www.VlovePeugeot.com - Please Ctrl+D Bookmark Now!

VlovePeugeot.com Webboard


สื่อมวลชนทางยานยนต์เขากล่าวถึง405ครับ
405 เกาะหนึบ น่าใช้ ถ้ามีลู่ทางซ่อม
เปอโยต์ 405 ซีดานคลาส 2,000 ซีซีจากฝรั่งเศส ออกแบบโดยพินินฟารินา สำนักออกแบบรถยนต์ชื่อดังจากเมืองตูริน ประเทศอิตาลี ได้รับรางวัล CAR OF THE YEAR 1988 ในปีแรกที่เปิดตัว และเริ่มบุกตลาดเมืองไทยในอีก 1 ปีต่อมา ทำตลาดตั้งแต่ปี 1989 ทำตลาดแทรกระหว่างรุ่นเล็ก 305 / 309 และรุ่นใหญ่ 505 ช่วงแรกแบ่งเป็น 2 รุ่นหลัก คือ 405 GR และ 405 Mi16 และก็มีตามออกมาอีกหลายรุ่น เช่น SRi และ GRi ในตัวถังหลักเดียวกัน นับเป็นรุ่นสำคัญที่ทำรายได้ให้กับผู้แทนจำหน่ายในไทยตลอด 10 ปีที่ทำตลาดอยู่

รูปลักษณ์ภายนอกสวยแบบเรียบๆ แม้จะใช้ทรงเหลี่ยม ในขณะที่รถยนต์ในช่วงปี 1990 ส่วนใหญ่เน้นทรงมนกันเกือบทั้งหมด และหายากที่ใครจะบอกว่าไม่สวย ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะการออกแบบอย่างลงตัวโดยพินินฟารินา

ไฟหน้าทรงเฉียง กระจังซี่นอน ฝากระโปรงหน้าแบบเรียบ หัวฉีดน้ำกระจกหน้าติดตั้งรวมอยู่กับที่ปัดน้ำฝน มีสันร่องด้านข้างตลอดแนวด้านบนเสมือนเป็นเส้นนำสายตา มีคิ้วกันกระแทกรอบคันในแนวกลางของประตู แทรกด้วยโครเมียมขนาดเล็กเพิ่มความหรู ต่อเนื่องกับแถบบนชุดกันชน ฝากระโปรงหลังเปิดได้จรดแนวกันชน เพิ่มความสะดวกสบายในการขนย้ายสัมภาระ

405 GR ที่ทำตลาดเป็นรุ่นหลัก ใช้เครื่องยนต์รหัส XU9-C2 อะลูมินัมทั้งบล็อกเสื้อสูบและฝาสูบ เป็นแบบเบนซิน 4 สูบ SOHC 8 วาล์ว จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยคาร์บูเรเตอร์ ความกว้างกระบอกสูบ 83 มิลลิเมตร ช่วงชัก 88 มิลลิเมตร ความจุ 1,905 ซีซี (ถ้าจะเรียกต้อง 1.9 ไม่ใช่ 2.0 ลิตร) อัตราส่วนการอัด 9.3 : 1 กำลังสูงสุด 110 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 16.5 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 4 จังหวะ

ระบบเบรกแบบหน้าดิสก์/หลังดรัม พร้อมระบบปรับตั้งผ้าเบรกอัตโนมัติ ล้อแม็กขนาด 6 x 14 นิ้ว พร้อมยางขนาด 185/65 R14 พอดีว่าระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบคาร์บูเรเตอร์ ยังไม่ถือว่าเป็นจุดด้อยในยุคนั้น 405 GR จึงเป็นรถยนต์ยุโรประดับเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี ที่ถือว่ามีอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน ในราคาที่ไม่แพงกว่ารถยนต์ญี่ปุ่นระดับเดียวกันมากนัก จึงขายได้ฉลุย
405 Mi16 รุ่นพลังแรง ถูกนำมาทำตลาดเสมือนว่าเป็นรุ่นสร้างภาพพจน์ของรุ่นตัวถังนี้ เพราะสมรรถนะต่างจากรุ่น GR มาก ไม่เฉพาะความแรงของเครื่องยนต์เท่านั้น แต่รวมถึงระบบช่วงล่าง ระบบเบรกที่เหนือกว่าด้วย และที่สำคัญ คือ แพงกว่านับแสนบาท

405 Mi16 เครื่องยนต์รหัส XU9J4 ใช้บล็อกเสื้อสูบเดียวกันกับรุ่น GR คือ XU9 แต่ฝาสูบเป็นแบบทวินแคม 16 วาล์ว ใช้ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ความจุกระบอกสูบเท่าเดิมอยู่ในพิกัด 1.9 ลิตร กำลังอัด 10.4 : 1 ให้กำลังสูงถึง 160 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 18.4 กก.-ม. ที่ 5,000 ซึ่งถือว่าสูงมากในยุคนั้น รอบ/นาที ระบบส่งกำลังมีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะแบบ CLOSE-RATIO อัตราทดชิด ระบบเบรกแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมยางขนาด 195/60 R14

รุ่น Mi16 ถือว่ามาแบบครบๆ ดุจสปอร์ตซีดาน ไม่ต้องแต่งเพิ่มก็แรงสะใจ แต่ราคาที่แพงกว่ารุ่น GR มาก ในขณะที่ภายนอกเหมือนๆ กัน คนที่ใจและเงินไม่ถึงจริงก็เลยไม่ซื้อ ยอดรวมของรุ่น Mi16 จนถึงการหยุดผลิตจึงมีแค่ไม่กี่ร้อยคัน ต่างจากรุ่น GR ที่กวาดยอดจำหน่ายไปหลายพันคัน

หลังทำตลาดได้ประมาณ 4 ปี ก็มีการปรับโฉม-ไมเนอร์เชนจ์ จุดหลักที่เห็นได้ชัด คือ ภายในห้องโดยสาร เปลี่ยนแผงหน้าปัดเป็นแบบชิ้นเดียวรูปทรงโค้งมน มาตรวัดและสวิตช์ต่างๆ ออกแบบใหม่ทั้งหมด จำหน่าย 2 รุ่นหลัก คือ 405 SRi 2.0 เสมือนว่าทำตลาดแทนรุ่น GR 1.9 เป็นรุ่นหลักในการทำตลาด และ 405 GRi 1.6 เสมือนเป็นรุ่นประหยัด พอจะทำตลาดได้พอสมควร (มี Mi16 ด้วยแต่จำหน่ายได้น้อยมาก)

405 SRi ใช้เครื่องยนต์ XU10J2CZ หันมาใช้เสื้อสูบแบบเหล็กหล่อ เป็นแบบเบนซิน 4 สูบ SOHC 8 วาล์ว หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ความกว้างกระบอกสูบและช่วงชัก 86 มิลลิเมตร ความจุ 1,998 ซีซี (เรียกว่าเป็นพิกัด 2.0 ลิตรได้เต็มตัว) อัตราส่วนการอัด 9.5 : 1 กำลังสูงสุด 123 แรงม้า ที่ 5,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 18.3 กก.-ม. ที่ 2,750 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 4 จังหวะ ระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อ พร้อมยางขนาด 185/65 R14

405 GRi ใช้เครื่องยนต์ XUJPZ แบบเบนซิน 4 สูบ SOHC 8 วาล์ว หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ความกว้างกระบอกสูบ 83 มิลลิเมตร ช่วงชัก 73 มิลลิเมตร ความจุ 1,580 ซีซี อัตราส่วนการอัด 9.25 : 1 กำลังสูงสุด 90 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.5 กก.-ม. ที่ 2,600 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังมีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ระบบเบรกแบบหน้าดิสก์/หลังดรัม พร้อมยางขนาด 185/65 R14

ทุกรุ่นใช้ระบบบังคับเลี้ยวแบบแร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ ระบบช่วงล่างแบบอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเทรลลิงอาร์ม ทอร์ชันบาร์ โช้กอัพเฉียง พร้อมเหล็กกันโคลง

สำหรับคันในภาพนี้เป็นรุ่น 405 GRi ราคากลางรุ่นปี 1995 ประมาณ 270,000 บาท ปี 1996 ประมาณ 290,000 บาท และปี 1997 ประมาณ 300,000 บาท

GRi เป็นรุ่นที่ราคาถูกสุด สมรรถนะต่ำที่สุดในสายพันธุ์ 405 อุปกรณ์มาตรฐานจึงมีให้เท่าที่จำเป็น ก่อนซื้อควรคิดให้รอบคอบ เพราะถ้าจะติดตั้งเพิ่มภายหลังมักไม่คุ้มค่า หรือไม่เรียบร้อยเหมือนติดตั้งมาจากโรงงาน ขยับขึ้นไปหารุ่น SRi น่าจะคุ้มค่ากว่า

เครื่องยนต์ 1,600 ซีซี 8 วาล์ว หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีระบบที่ซับซ้อน ทนทานและบำรุงรักษาสะดวก แรงบิดในรอบต่ำดีพอตัวเท่านั้น และมีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เมื่อต้องฉุดลากน้ำหนักประมาณ 1 ตัน จึงแค่พอไปได้ อืดอาดสำหรับคนเท้าหนัก แต่ประหยัดน้ำมันฯ พอสมควร และถ้าใช้งานในเมืองเป็นหลัก อาจเมื่อยล้าจากการเหยียบคลัตช์ได้

ระบบช่วงล่างแบบอิสระ 4 ล้อ ทอร์ชันบาร์หลัง ซึ่งทำให้ห้องโดยสารด้านหลังกว้างขวาง ให้ความนุ่มนวลในช่วงความเร็วต่ำ-ปานกลาง และให้การทรงตัวดีในช่วงความเร็วสูง จนนับเป็นจุดเด่นที่สำคัญกันได้เลย แต่ถ้าเป็นรุ่น Mi16 ต้องบอกว่าหนึบ

หลายจุดที่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ ตัวถัง ต้องเลือกที่ไม่ชนหนักมา เครื่องยนต์ เกียร์ และช่วงล่างก็ตรวจสอบตามปกติ ส่วนเครื่องยนต์ ถ้าไม่ใช่รุ่น SRi ที่ใช้เสื้อสูบเหล็ก รุ่นอื่นๆ ควรตรวจสอบการรั่วซึมการร้าวของเสื้อสูบ และถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติ ควรทดสอบและตรวจสอบให้ละเอียด เพราะค่าซ่อมเกียร์ไม่ถูกเลย

จุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ อยู่ที่ราคา ณ วันนี้ ไม่ได้แพงกว่ารถยนต์ญี่ปุ่นในระดับเดียวกัน ปีใกล้เคียงกัน หรือถูกกว่า ทั้งที่ตอนป้ายแดงแพงกว่า


ส่วนหนึ่งที่ราคาตกมาก เป็นเพราะกระแสความนิยม และการร่ำลือถึงการซ่อมแพง ซึ่งก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ทั้งหมด หากรู้จักซื้ออะไหล่และแหล่งซ่อม ก็ไม่ทำให้กระเป๋าฉีก เพราะอะไหล่เทียบใช้ตามร้านอะไหล่ทั่วไปมีแพร่หลาย ทั้งแถบวรจักร บรรทัดทอง สะพานควาย ฯลฯ ราคาไม่แพงและคุณภาพดี

ส่วนการซ่อมควรระวังไว้นิด ที่อู่เปอโยต์โดยเฉพาะบางแห่งจะแพงไม่แพ้ศูนย์บริการ เพราะคิดค่าแรงถูกแต่บวกค่าอะไหล่เพียบ ดังนั้นถ้าไม่ใช่ระบบลึกๆ ซ่อมที่ไหนก็ได้ที่สะดวก เพียงแต่อะไหล่เชียงกงน้อยกว่ารถยนต์ญี่ปุ่นอย่างโคโรน่า และแอคคอร์ดมาก

หลายคนสนใจเพราะเห็นว่าเป็นรถยนต์ยุโรป สมรรถนะโดยรวมดี ซึ่งก็จริง เพราะช่วงล่างและระบบเบรกมั่นใจได้ เครื่องยนต์ในรุ่น GR 1.9 คาร์บิวฯ, SRi 2.0 หัวฉีด มีสมรรถนะทั้งอัตราเร่งและความเร็ว เพียงพอต่อการใช้งานของคนทั่วไป นอกจากรุ่น GRi 1.6 หัวฉีด เหมาะสำหรับคนใจเย็น ส่วน Mi16 นั้นแรงจริง แต่หาซื้อยาก เพราะถูกซื้อออกมาน้อย หาสภาพสวยๆ ยาก เพราะคนที่ซื้อมามักเท้าหนัก ไม่ขับจนโทรม ก็ชนมา (แต่ก็พอมีสวยๆ บ้าง)

ถ้างบฯ น้อยก็ต้องเลือกรุ่น GR ซึ่งปีเก่าหน่อย ต้องเน้นการรวนของเครื่องยนต์และคาร์บูเรเตอร์ไว้ด้วย แต่ถ้ากัดฟันซื้อรุ่น SRi ได้จะดีกว่า เพราะปีใหม่และสมรรถนะดีกว่า ไม่ว่าจะซื้อรุ่นไหน จุดสำคัญ อยู่ที่มีแหล่งซ่อมนอกศูนย์บริการที่ได้คุณภาพในราคามาตรฐานหรือไม่ (ในกรณีที่ไม่อยากเข้าศูนย์บริการ)

เปอโยต์ 405 เด่นมากในระบบช่วงล่าง สมรรถนะเครื่องยนต์ไม่อายใคร ห่วงหน่อยในเรื่องการซ่อม ถ้าหาซื้ออะไหล่เทียบใช้ได้ถึงจะน่าสนใจ
โดยคุณ : leo - leo ICQ : - [ 19 มิ.ย. 2546 , 17:45:43 น. ]

ตอบ
มาจาก thaidriver ใช่มั้ยครับ
โดยคุณ : odeng - Odeng [ 19 มิ.ย. 2546 , 21:33:23 น.]

ตอบ
นึกถึงตอนที่ผมหัดเล่น 405 ใหม่ๆ เลยครับ เพราะว่าผมก็อ่านจาก Thaidriver เหมือนกันครับ
โดยคุณ : Webmaster - Webmaster [ 19 มิ.ย. 2546 , 22:46:59 น.]

ตอบ
จากthaidriversครับ เห็นว่าน่าสนใจดีและคงมีบางท่านที่ยังไม่เคยทราบมาก่อน เลยเอามาให้อ่านกันครับ
โดยคุณ : leo - leo [ 20 มิ.ย. 2546 , 02:05:37 น.]

ตอบ
นอกจากความเห็นและคำแนะนำที่ได้จากท่านๆ สมาชิกในชมรมนี้แล้ว ก็บทความนี้แหละครับที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือก 405 SRi
โดยคุณ : สิงห์ป๋องแป๋ง - สิงห์ป๋องแป๋ง [ 20 มิ.ย. 2546 , 08:32:22 น.]

ตอบ
เหมือนกันครับ ผมก่อนซื้อ 405 มาใช้ก็เริ่มจากข้อมูลเปรียบเทียบของ thaidriver นี้แหล่ะครับสามารถรู้ได้ว่ารุ่นไหน มีจุดดี จุดด้อยอย่างไงก่อนการเริ่มหามาไว้ใช้ ดีครับช่วยกันนำเสนอ
โดยคุณ : เฮง - เฮง [ 20 มิ.ย. 2546 , 09:37:55 น.]

ตอบ
มี 405 อยู่คันหนึ่งแล้ว อยากได้อีกซักคัน แสนกว่าๆก็ชื้อได้แล้ว อะไหล่ถูกลงเยอะเลย
โดยคุณ : Gotji - Gotji [ 21 มิ.ย. 2546 , 00:20:55 น.]

ร่วมเสนอแนะความคิดเห็น....
กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว
อย่ากดยกเลิกกลางคัน อันจะเป็นเหตุให้ตัวเลขกระทู้ไม่ตรงได้ครับ 
จาก : *
email :
icq :
Username :
Password : สมัครสมาชิก
รูปภาพ :
ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้นครับ(ไม่เกิน 50K)

รายละเอียด
*
*

กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว
อย่ากดยกเลิกกลางคัน อันจะเป็นเหตุให้ตัวเลขกระทู้ไม่ตรงได้ครับ