่าที่คิดแล้วครับ ..........

จากเดิม คาดว่า น่าจะอดใจได้อีกซัก 1-2 ปี ( เครื่องเดิม ซด นมค. อาทิตย์ละ 1 ลิตร โดยประมาณ )


วันนี้ มันออกอาการ ขึ้นรุนแรงจนได้  หลังจากกดลากไปเกือบๆ 170 ...  เจ้า SRI กลับฝรั่งเศษแหงม ๆ แล้ว   ดัง กรอกๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้ว รถก็เร่งไม่ค่อยขึ้นในทันใด ...... เลย คล่อยๆ คลานกลับบ้าน แล้วก็ ทำใจ ทำสมาธิ ค่อยๆ ประคองไปอู่ เจอรถติด แล้ว แทบร้องไห้ รถไม่มีแรงเลย   น่าจะมาจาก พวก  ก้านสูบ   ไม่ก็ พวก สลักก้าน แล้วหละครับ  ตอนนี้ จอดไว้ อู่แล้ว   วิ่งเหมือนไม่เต็มสูบ น้ำไม่ดัน นมค. ไม่หาย ...... แต่ ก็ ได้จ่ายเงินก้อน ( โต ) แน่ๆ ......


ไม่น่าเล้ย........ เท้าขวา หาแต่เรื่อง  จะลุ้นให้ถึง 4 แสน กม. ซะหน่อย  ไปไม่ถึงฝันแล้วครับ บุญ วาสนา หมด ตอน 347,XXX   จะฮอร์น หรือจะ เปลี่ยนเครื่องเลย  เดี๋ยวลองดูก่อน    เข้าใจเลือกวันพังนะ .... ต้นเดือนพอดีเลย


เดี๋ยวพรุ่งนี้ ไปอู่ รอช่างเปิดอ่าง นมค. มาดู แล้วจะ มา รายงาน ( ความพินาศ ) เพิ่มเติมครับ    โอย... ปวดหัว...เครียด    


http://img207.imageshack.us/img207/5179/sri1wq4.th.jpg

http://img134.imageshack.us/img134/2919/sri3ic2.th.jpg

---

ไม่น่าเลยไปซะแล้ว

ขอให้ซ่อมหรือ เปลี่ยนเครื่องเสร็จไวนะครับ

ถ้าลง Xu10j4R จะได้อัตราเร่งตีต้นไม่แพ้ Mi16 เลยครับ

---

ถ้าลงใหม่ คงมองๆ XU10J4 ของตัว 406 D8 กะพวก 306 ตัวนอก  ไว้อะครับ พี่ก้องว่า ok หรือเปล่าครับ ?   จับจูบกะเกียร์ธรรมดา  เครื่อง ใหม่ของเรา เก่าของใคร ก็ไม่รู้ 5 5 5 


เน้นใช้งาน กะ แอบ แรง นิดหน่อย  เพราะว่า ตัว XU10 ของ406  16V รู้สึกว่า กลางๆ  ปลายๆ ถ้าได้ที่แล้ว เดินดีกว่า 8 V SRI  พอควรเลยครับ   


เครื่องเก่า ก็เสียดายเหมือนกันเลย  เพิ่งแก้สายไฟในห้องเครื่องใหม่ (เดินใหม่ เพราะของเก่ากรอบ พารวนหมด ไม่ถึง 1 อาทิตย์เลย )

ของที่ คิดๆว่า น่าจะยังถอดมาขายได้ เท่าๆที่นึก ก็
- มอเตอร์เดินเบา เพิ่งเปลี่ยน ของใหม่เอี่ยมเลย ไม่ถึง 1 เดือน
- คอลย์ ของ SAGEM ใหม่แกะกล่องเลย  เพิ่งเปลี่ยน ไม่ถึง 5 เดือน
- สายหัวเทียน นี่ก็ใหม่กริ๊บ ของแท้ๆ เปลี่ยนพร้อมคอลย์  ไม่ถึง 5 เดือนอีกเช่นกัน 


อื่นๆ ก็ ยังพอไปวัดไปวาได้   แต่ลองดูก่อน จะซ่อม หรือ จะ เปลี่ยนดี   แต่ใจมันเอียงไปทาง XU10J4 ตั้งกะก่อนเครื่องพังไปแล้ว .....

---

ให้ลองดูที่งบของเราก่อนดีที่สุดครับ

แต่ถ้าในอนาคตคิดจะเปลี่ยนเครื่องอยู่แล้ว ผมคิดว่าลงทุนครั้งเดียวไปเลยดีกว่าครับ

ถ้าซ่อมเสร็จแล้วอนาคตจะเปลี่ยนเครื่องก็จะกลุ้มใจอีกเสียดาย พึ่งซ่อมไปไม่นานเอง อะไรประมาณนี้ครับ

ผมคิดว่าเครื่องตัว XU 10 J4R เป็นทางเลือกที่ดีครับ แต่ไม่จำเป็นอย่าเอามาแต่เครื่อง ควรเอาเกียร์มาด้วยครับ แต่ถ้าหาเครื่องพร้อมเกียร์กระปุกไม่ได้ ก็เอาชนเกียร์ของ SRI ก่อนก็ได้ครับ อัตราทดเกียร์ไม่เหมือนกันก็จริง แต่วิ่งได้ดีกว่าเก่าแน่นอน

ถ้ากลัวว่าเครื่องเก่าจากญี่ปุ่นจะวิ่งมาเยอะ คงไม่ต้องกังวลเพราะ เท่าทีเคยสัมผัสมา เครื่องรุ่นนี้ เวลาติดหัวมาจะวิ่งกันแค่ไม่กี่หมื่นโล เต็มที่ ที่เจอมาก็แค่ แสนนิดๆ ครับ

ส่วนในอนาคตก็คงไม่ลำบาก เพราะอะไหล่มีเข้ามาจากญี่ปุ่นค่อนข้างมาก และยังมีอะไหล่ของศูนย์ และเอกชัยอีกครับ

ส่วนเรื่องเครื่อง ถ้าจะหาเองให้ไปดูที่เชียงกงครับ หรือสอบถามไปที่อู่ช่างแว่นก็ได้ เพราะตอนนี้พี่แว่นทำแต่ Xu10J4R ซะเยอะ ส่วนมากจะลงใน 306 ครับ ส่วนคันคุณลุงนพพรเป็น 405 ที่วางที่อู่ช่างแว่นตั้งแต่ 3-4 ปีที่แล้ว ทุกวันนี้ยังขับได้ปกติไม่มีปัญหาใดครับ

ส่วนเครื่องตัวเก่า ผมแนะนำว่าอย่าทิ้ง ให้แยกเป็นอะไหล่ขายครับ เอาเงินมาทำทุนใส่เครื่องใหม่

---

kong รู้เรื่องแอร์มั่งปะช่วยหน่อยกะว่าจะเข้าอู่พรุ่งนี้ครับ

---

พอรู้บ้างนิดหน่อยครับ ไม่ละเอียดมากครับ อาการเป็นยังไงครับ

---

เติมน้ำยาไป ได้อาทิตย์เดียวไม่เย็นอีกแล้วคับ มีแต่ลม ช่างบอกว่าคงรั่ว กลัวเสียค่าโง่อะ พอเติมที่เย็นเฉียบปกตินะครับ

---

ของผมรุ่น 405 Sri คับ

---

น่าจะมีรั่วซืมแน่นอนครับ

ส่วนมากที่พบบ่อยๆ ก็มีตรงที่เติมน้ำยาแอร์ครับ

เราสามารถตรวจสอบได้ครับ สตาร์ทรถ เปิดฝาที่เติมน้ำยาแอร์ออกมา แล้วเอาน้ำเปล่าหยดลงไป

ถ้ามีรั่วซึมตรงจุดนั้น(จุดนี้เรียกว่า ศรแอร์ ทำหน้าที่เป็นวาล์วกันน้ำยาแอร์รั่วกลับออกมาหลังจากเติม) ก็จะเห็นว่ามีฟองลอยออกมาครับ เช็คเสร็จก็ เป่าเอาน้ำที่หยดลงไปออกด้วยนะครับ

ถ้าไม่มีรั่วซึมที่จุดนั้น ให้เอาน้ำเปล่าผสมสบู่ แล้วลูบไปตามท่อส่งน้ำยาแอร์ครับ ถ้าจุดไหนรั่วซึมจะมีฟองอากาศครับ

ถ้ายังไม่เจออีก ต้องเช็คไปที่วาล์วแอร์ ให้ไล่จากท่อส่งน้ำยาแอร์ไปเรื่อยๆ จนจะเข้าตัวรถ จะมีกล่องพลาสติก ดำๆ กล่องหนึ่งมี ฝาปิดบนล่าง ให้เปิดออก แล้วเอาน้ำสบู่ที่ผสมไว้ลูบดูว่ามีรอยรั่วหรือฟองอากาศรึเปล่า

ถ้าไม่เจออีก คงต้องให้ช่างดูแล้วครับ อาจจะเป็นซึมตามด หรือซืมที่ตู้แอร์ในรถ

ผมรู้เท่านี้แหละครับ

---

แอร์รถทุกคันมีพื้นฐานในการซ่อมบำรุงคล้ายๆ กันครับ ไม่ต้องกังวล

---

-ครับ ขอบคุณครับ ยังไม่นอนอีกเหรอเนี่ย

---

กำลังจะนอนแล้ว พรุ่งนี้ทำงานครับ

---

แง  ของผมเครื่องก็เริ่มกลับบ้านเก่าเหมือนกันครับส่วนเกียร์ออโต้มันบินกลับฝรั่งเศษแล้ว เครียดเลยอะ 

---

เครื่อง Peugeot มันซ่อมบำรุงง่ายๆมากๆๆ นะครับ คิดดีๆ ก่อนนะตัวเอง

---

เท่าที่เคยได้ยินมา เครื่องของพวก 405 ในบ้านเรา

ควรจะโอเว่อร์ฮอลที่ 3 แสนกิโลครับ

ของผมตอนนี้ แสน 8 แล้ว  อยากลง D8 จังเลยยยยยย

แต่เครื่องเดิมมันก็ไม่เคยจะงอแงซักที

---

ของผม 441,XXX กิโล แล้ว ยังไม่เคยทำเครื่องเหมือนกัน แม้แต่ประเก็นยังไม่เคยเปลี่ยน วิ่ง 180 บ่อยเหมือนกัน สงสัยคงต้องวิ่งไม่เกิน 120 พอแล้ว กลัวเป็นเหมือน จขกท. ไม่อยากเสียตัง

---

เครื่องเปอร์โย น่าจะทนนะครับ ขนาด Limo ยังวิ่ง ไม่ต่ำกว่า 6 แสนโลเลยครับ ดุจากหน้าปัดแทกซี่

---

ถ้าสนใจเครื่องป่าวsriผมมีนะครับราไม่แรงครับ หรอถ้าจะเอาเครื่องD8ก็มีอุปกรณ์ครบครับ ติดต่อ083-4302568

---

อยากรู้ว่าเครื่องรถตัวเองยังแน่นอยู่หรือไม่

ลองไปวัดกำลังอัดดูครับ  แล้วจะทราบ

(รถผมวัดได้เกิน 180 psi ทุกสูบ แต่โดยเฉลี่ยแล้ว จะอยู่ที่ 185 psi ครับ)

สำหรับเครื่องเบนซินในรถยนต์   ถ้าวัดได้ต่ำกว่า 150 psi เท่าที่ถามช่างมา  เขาว่าสมควรเปิดฝาสูบอย่างแรงครับ

---

"อยากรู้ว่าเครื่องรถตัวเองยังแน่นอยู่หรือไม่

ลองไปวัดกำลังอัดดูครับ  แล้วจะทราบ

(รถผมวัดได้เกิน 180 psi ทุกสูบ แต่โดยเฉลี่ยแล้ว จะอยู่ที่ 185 psi ครับ)

สำหรับเครื่องเบนซินในรถยนต์   ถ้าวัดได้ต่ำกว่า 150 psi เท่าที่ถามช่างมา  เขาว่าสมควรเปิดฝาสูบอย่างแรงครับ"

แล้วจะไปวัดที่ไหนล่ะครับ

---

SMF Archive Funded by SMF For Free Free Forum Hosting
SMF Hacks